ภรรยาเมฆ วินัย เปิดใจหลังสามีไม่สบาย สัญญาจะรักและดูแลเหมือนเดิม

จากกรณีที่ "เมฆ วินัย ไกรบุตร" ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง จะมีตุ่มขึ้นทุกที่ โดยขึ้นที่หัว หน้า คอ รักแร้ แขน ฝ่าเท้า ซึ่งจะพบได้ 1 ใน 4 แสนคนเท่านั้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เมฆ วินัย ป่วยโรคหายาก เผยพบ 1 ใน 4 แสนคน (คลิป)

โดยคนไทยป่วยไม่ถึง 10 คน  หมดเงินค่ารักษาไปหลายเเสนบาท สำหรับสาเหตุอาจเกิดมาจากตนนอนดึก ออกกำลังกายเยอะไป จึงทำให้ผิวหนังเหมือนขาดเมตาบอลิซึม จึงทำให้เกิดเป็นโรคนี้ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

 

 

โดยเจ้าตัวก็ได้รับกำลังใจดีๆ จากลูกและภรรยา พร้อมสัญญาว่าจะกลับมาแข็งแรง และจะรักษาอาการป่วยให้หาย พร้อมกลับมาวิ่งกับเพื่อนๆ ชมรมนักวิ่งอีกครั้ง ขณะที่ทางด้านศ.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ หัวหน้าสาขาวิชาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้แถลงข่าวเปิดเผยอาการ โรคผิวหนังมีจำนวนหลายพันโรค เพราะผิวหนังเป็นอวัยวะที่อยู่ภายนอก เมื่อเกิด ผื่น ตุ่ม ฝี หรือมีร่องรอยต่าง ๆ มักจะเห็นได้ง่าย

 

จึงทำให้มีการตั้งชื่อโรคผิวหนังต่างๆ มากมาย บางชื่ออาจไม่เป็นที่คุ้นหูมากนักสำหรับคนไทย อาทิ เพมฟิกอยด์ ทำให้เข้าใจว่าเป็นโรคใหม่ ทั้งที่จริงมีมานานแล้ว ร่างกายของแต่ละคนมักมีโอกาสทำงานผิดปกติ โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว อาจเนื่องมาจากสาเหตุที่ระบบอื่น ๆ ในร่างกายเข้ามาจัดการควบคุมดูแลกันเอง ทำให้ไม่มีอาการแสดงออกมา 

ขณะที่เมฆ วินัย ได้บอกทั้งน้ำตาว่าตนเองเครียดกับอาการป่วย แต่ใจยังเข้มแข็งพร้อมสู้ โดยมีความหวังว่าจะหายขาดได้ 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ภาวนาทุกวันคืน "เมฆ วินัย" ขอฮึดสู้อาการป่วย สัญญาจากใจ ผมจะกลับมาวิ่งให้ได้อีกครั้ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กำลังใจมาล้น!! แพทย์จุฬาฯแถลงอาการ"เมฆ วินัย" ผิวหนังตุ่มพอง ไม่ใช่โรคใหม่ เจ้าตัวเครียดเปิดใจทั้งน้ำตา

 

 

และอีกหนึ่งกำลังใจที่สำคัญที่คอยอยู่เคียงข้างนักแสดงหนุ่มชื่อดัง เมฆ-วินัย ไกรบุตร ขณะที่เข้ารับการรักษาจากอาการป่วยตุ่มน้ำพอง ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็คือภรรยาสาว เอ๋-อรชัญญาช์ ไกรบุตร ที่เจ้าตัวได้เปิดใจทั้งน้ำตา ว่าหลังจากนี้ สามีจะเป็นยังไง เธอก็รัก ถึงแม้จะป่วยด้วยสาเหตุแบบนี้ ไม่ได้หล่อ ก็จะรักและดูเหมือนเดิม 
 

 

 

 

ล่าสุดเอ๋-อรชัญญาช์ ไกรบุตร ได้เปิดใจเล่าว่า สามีจิตตกมาก เพราะปวดแสบปวดร้อนกับสิ่งที่เป็น และกลัวลูกเมียจะลำบากหรือรังเกียจตน ซึ่งทางเธอเองเห็นแล้วก็ไม่สบายใจ หากเจ็บปวดแทนกันได้ก็คงจะดี เขาจิตตก เพราะว่าเขาทรมานมาก มันเจ็บแสบและปวดมาก เพราะว่าทั้งคัน ปวดแสบปวดร้อน นอนไม่ได้ 2 เดือนที่เราสองคน สามี-ภรรยา ไม่ได้นอนเต็มที่เหมือนคนอื่นเขานอนกัน

 

 

 

นอนได้วันละ 1-2 ชั่วโมง เป็นอย่างนี้มา 2 เดือนจนวันหนึ่งเราเหมือนเจอทางสว่าง เจออาจารย์หมอประวิทย์ พอเราเจอปุ๊บแล้วท่านบอกว่าที่นี่มียารักษาและมันสามารถหายขาดได้ มันเหมือนคนแบบว่าอยู่ในที่มืดแล้วเจอที่สว่าง เราก็ดีใจ

 

 

 

ตอนนั้นเขาก็คิดว่าเขาอยู่วงการไม่ได้แล้ว มันเป็นช่วงที่เขาจิตตกที่สุด เขาโทรมาบอกว่าเตรียมแผนการณ์ไว้แล้ว ถ้าทำงานไม่ได้ให้ขายที่ มีที่หลายที่ให้ทยอยขายเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูลูก แต่เราว่ามันไม่ใช่ ก็บอกเขาตั้งสติก่อน บอกใจเย็นๆ มันต้องมีวิธีการรักษา โรคนี้ เราก็เชื่อ เรามั่นใจในสถาบันว่าที่นี่รักษาเขาหายได้ ก็ให้เขาค่อยๆ รักษาไปก่อน หรือถ้ามีปัญหาอะไรก็ค่อยมานั่งคุยกันไม่ให้คิดไปคนเดียว

 

 

วันที่เห็นเขาทรมานมากๆ หากเจ็บแทนได้อยากทำ แต่ในความเป็นจริงมันทำแทนกันไม่ได้ เราเห็นเขาแล้วเราสงสารเพราะว่าเขาเป็นคนที่เข้มแข็งมาก การที่เขาบอกว่ามันเจ็บ มันแสบ มันปวด มันทรมานไม่ไหว อันนั้นคือที่สุดแล้ว เพราะว่าพี่เมฆเป็นคนที่ทุ่มเทในทุกเรื่อง ดังนั้นเขาจะไม่บ่นต่อหน้าเมีย ต่อหน้าลูกเลย ถ้าเขาพูดมันคือที่สุด

 

 

 

จากคนหล่อมากๆ  ณ วันหนึ่งเกิดแผลเป็นพุพอง เป็นน้ำเหลือง เขาหมดกำลังใจขนาดไหน? ทางด้านภรรยาบอกว่า เขาจิตตก เขาคงคิดว่าลูกเมียจะรังเกียจไหม อะไรไหม เราทำให้เขาเห็นว่ามันไม่เกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอก คนเราเวลาเรารักกัน ตอนที่เขาดีเรารับได้ ตอนที่เขาเป็นอย่างนี้เราก็ต้องรับให้ได้ เราก็ต้องรักให้ได้ แต่ในความรู้สึกเราคือเรารู้สึกว่ามันไม่ได้น่ารังเกียจ เรารู้สึกว่านี่คือสามีเรา ดูแลทุกอย่างเหมือนเดิม

 

 

สำหรับตัวยาราคาค่อนข้างสูงเข็มละ 58,000 บาท นั้น คุณเอ๋ก็เล่าว่า ก็คุยกับคุณหมอ อย่างที่คุณหมอบอกพยายามอยากผลักดันยาตัวนี้ เพราะว่าอย่างที่บอกคนไทยไม่ได้มีเงินทุกคน ดังนั้นถ้ายาตัวนี้มันผ่านแล้วรัฐบาลช่วยเหลือคนในประเทศไทยที่เจ็บป่วยอีกหลายพันคนมันคือชีวิตที่ดีขึ้น

 

 

มันคืออนาคตของเขาอย่างที่คุณหมอบอก ทางครอบครัวไม่ได้ไม่กังวลเรื่องเงิน ไม่กังวลเลย เราไม่มองเรื่องค่าใช้จ่าย มองแต่ว่าเมื่อไหร่ที่เขาหายหรือเขารู้สึกดีขึ้นอย่างที่เอ๋บอกพี่เมฆเป็นคนแคร์ทุกคน ถ้าเรากังวลเขารู้ทันที ดังนั้นเอ๋จะไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น