ฝากขัง2เยาวชนผตห.คดีฆ่าฝังดินหนุ่มคู่อริ-ข่มขืนสาว-ยธ.เร่งคุ้มครองพยานหลังพบเหยื่อยังผวา

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

ตร.นำผู้ต้องหา "แก๊งปืนควาย" ลวงหนุ่มคู่อริฆ่าโหดฝังดิน-ข่มขืนแฟนสาว ฝากขังเพิ่มอีก 2 ราย ส่วน "สาวทอม" ส่งฝากขังพรุ่งนี้ -ด้าน รองปลัดยธ. สั่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ ลงพื้นเร่งให้การช่วยเหลือเหยื่อสาวแล้ว พร้อมเดินเรื่องคุ้มครองพยาน หลังพบเหยื่อยังหวาดผวา
         

วันนี้ (3 ก.พ.)   พัทลุง -  พ.ต.อ.วิชัย วิชยานฤพล ผกก.สภ.ศรีนครินทร์  กล่าวถึงความคืบหน้าคดี กลุ่มวัยรุ่นเมืองลุง "แก๊งปืนควาย" ลวงหนุ่มคู่อริฆ่าฝังดิน ข่มขืนสาว ก่อนจับตัวไปทำร้ายร่างกายแล้วจับโยนทิ้งเหว ริมถนนเขาพับผ้าสายพัทลุง- ตรัง เพื่ออำพรางคดี ว่า จากการสืบสวนสอบสวนกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้  เบื้องต้นพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ จำนวน 7 คน โดยมีนายคิว อายุ 19 ปี หัวหน้าแก๊ง เป็นคนวางแผนการก่อเหตุร้าย
         

จากการสอบสวนผู้ต้องหาและผู้เสียหายในเบื้องต้น ไม่พบว่า นายบอย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และนายคิม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี 2 ผู้ต้องสงสัย ที่มีพฤติกรรมเกเรและตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อคดี  มีส่วนพัวพันและเกี่ยวข้องในคดี  แต่ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ  ซึ่งจะได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นิวัตร ไชยรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.ศรีนครินทร์ พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน ไปนำตัวนายบอย และนายคิม มาสอบปากคำที่โรงพักต่อ
         

พ.ต.อ.วิชัย  กล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ปรีชา หาสังข์ พงส.เจ้าของคดี และกำลังชุดปราบปราม นำ 2 ผู้ต้องหาเยาวชนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทลุง  หลังจากนี้ทางตำรวจจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนนำส่งฟ้องอัยการ เพื่อนำส่งฟ้องศาล
         

อย่างไรก็ตาม  ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี  อีก 2 คน คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปฝากขังต่อศาลเด็กและเยาวชนพัทลุง และขออำนาจศาลเด็กฯ เพื่อนำ 2 เยาวชน ไปควบคุมตัวในสถานพินิจพัทลุงแล้วเมื่อวานนี้ ส่วน น.ส.ศิริมา ภูพวก อายุ 20 ปี สาวทอม 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเมื่อวานนี้  ทางตำรวจจะนำไปฝากขังต่อศาลพัทลุงในวันพรุ่งนี้
         

ด้าน พ.ต.อ.ชัยโรจน์ โพธิปฐม ผกก.สภ.นาโยง จ.ตรัง กล่าวว่า ในส่วนของ สภ.นาโยง จะทำสำนวนฟ้องร่วมกับ สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง และจะทำหนังสือไปยัง ผบช.ภ.9 เพื่อรับทราบ และขออนุมัติดำเนินการต่อไป

ทางด้าน นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เผยว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  ส่งพนักงานคุ้มครองสิทธิลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเหยื่อ  เพื่อแจ้งสิทธิและรับคำขอเงินช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ทั้งผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยจะได้รับค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ยังไม่ได้ประกอบอาชีพ และค่าตอบแทนอื่นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร ตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด
         

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้เสียหายหญิงบาดเจ็บที่รักษาตัวในโรงพยาบาลยังไม่สามารถให้การได้  จึงแจ้งสิทธิแก่มารดาของผู้บาดเจ็บแล้ว ทั้งนี้  จากการลงพื้นที่ดังกล่าวพบว่า  ทางฝ่ายผู้เสียหายและญาติมีความหวาดกลัวมาก  ต้องการให้มีการคุ้มครองพยาน  จึงมีการประสานส่งคำขอคุ้มครองพยาน เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  จึงได้เร่งสรุปเรื่องและขออนุมัติอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  อนุมัติสั่งคุ้มครองพยานในวันนี้ โดยเบื้องต้นประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่  จัดเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองพยาน จากสำนักคุ้มครองพยานลงไปดูแลแล้ว