รวบเเก๊งขอทานจีน เเกล้งเป็นใบ้ เอาเงินไปผลาญเล่นการพนัน

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บุกทลายแก๊งขอทานชาวจีน อ้างเมียป่วยเป็นมะเร็ง ต้องเร่ขอเงินไปรักษา ขยายผลพบตระเวนบินก่อเหตุทั้งในไทย มาเลย์ และเวียดนาม

 

โดยมีการเผยคลิปเหตุการณ์ขณะที่แก๊งขอทานชาวจีนกำลังเร่ขอทานชาวประชาชน และนักท่องเที่ยวสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ก่อนที่จะส่งมาแจ้งให้กับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจสอบ ซึ่งในวันนี้ (28 พ.ย.62) พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้แถลงผลการจับกุมแก๊งขอทานชาวจีน แสรั้งทำเป็นใบ้ หูหนวก ถือป้ายหลอกเป็นโรคร้าย ขอเงินนักท่องเที่ยว ตระเวนก่อเหตุในหลายประเทศ ทั้งไทย มาเลเซีย และเวียดนาม สลับกันไป

สืบเนื่องจากทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มชาวจีนเข้ามารบเร้านักท่องเที่ยวด้วยการเดินถือป้ายข้อความต่างๆ และแสร้งทำเป็นคนใบ้ หูหนวก เรียกความสงสาร สร้างความเดือดร้อนต่อนักท่องเที่ยว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่สืบหากลุ่มบุคคลตังกล่าวย่านสุขุมวิท พระโขนง ก็พบกับ นายตัน สัญชาติจีน วัย 61 ปี ขณะที่กำลังเรี่ยไรขอเงินบุคคลทั่วไป

 

โดยถือป้ายมีข้อความว่า "ขอความช่วยเหลือ ภรรยาของฉันป่วยเป็นมะเร็งเม็ดโลหิตขาว รักษาอยู่ในโรงพยาบาลต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก จึงวอนขอความช่วยเหลือจากท่านทั้งหลาย" จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบ ซึ่งทางนายตัน ได้ตบตาเจ้าหน้าที่ใช้ภาษามือบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นใบ้ หูหนวกไม่ได้ยินเสียง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ 

 

จึงได้ทดสอบหลายอย่างจนนายตันทนไม่ไหว เผลอพูดออกมาเป็นภาษาจีน จึงได้ประสานไปยังล่ามภาษาจีน ภายหลังรับว่าตนเองไม่ได้เป็นใบ้ หูหนวกแต่อย่างใด และภรรยาก็ไม่ได้ปวยตามที่กล่าวอ้าง ก่อนที่จะสืบสวนขยายผล ทราบว่ามีเพื่อนร่วมแก๊งอีกหลายคน อาศัยอยู่ในโรงแรมย่านสถานีรถไฟหัวลำโพง จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรมดังกล่าว พบเพื่อนร่วมแก๊งขอทานชาวจีนอีก 3 ราย กำลังนั่งจับกลุ่มมั่วสุมอยู่ในห้องพัก จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน

 

 

จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ในแต่ละวันจะขอทานได้เงินวันละไม่ต่ำกว่า 2,500 บาท โดยจะนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการขอทานมาเล่นการพนันกัน โดยขอทานชาวจีนกลุ่มนี้มาจากมณฑลหูเปย สาธารณฐประชาชนจีน ได้เดินทางโดยเครื่องบินไปขอทานในหลายประเทศ เช่น ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม สลับกันไป

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา "กระทำการอันเป็นขอทาน" พร้อมทั้งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ด้วยเหตุผล ไม่มีปัจจัยยังชีพตามควรแก่กรณีที่เข้ามาในราชอาณาจักร" ก่อนจะขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป