เปิดปมสังหาร! "เขยโหด" แค้นฝังลึก สูญเสียเงินให้ฝ่ายสาว 20ล้าน เพราะเสน่หา?

จากกรณีที่เขยโหด แค้นฝังลึก ยิงกราดเสียชีวิต 5 ราย เผยสาเหตุ สูญเสียเงินให้ฝ่ายสาว 20ล้าน เพราะเสน่หาเเล้วไม่ได้คืนจึงโกธรเเค้น

จากกรณี คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว และครอบครัวเสียชีวิตรวม 5 คน เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ 1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมาหลังจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถยนต์ของคนร้ายมาจอดทิ้งไว้ในโรงแรมเมญ่า ถนนพิษณุโลก-สุโขทัย ตำบลไผ่ขอดอน อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

เขยโหดฆ่ายกครัว

 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบว่า คดีนี้ พล.ต.ท.สุธีร์ เณรกัณฐี ผบช.ภ.6 และพล.ต.ต.พยูห์ ธนศรีสืบวงศ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ ลงไปกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนด้วยตนเอง สำหรับคนร้าย ทราบชื่อต่อมา คือ นายธีรพล ปิ้นอมร ตรวจสอบพบมีประวัติต้องคดีลักทรัพย์ ฉ้อโกง และเมาแล้วขับ สอบสวนบุคคลที่รอดชีวิตและเพื่อนบ้านข้างเคียง ระบุตรงกันว่า นายธีระพล มีพฤติกรรมชอบทำร้ายทุบตีภรรยา และคนอื่นๆ อยู่เป็นประจำ ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี มีการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีในการติดตามหลายอย่าง คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลการหลบหนีไปต่างประเทศ ตรวจสอบกับ ผบก.ถ.จว.อุตรดิตถ์ ระบุว่าล่าสุดยังอยู่ในวิสัยที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้อยู่

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับมูลเหตุจูงใจเบื้องต้นวางหลักในเรื่องความหึงหวงเป็นตัวตั้งก่อน และด้วยนิสัยของผู้ก่อเหตุที่มักชอบใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัวอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นกรณีที่ภรรยามีชายอื่นมาติดพันหรือไม่นั้น ตรงนี้คิดว่าเป็นความเข้าใจของเขาเองมากกว่าที่จะขอคืนดีกับภรรยา แต่ภรรยาไม่ยินยอม เพราะพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุไม่เหมาะที่จะร่วมชีวิตด้วย จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

 

เขยโหดฆ่ายกครัว

ต่อมานั้น ได้ไปหาเบาะแสการสังหารโหดที่เกิดขึ้น โดยได้ไปสัมภาษณ์ เพื่อนบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า 

ในวันเกิดเหตุ ตนเห็นนายธีรพล หรือ ปุ๊ ขับรถมายังบ้านของแม่ยายในช่วงเช้า 09.00 น. ขับรถยนต์มาพร้อมนางสาวกัญญารัตน์ หรือ อ้อม แฟนสาว โดยตอนนั้นก็ยังเห็นนายธีรพล หรือ ปุ๊ นอนเล่นอยู่บนเปล จากนั้นก็ได้กลับออกไปกับแฟนสาว กระทั่ง 17.00 น. ตนเองนอนอยู่ในบ้านพัก ได้ยินเสียงดังปัง ๆ หลายครั้งติดต่อกัน ตอนนั้นคิดว่ามีคนเคาะสังกะสีข้างบ้าน จึงเปิดประตูออกมาดู พบว่านายธีรพลกำลังถอยรถยนต์ของตัวเองออกมาจากบ้าน เมื่อเห็นนางกนกวรรณ นายธีรพลก็เอาปืนยิงนางกนกวรรณทันที อีกจำนวน 3 นัด ขณะนั้นตนเห็นอาวุธปืนสีดำอยู่ในมือของนายธีรพล คาดว่าใช้มือซ้ายในการยิงนางกนกวรรณ เพราะมือขวาเขายังจับพวงมาลัยอยู่

ทั้งนี้ เมื่อเขาขับรถหลบหนีไป ตนจึงรีบวิ่งไปดูนางกนกวรรณ โดยสภาพศพของนางกนกวรรณ มือยังยกขึ้นมาอยู่ แต่ยกไม่สุด ขาดใจเสียชีวิตก่อน นอกจากนี้ ภายในบ้านพบว่า นางน้ำผึ้งและนางน้ำผาได้ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งตนเองไม่คาดคิดว่านายธีรพลจะมาก่อเหตุอุกอาจเช่นนี้ ตอนแรกยังคิดว่าเขายิงปืนขึ้นฟ้า ซึ่งที่ผ่านมา ตนเคยได้ยินว่านายธีรพลมักพูดจาข่มขู่และทะเลาะกับนางสาวกัญญารัตน์บ่อย ๆ แต่ไม่เคยถึงขั้นขู่พ่อตาแม่ยายของตัวเอง ซึ่งปมที่เขามีปากเสียงกันคาดว่าเกิดจากเรื่องหึงหวง

นอกจากนี้ นายธีรพลเคยทะเลาะอย่างรุนแรงกับนางสาวกัญญารัตน์ และนำรถพ่วงมาลากรถยนต์จำนวน 8 คัน กลับไปยังบ้านพักตัวเองที่ จ.พิษณุโลก โดยรถยนต์เหล่านั้น ตนทราบมาว่าถูกโอนให้เป็นชื่อของพ่อตาเป็นเจ้าของ เนื่องจากนายธีรพลอ้างว่าตัวเองเคยเป็นคนล้มละลายมาก่อน จึงโอนมาให้เป็นชื่อของพ่อตาในตอนหลัง ซึ่งตนทราบอีกว่านายธีรพลหมดเงินไปกับนางสาวอ้อม และครอบครัวร่วม 20 ล้านบาท

เขยโหดฆ่ายกครอบครัวภรรยา

ด้าน สารวัตรกำนัน หมู่ 1 เปิดเผยว่า ปกติแล้วนายปุ๊มักพกพาอาวุธปืนเป็นประจำ ทั้งยังเคยยิงปืนขึ้นฟ้าอยู่บ่อย ๆ โดยนายปุ๊อ้างว่า ประกอบอาชีพเล่นหุ้น ทำให้มีฐานะ โดยเงินที่ได้มาก็นำมาช่วยจุนเจือครอบครัวนางสาวอ้อม ทั้งยังซื้อบ้านให้มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซื้อรถไถให้อีก 800,000 บาท เป็นเงินสด นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์จำนวนเกือบ 10 คัน จอดไว้ภายในบ้านของนางสาวอ้อมด้วย นอกจากนี้ รถกระบะและรถยนต์หลายคัน นายปุ๊ได้ถ่ายโอนเป็นชื่อของนางสาวอ้อม และนายวิรัตน์ พ่อตา

นอกจากนี้ ความร่ำรวยของนายปุ๊ ยังซื้อรถกระบะให้เป็นชื่อของนายเอกราช น้องเขยของนางสาวอ้อมอีกด้วย ทำให้ครอบครัวนี้เรียกได้ว่าลืมตาอ้าปากได้เพราะผู้ชายชื่อปุ๊ ทั้งยังเคยเอาเงินฝากในบัญชีพ่อตาให้ร่วมล้านกว่าบาท ซื้อทองให้ใส่ โดยทรัพย์สินที่นายปุ๊ยกให้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน