รวบ สองผัวเมีย ค้ายาบ้า สั่งของ โดยการส่งพัสดุ ส่วน อีก ราย จับสาวแสบ ฉ้อโกง หลอกขายประกันรถยนต์

วันนี้ (23เม.ย.62) ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว รองผู้บังคับการ สายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ (191) พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นางสาวรัตนา แสนป้อง และ นายพงษ์สิทธิ์ วรการพัฒน์ พร้อมของกลาง ยาบ้า 2 หมื่นเม็ด เฮโรอีน 300 กรัม รถจักรยานยนต์ 1 คัน และสมุดบัญชีเงินฝาก 6 เล่ม มีเงินหมุนเวียน 5 แสนบาท ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้สืบทราบมาว่ามีกลุ่มขบวนการยาเสพติด ลักลอบนำยาเสพติดจากทางภาคเหนือ เข้ามาจำหน่ายในกรุงเทพฯและปริมณฑล ใช้วิธีการส่งพัสดุผ่านบริษัทเอกชน โดยจะส่งมายังบ้านเลขที่ 111 / 430 หมู่บ้านกานดาริมคลอง ซอย 20 ถนนพระราม 2 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่พื่อเฝ้าสังเกตุการณ์ตามที่ได้รับแจ้งข้อมูล จนกระทั่งมีพนักงานส่งของนำพัสดุมาส่งที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นและเปิดกล่องพัสดุพบยาบ้าจำนวน 2 หมื่นเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่อง และเมื่อเข้าค้นภายในบ้านพัก พบนายพงษ์สิทธิ์ วรการพัฒน์ ผู้เป็นสามี พร้อมกับเฮโรอีนอีก 300 กรัม

เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมด ก่อนนำผู้ต้องหาทั้งสอง ไปสอบสวนซึ่งทั้งสองให้การรับสารภาพว่ารับยาเสพติดมาจากนายซางตี๋ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายพงษ์สิทธิ์ หรือนายตี๋ โดยได้ค่าจ้าง 3 หมื่นบาท ก่อนจะทำการส่งยาเสพติดให้กับนักค้ารายย่อยในพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยการจัดส่งมาทางพัสดุซึ่งยาเสพติดดังกล่าว ต้นทางมาจากชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ภาคเหนือ เบื้องต้นแจ้งข้อหาต่อ น.ส.รัตนา และ นายพงษ์สิทธิ์ ฐาน"ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย" และข้อหา "มียาเสพติดให้โทษประเภท1(เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย" ก่อนส่งตัวสองผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลจับกุมไปยังนายซางตี๋ ผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นพี่น้องกับนายพงษ์สิทธิ์ต่อไป

ส่วนอีกหนึ่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ191 สามารถจับกุมตัว นางสาวจุฑาภาศ อังกาพย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉัอโกง และคดีอื่นๆ อีกเกือบ 10 หมายจับ ที่ก่อเหตุหลอกขายประกันภัยรถยนต์ โดยไปซื้อข้อมูลลูกค้ารายชื่อละ 3 บาท จากนั้นก็จะโทรไปเชิญชวนเหยื่อให้ทำประกันรถยนต์ โดยให้ข้อเสนอที่เร้าใจ มีเหยื่อหลงเชื่อซื้อประกันจากผู้ต้องหาไปหลายราย แต่ละรายต้องจ่ายเงินค่าประกันให้รายละ 1 หมื่น 8 พันบาท สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท

สอบสวนให้การว่า ผู้ต้องหาเคยเป็นพนักงานบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง จึงรู้ช่องทางหลอกลวง และก่อเหตุมาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ ซึ่งล่าสุดได้ไปก่อคดีฉัอโกง จนศาลแขวงพระนครใต้ อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 16 มกราคม62 ที่ผ่านมา

(cr.อนุวัฒน์ คนทำข่าว กรุงเทพฯ ทีมข่าว123คนดีมีน้ำใจ)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: ปฏิบัติการบุกจับนักค้ายา ลงทุนเช่าบ้านขายไอซ์ พร้อมบริการเสพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: เปิดนาทีปฏิบัติการล่อซื้อสาวใหญ่ พร้อมญาติค้ายาให้ลูกหลานตัวเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รวบผู้ต้องหาค้ายาบ้า พร้อมอาวุธปืนและกระสุนจำนวนมาก