แม่เล่าเสียงสั่น เปิดภาพกล้องวงจรปิดแฉ ลูกสาวไปทัศนศึกษา

จากกรณีที่มีผู้หญิงคืนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "โรงเรียนเอาเด็กไปทัศนศึกษาแต่ไม่ดูแลเอาใจใส่ และไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ปล่อยให้เด็กจมน้ำเสียชีวิต แล้วมาปล่อยข่าวว่าเด็กมีโรคประจำตัว ถ้าไม่ยอมรับผิด ก็อย่าโยนความผิดให้คนตาย คนตายลุกขึ้นมาโต้ตอบไม่ได้ ถ้าวันนั้นมาถึงลูกของคุณบ้าง จิตใต้สำนึกคงจะทำงาน ลูกเราผิดอะไร? ถึงต้องเอาชีวิตที่มีค่าที่สุด มาสังเวยให้กับความประมาทเลินเล่อของพวกคุณ! นี่หรือคือโรงเรียนที่ผู้ปกครองเชื่อถือและศรัทธากันทั่วจังหวัด พอกันที"

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนางสาวจิราภรณ์ เรืองเดชา อายุ 46 ปี แม่ของน้องมันตา อายุ 9 ปี เรียนอยู่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่าน อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี ที่เสียชีวิต โดยคุณแม่นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ผู้สื่อข่าวของเราดู ณ วินาทีที่เจ้าหน้าที่ประจำสระว่ายน้ำอุ้มน้องมันตาขึ้นมาปฐมพยาบาล หลังลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ แล้วจมหายลงไปที่ก้นสระ พร้อมกับเล่าว่า ลูกสาวไปร่วมกิจกรรมเข้าค่ายทัศนศึกษากับโรงเรียน ในวันที่ 19 ตุลาคม 62 ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พอไปถึงประมาณ 15 .00 น.ของวันเดียวกัน ลูกก็วิดีโอคอลกลับมา ว่าถึงแล้วนะ ห้องพักโรงแรมกว้างใหญ่ดีมาก ก่อนจะรีบบอกแม่ว่า ครูตามไปร่วมกิจกรรมว่ายน้ำแล้ว ขอวางสายก่อน

จากนั้น ลูกก็ขาดการติดต่อไป จนพ่อมาบอกช่วง 6 โมงเย็น ว่า ครูโทรมาแจ้งว่า ลูกจมน้ำเสียชีวิต ตอนนั้นยังไม่เชื่อ แล้วก็รีบขับรถพากันไปที่หัวหินในทันที เมื่อไปถึงก็พบศพลูก ถึงกับทรุดลงพื้น ทำอะไรไม่ถูก ลูกไปร่วมกิจกรรม 3 วัน 2 คืน ยังไม่ข้ามวันลูกเสียแล้ว และทางโรงเรียนก็ปัดความรับผิดชอบ อ้างว่าน้องป่วยเป็นโรงประจำตัวแล้วเสียชีวิตเองไม่ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำ ตนเก็บเรื่องนี้ไว้ เพราะอยากให้เวลาทางโรงเรียนแสดงความรับผิดชอบ แต่ผ่านมาเกือบ 2 เดือน ยังไม่มีความรับผิดชอบใดๆ จึงนำเรื่องนี้มาโพสต์ร้องขอความเป็นธรรม
 

ทั้งนี้แม่น้องมันตาบอกว่า สอบถามเพื่อนลูกสาวที่เป็นคู่บัดดี้กัน บอกว่าช่วงเกิดเหตุ พื้นสระเป็นขั้นบันได ก็พากันค่อยๆ เดินลงไป ก่อนจะลื่นแล้วไม่กลับขึ้นมาอีกเลย ตนรู้สึกเสียใจมาก ที่ให้ลูกห่างอกไปตาย ข้าวของที่ลูกเตรียมไป ก็ยังไม่ได้แกะออกจากกระเป๋าเลย ใช้ไปแค่ชุดว่ายน้ำวันที่เกิดเหตุเท่านั้น

ด้าน นายสมชาย โชติพันธ์ พ่อของน้องมันตา เล่าว่า ลูกเรียนเก่งมาก วาดฝันอนาคตไว้ไกล อยากเรียนการบิน อยากให้พ่อ แม่ พี่สาว และตระกูลภาคภูมิใจ แต่ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว วันที่ 19 ตุลาคม 2562 ตนเองรับสายจากครูที่โรงเรียน โทรมาบอก ตอนเวลา 18.04 น. ว่าลูกไม่หายใจแล้ว จะให้พ่อคุยกับหมอที่โรงพยาบาลใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตนเองพูดอะไรไม่ออก ขอให้หมอต่อเวลาลูก ช่วยชีวิตลูกต่ออีก10 นาทีได้ไหม ตอนนั้น ทำใจไม่ได้จริงๆ 

ขอบคุณคลิปจาก AMARIN TVHD