แม่รับร่าง "ส.ต.อ.เฉลิมพล" กลับบ้านเกิด ไม่คิดว่าพูดเค้าลางให้ไปรับจะเป็นจริง

จากกรณีที่คนร้ายแต่งกายคล้ายทหารพราน 6 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน ใช้อาวุธปืน กราดยิงใส่โรงพัก สภ.นาประดู่ หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ. ปัตตานี เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 ม.ค 2562 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ ส.ต.อ. เฉลิมพล คมขำ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ต่อมาในเพจเฟซบุ๊ก ทีม "พิเศษ" และ คน "ชายแดน" เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพนาทีคนร้ายปฎิบัติการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ก่อความไม่สงบบุกเข้ามาพื้นที่ บริเวณด้านหน้า สภ.นาประดู่ จากนั้นก็ใช้เวลาประมาณ 30 วินาที กราดยิงถล่มเข้าไปในโรงพัก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานอยู่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในที่สุด

 

อ่านข่าว : 6 คนร้ายบุกกราดยิงสภ.นาประดู่ ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตร.พลีชีพ 1 นาย # R.I.P.
 

โดยร่างของ ส.ต.อ.เฉลิมพล คมขำ ตำรวจ สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่ถูกคนร้ายกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยิงเสียชีวิต ได้เดินทางมาถึงที่สำนักสงฆ์แหลมเศียร หมู่ที่ 16 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร จังหวัดบ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงเย็น วันที่ 14 ม.ค 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งร่างของ ส.ต.อ.เฉลิมพล  ที่คลุมธงชาติเดินทางโดยเครื่องบินจาก จ.ปัตตานี มาลงที่สนามบิน กองบิน 41 จ.สุราษฏร์ธานี แล้วเดินทางด้วยรถยนต์ ไปยังวัดแหลมเศียร ขึ้นไปบนภูเขาชะมด 

ขณะที่ทางด้านพล.ต.ต.สหรัฐ ผบก.ตร.ชุมพรได้สั่งการให้ ตำรวจตั้งขบวนแถวรอรับศพ พร้อมทั้งนำไปตั้งไว้ในศาลาบำเพ็ญกุศลศพ หลังจากนั้นได้ทำการเคารพศพและประกอบพิธีทางศาสนาเป็นวันแรก ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องที่มารอรับศพ 

 

ด้านนางอุไร คมขำ อายุ 53 ปี มารดาของผู้เสีสชีวิต เปิดเผยถึงเหตุการณ์สูญเสียลูกชาย บอกว่า เสียใจมาก เนื่องจากน้องตั้มเป็นลูกชายคนโตในลูก 3 คน เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงชองครอบครัว หลังจากจบช่างยนต์จากวิทยาลัยการอาชีพหลังสวน จ.ชุมพร ก็ไปเรียนปริญญาตรีในกทม. แล้วไปสมัครสอบไปเป็นตำรวจเพื่อรับราชการ ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ 5 ปี ตนอยากให้ลูกไปอยู่ในภพภูมิที่ดี และขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันทุกชาติ น้องตั้มเพิ่งกลับมาร่วมงานศพย่าเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ปกติลูกชายโทรมาคุยกันทุกวัน ก่อนเกิดเหตุ 7 วันได้พูดเป็นลางว่าอยากกลับบ้าน อยากให้แม่ไปรับกลับบ้าน พูดตลอดทั้ง 7 วันที่โทรมา แม่ก็ได้แต่บอกว่าให้อดทน เมื่อมีเวลาว่างจะรีบไปรับลูกกลับบ้าน ส่วนทางด้านนายจักรา คมขำ อายุ 56 ปี บิดาของส.ต.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า เสียใจมากตั้งใจให้ลูกมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่ต้องมาเสียชีวิต ก็ขอให้ลูกไปอยู่ในภพภูมิที่ดี 

ล่าสุดทางด้านน้องสาว ส.ต.อ.เฉลิมพล ได้โพสต์อาลัยต่อการจากไปของพี่ชายลงในฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า “อัจฉรา คมขำ” บอกว่า  รู้ตั้งแต่แรก รู้ตั้งแต่เริ่ม การที่พี่ตัดสินใจมาทำงานที่ตรงนี้มันมีความเสี่ยงสูง แต่พี่ก็มักพูดเสมอว่า ถ้าไม่คนเรามันจะตายยังไงก็ต้องตาย หนูรู้ว่าสักวันนึงต้องมีวันนี้ แต่พอมาถึงวันนี้ หนูทำใจรับมันไม่ได้จริงๆ จะทำใจยังไงถึงจะไหว

 

ตอนนี้พ่อกับแม่จะอ่อนแอสักแค่ไหน พี่บอกเสมอพี่รักและภักดีในการทำหน้าที่ตรงนี้ หนูรู้ว่าครั้งนี้พี่ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว พี่อาจมีความสุขที่พี่จากไปในหน้าที่ แต่คนทางนี้ตั้งกี่คนที่เสียใจกับการจากไปโดยไม่ได้ร่ำลา #ต้องเสียน้ำตาอีกแค่ไหนถึงจะทำใจได้ หนูไม่รู้เลยว่ารูปนี้จะเป็นเพียงรูปสุดท้าย มันไวเกิน มันไม่ไหวเลย อยากตื่นขึ้นมาแล้วให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน หนูไม่รู้จะเดินหน้าต่อไปยังไง หนูไม่รู้ต้องตั้งหลักยังไงให้ไหว คือหนูไม่รู้อะไรเลย หนูเชื่อว่าพี่คงไปสบายแล้ว พี่ทำหน้าที่ตรงนั้นดีที่สุดแล้ว พี่ไม่ต้องห่วงทางบ้าน #หนูสัญญาจะดูและพ่อแม่และน้องให้ดีที่สุด ให้เหมือนที่เราเคยคุยกันไว้ 26 ปีที่มีพี่เป็นช่วงที่ดีที่สุด ขอให้พี่ไปสู่สุขคติ หากชาติหน้าฉันใดหนูขอเกิดมาเป็นครอบครัวเดียวกับพี่อีก 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปิดเมืองล่า!! ออกหมายจับมือปืนเหิม ยิงตำรวจ สภ.วังชิ้นดับคาที่

- รวบแล้ว!!! มือยิงตำรวจ ปปส.ดับ สารภาพสิ้น..เพื่อนโทรเรียกให้มาช่วย เหตุยั้วขับปาดหน้ารถ ด้านผบช.ภ.8 ย้ำให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีสติ (มีคลิป)

 

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : อัจฉรา คมขำ