- 23 มิ.ย. 2562
อุบัติเหตุบนทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ช่วงด่านบางจาก(เชื่อมบูรพาวิถี) เมื่อเช้ามืดวันที่ 23 มิ.ย.62
กรณีอุบัติเหตุ บริเวณทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ช่วงด่านบางจาก(เชื่อมบูรพาวิถี) เหนือคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา ที่เกิดเหตุเป็นรถเก๋ง 2 คันชนกัน คือ เบนซ์ป้ายเเดงสีดำ กับ ฮอนด้ส ฟรีด มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 2 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมาเวลา 04.30น.
ที่เกิดเหตุพบรถ นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อฮอนด้ารุ่น FREED สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กษ 3654 กรุงเทพ มีรอยถูกชนท้ายฝั่งซ้ายอย่างรุนแรง ประตูด้านผู้โดยสารหลุดออก หน้ารถกันชนหลุดออก จอดอยู่เลนซ้ายสุด ลักษณะขวางทาง ไกล้กันพบรถนั่งส่วนบุคคลยี่ห้อ เบนซ์ สีดำ ทะเบียนหมายเลข ล-1980 กรุงเทพ ป้ายแดง ด้านหน้ารถฝั่งซ้ายมีรอยชนฝากระโปรงยุบ ลักษณะจอดหันหน้า ย้อนศรกับถนนผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.ไปก่อนหน้านี้
เบื้องต้นทราบได้รับแจ้งรถนั่งส่วนบุคคลฮอนด้า มากันทั้ง 3 คนเป็นหญิง 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูให้การช่วยเหลือนำส่ง โรงพยาบาลใกล้เคียงไปก่อนยังไม่ทราบชื่อและยังผู้เสียชีวิต เป็นชายได้กระเด็นออกจากตัวรถคันดังกล่าวประมาณ 5 เมตร แต่งกายใส่ กางเกงขาสั้น สีครีมเสื้อยืดคอปกสีเขียว มีบาดแผลบริเวณใบหน้าเลือดไหลออกจำนวนมาก
ทราบชื่อนาย สมคิด ใจเย็น อายุ 35 ปี เป็นชาวจังหวัดเชียงราย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทางด่วน 1 ยังไม่สรุปสาเหตุการเหตุครั้งนี้ ต้องไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งพิสูจน์สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาและติดต่อญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
โดยทางพ.ต.ท.ศิรณวิทย์ อินอ่อน รอง ผกก. สน.ทางด่วน 1 เปิดเผยเบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดประกอบกับที่ผู้บาดเจ็บให้การทราบว่า รถยนต์ ฮอนด้า ฟรีด มาด้วยกัน 3 คน เพิ่งกลับจากไปซื้อของย่านสำเพ็ง ขณะวิ่งอยู่บนทางด่วนได้ยินเสียงคล้ายเหยียบอะไรบางอย่าง จึงนำรถชิดไหล่ทางด้านซ้าย แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ทางด่วนฯ ระหว่างนั้นจึงลงจากรถมาเพื่อตรวจดูรถ โดยผู้เสียชีวิตอายุ 35 ปี ซึ่งเป็นชายคนขับได้ก้มลงไปดูใต้รถ ส่วนผู้บาดเจ็บหญิงอีก 2 คนที่ยังอยู่โรงพยาบาล เป็นแฟนและพี่สาว ก็ลงจากรถมาด้วย จากนั้นไม่กี่นาที ก็มีรถเก๋ง เบนซ์ ป้ายแดง คันดังกล่าว ขึ้นมาจากด่านพระราม 9 ขาออก ขับมาด้วยความเร็วและชนเข้าที่ด้านท้าย
สำหรับชายที่ขับรถเบนซ์ อายุ 29 ปี ได้รับบาดเจ็บ ยังอยู่ที่โรงพยาบาล มีอาการฟกช้ำตามร่างกาย แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ ให้การว่าตอนขับรถรู้สึกง่วงนอนและวูบ หลังเกิดอุบัติเหตุยังอยู่ในอาการตกใจ ให้การอะไรไม่ได้มาก และเนื่องจากได้รับบาดเจ็บตำรวจจึงไม่สามารถตรวจแอลกอฮอล์ได้
แต่ยืนยันว่าได้ร้องขอให้ทางโรงพยาบาลเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจแอลกอฮอล์ในทันทีที่ถึงโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นระเบียบปฏิบัติที่ต้องทำอยู่แล้ว ส่วนผลตรวจอาจจะต้องรอวันรุ่งขึ้น พนักงานสอบสวนจะเป็นผู้รวบรวมเพื่อนำมาประกอบสำนวน นอกจากนี้ยังพบว่า รถเก๋ง เบนซ์ ป้ายแดงคันดังกล่าว ใช้มานานกว่า 1 ปี ไม่มีประกันภัย แต่มารดาของคนขับแจ้งว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลและชดใช้ค่าเสียหายให้
ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกฎหมายรองรับให้ตำรวจสามารถตรวจแอลกอฮอล์ผู้ขับรถได้ทันทีที่จุดเกิดเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุบัติเหตุนั้นมีผู้เสียชีวิต หรือหากผู้ขับรถปฏิเสธกันเป่า ก็สามารถสรุปได้ทันทีว่าเมาแล้วขับ อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติกลับพบว่าที่จุดเกิดเหตุตำรวจมักไม่ได้ตรวจแอลกอฮอล์ แต่มาตรวจในภายหลัง ซึ่งตามปกติร่างกายจะขับแอลกอฮอล์ออกมาแทบทุกนาทีอยู่แล้ว ยิ่งผ่านมาเป็นชั่วโมงก็มักจะได้ค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่ตรงกับความเป็นจริง เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการบังคับใช้กฎหมาย
ขอบคุณ
js100