แม่เผยชนวนเหตุ เซลล์สาว

จากกรณี "น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์" หรือ "ต่อ" เซลล์ขายปุ๋ย หายตัวปริศนา เมื่อ 3 ปีก่อน จนพบเป็นศพห่อผ้าอยู่ภายในรถ ที่ถูกทิ้งจมน้ำอยู่ในคลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก อ.หนองโดน จ.สระบุรี ล่าสุด ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วซึ่งอีกฝ่ายให้การปฏิเสธ 

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55  - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (25 ธ.ค.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" ได้เปิดใจ สัมภาษณ์ "รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษพงค์ พูตระกูล" ผู้ช่วยอธิการบดี และปธ. กรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต  มาพร้อมกับ "ร.ศ.น.พ.วีรศักดิ์ จรัสชัยศรี" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชวิทยา   

ถามหมอก่อน นิติวิทยาศาสตร์เข้ามาตรงนี้ได้ยังไง? 

ร.ศ.น.พ.วีรศักดิ์ : "จริงๆ เรื่องนี้สำคัญมาก พอ 3 ปีมาพบศพ ประชาชนสงสัยว่าจะตรวจได้จริงหรือเปล่า หนึ่งเจอกระดูกอยู่ในรถ มีข้อมูลแค่นี้ จะตรวจพิสูจน์กระดูกว่าเป็นของบุคคลใดได้หรือไม่ ร่องรอยต่างๆ จะตรวจได้หรือเปล่า เลยเป็นข้อสงสัยว่าตร.จะจับตัวผู้กระทำความผิดได้หรือไม่"

อาชญาวิทยาเข้ามาได้ไง?

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษพงค์ : "เราดูมูลเหตุของการฆาตกรรมพฤติกรรมของคน คนเราจะฆ่ากันได้ มีไม่กี่เหตุผล ประการแรก ความขัดแย้งทางธุรกิจ สองเรื่องส่วนตัวเรื่องชู้สาว ความโกรธ ขัดแย้งขุ่นข้องหมองใจก็ฆ่ากันได้ ต่อมาเรื่องความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เรื่องศาสนา พฤติกรรม เวลาเรามาดูว่าการฆาตกรรมของคนที่เสียชีวิต เขามีประเด้นไหนบ้าง ใครเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ละประเด็น"

ส่วนที่พอจะทำให้พิสูจน์ได้ มีอะไรบ้าง?

ร.ศ.น.พ.วีรศักดิ์ :  "หลักๆ เลยตอนนี้ที่ตรวจพบครั้งแรกที่ไปงม พบโครงกระดูกอยู่ในรถ ต้องตรวจดีเอ็นเอ ทุกคนก็ลุ้นว่าเมื่อไหร่ผลจะออก เพราะในทางกฎหมายถ้ายังระบุไม่ได้ว่าเป็นใครก็ไปตามจับใครไม่ได้ แต่ทีนี้ลุ้นนานหน่อย เพราะกระดูกแช่ในน้ำ 3 ปี ต้องใช้เวลาสกัดดีเอ็นเอนานพอสมควร ก็เร่งกระบวนการมาก"

เรื่องชู้สาว ทำให้คนฆ่ากันมากน้อยแค่ไหน?

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษพงค์ :  "จริงๆ ประเด็นนี้สำคัญ ที่เป็นมูลเหตุพบในหลายๆ คดี การฆาตกรรมหลักๆ ส่วนใหญ่ก็มาจากชู้สาว ก็ต้องดูว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง คบหาใครได้ ตามข่าวบอกว่าคบเสี่ยอยู่คนหนึ่ง ที่อาจไม่มีใครกล่าวถึง ผมว่าการทำงานของตร. ต้องมีความเป็นมืออาชีพ เรื่องการสอบสวน เมื่อ 3 ปีที่แล้วการรวบรวมหลักฐานมีความสำคัญอย่างมาก ควบคู่ไปกับการสอบสวน อยางเช่นคุณแม่เขามาแจ้งความว่าลูกสาวหายไป ต้องดำเนินการทันที สอบพยานบุคคล พบเจอครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ สถานที่อยู่ กล้องวงจรปิด"

ตกลงเสียชีวิตก่อนอำพรางในน้ำ หรือไปตายในน้ำ?

ร.ศ.น.พ.วีรศักดิ์ : "กระดูกบอกถึงพฤติการณ์ได้ถ้ารุนแรง ถ้ายิงก็มีบาดแผลกระสุนปืนที่ศีรษะ แต่ถ้าเป็นการกระทำที่ไม่รุนแรงเราจะตรวจไม่ได้ ตกลงบอกได้มั้ย ตายก่อนลงไปในน้ำ หรือลงไปตายในน้ำ อันนี้ตอบไม่ได้ ถ้าเราไม่เจอบาดแผลอะไร"  

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษพงค์ :  "การฆาตกรรมแต่ละครั้งที่เกิดขึ้น คนร้ายเวลาก่อเหตุจะมีรูปแบบอำพรางที่แตกต่งกัน บางคนถ้าประสงค์ทรัพย์ อาจทิ้งเหยื่อไว้ที่เกิดเหตุ แต่ถ้ามีการวางแผนก็อาจอำพรางศพ ก็ยังบอกไม่ได้เพราะบางทีคนที่ทำอาจจะเถียงกัน พลั้งมือ ดูเหมือนเขาเสียชีวีต แต่เขาแค่สลบไป เอาเขาไปทิ้งก่อนเพื่ออำพรางก็มีนะครับ"

มองว่าฆาตกร ทำได้คนเดียวมั้ย หรือทำมากกว่า 1 คน?

ร.ศ.น.พ.วีรศักดิ์ :  "อันนี้ตอบยาก แต่ประเด็นที่ผมมอง วันนี้พนักงานสอบสวนจับ 2 คน ก็ฟังตามข่าวว่าอาจจะมีมากกว่านี้ พยานหลักฐานมันเชื่อมโยง บางทีแค่ช่วยเข็นรถก็เข้าแล้ว แต่ถามว่ากระทำผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งคนก็สามารถกระทำได้"

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษพงค์ : "จริงๆ แล้วการสืบสวนต้องแยก ทางการสืบสวนอาจเชื่อได้ว่าผู้ต้องสงสัย มีใครที่เป็นบริวารเข้ามาช่วย ตร.เช็กความเชื่อมโยง ความสัมพันธ์อยางเช่นเวลาไปไหนคนนี้ไปด้วยตลอด หรือดูพฤติกรรมย้อนหลังกลับไป เวลามีเรื่องกับใคร มีใครช่วยมั้ย เพราะคนเรามีพฤติกรรมอะไร ก็จะทำคล้ายเดิม ซ้ำไปซ้ำมา"

คุณแม่ผู้ตายอยู่ในสาย ได้คุยกับลูกสาวครั้งสุดท้ายก่อนหน้านั้นกี่วัน?

แม่ : "คุยกันวันที่ 11  เขาหายไปวันนั้นก็รู้วันนั้นเลย แล้วก็แจ้งความเลย ตอนไปแจ้งความก็ไม่คืบหน้า ไม่มีหลักฐาน ไม่มีอะไร กล้องวงจรก็เสีย"
แม่รู้ว่าใครทำตั้งแต่ตอนนั้น?

แม่ : "เราสงสัยค่ะ เรายังไม่ปักใจเท่าไหร่ เพราะเป็นช่วงแรกๆ คิดว่าเขาหนีไป หรือยังไง ก็แจ้งตร. ไว้ก่อน"

มีหลักฐานอะไรทำให้คุณแม่เชื่อว่าคนนี้แน่ๆ?

แม่ : "เพราะลูกหายและไปที่นั่น และที่นั่นก็เป็นจุดสุดท้ายที่ลูกสาวเข้าไป" 

คบหาสมาคมกันนานมั้ย ?

แม่ : "เขาคบกันสองปีกว่าๆ ตอนแรกไปสอนหนังสือให้ลูกเขา หลังจากนั้นเขาก็ทำงานเกี่ยวกับเซลล์ เป็นนักบรรยาย คงจะสนิทสนมกัน หลังจากนั้นก็คบกันมาเรื่อยๆ"

ครั้งสุดท้ายเขาไปไหนกัน เขาบอกมั้ย?

แม่ : "เขาก็เข้าไปบริษัท แล้วฝั่งนั้นบอกว่าต่อออกมาตั้งแต่ตีสามแล้ว บอกว่าจะไปแต่งหน้า ตัวเสี่ยเองบอกแบบนี้ จะไปแต่งหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาว"

ลูกสาวคบกับผู้ชายอีกคนที่สุพรรณบุรี?

แม่ : "อันนี้เขาก็คบกันอยู่ค่ะ อาชีพเขาอย่างนี้ก็ต้องคุยต้องอะไร เป็นเรื่องธรรมดา ขายปุ๋ย ขายอะไร รู้จักคนเยอะ"

ผู้ต้องสงสัยไปสืบรู้เรื่องลูกสาวแม่ สืบรู้เรื่องที่ลูกสาวคบกับผู้ชายคนที่สุพรรณบุรี?

แม่ : "ก็น่าจะรู้นะคะ มีรูป มีภาพอะไรที่เขาส่งมาให้ ว่าเห็นรถต่อไปจอดกับผู้ชายคนนี้ค่ะ"

แม่สงสัยมั้ยถ้าเป็นเรื่องจริง เขาเป็นฆาตกร เกิดจากเรื่องหึงหวง?

แม่ : "ใช่ค่ะ น่าจะมาประเด็นนี้"

ก่อนวันที่ลูกสาวหายไป เคยเอาปัญหามาคุยกับคุณแม่มั้ย?

แม่ : "มีค่ะ ระยะสุดท้ายเขาทะเลาะกันรุนแรง ถึงขนาดขนของกัน ลูกสาวจะเลิกเลย เขาจะมาเอารถ แม่ก็บอกว่าให้รถเขาไปเลย แต่ต่อบอกว่าเขาทำงานเหนื่อย จะมาเอาของเขาได้ยังไง เขาก็เล่าไปร้องไห้ไป เงินดาวน์เขาน่าจะออกให้ อันนี้ไม่รู้นะ แต่ทุกเดือนลูกเป็นคนส่งค่ะ"

จริงมั้ยที่เขาบอกว่าวิญญาณถูกสะกด ถึงไม่เจอศพนาน 3 ปี?

แม่ : "หลานไปดูพระค่ะ เขาเล่าให้ฟังอยู่"

ลูกสาวแม่กับผู้ต้องสงสัย ทำธุรกิจร่วมกัน?

แม่ : "ค่ะ เขาลงทุนให้บ้าง"

หลังรู้เรื่องนี้ เขาไปที่ร้านค้นข้าวค้นของอะไรต่างๆ?

แม่ : "จริงค่ะ ช่วงทะเลาะกัน เขาส่งลูกน้องมาขนของไปจริงค่ะ"

ก่อนหน้านี้แม่ไม่กล้าพูดเพราะกลัวอันตราย?

แม่ : "เราไม่ใช่กลัวอันตราย ตอนนั้นหลักฐานไม่มี เราพูดสงสัย หรือปรักปรำมันไม่ได้ เราไม่มีหลักฐาน เราก็รอจนกว่าตร.จะหาหลักฐานให้แน่ชัด"

ก่อนหน้าที่จะเจอศพ ครอบครัวทำใจแล้ว?

แม่ : "ทำใจส่วนหนึ่งเพราะมันนานเกิน เพราะลูกสาวไม่ได้มีนิสัยไปไหนไม่บอก ปูย่าตายายเขามี"

กรณีนี้ 3 ปี กรณีบิลลี่ 5 ปี มีความคล้ายคลึงกันมั้ย?

ร.ศ.น.พ.วีรศักดิ์ : "กรณีนี้ เมื่อวันที่ 9 เจอกระดูก พอวันที่ 14 มีการลงไปงมซ้ำ ก็เจอกระดูกเพิ่มเติมอีก อาจมีข้อมูลที่คนลงไปงมให้ข่าวว่ากระดูกดูแล้วน่าจะมีมากกว่า 1 คน แต่ตอนนี้รอการพิสูจน์ เรื่องกระดูกพออยู่ในน้ำ มันมีเหมือนกันในคดี ชิ้นส่วนเราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เดียวกันมั้ย ณ ช่วงเวลาเดียวกันมั้ย กระแสน้ำพัดมากองรวมกันที่เดียวกันมั้ย มันก็ต้องพิสูจน์ การพิสูจน์ก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างตอนแรกๆ มีสิ่งหนึ่งที่เป็นวัตถุพยานชิ้นสำคัญ ทุกคนมองไปที่เรื่องของผ้าที่ห่อ ผ้าพันเทปที่แขน แต่แน่นอน เมื่อพบว่าเสียชีวิต ต้องเชื่อมโยงให้ได้ว่าผู้กระทำคือใคร ตัวผ้าคนสงสัยเยอะว่ามันผิดสังเกต เพราะผูกปมข้างเดียว แต่ผมตั้งคำถามว่าผ้ามาจากที่ไหน วันนี้มีเฉลย ท่านผู้การก็บอกว่าจริงๆ มีหมอนข้างที่เป็นลายเดียวกัน ดอกเดียวกัน พบอยู่ในบ้านผู้ต้องสงสัย ตรงนี้ก็เป็นวัตถุพยานชิ้นสำคัญ ตอนนี้พบโครงกระดูกคุณต่อ ทำให้เห็นว่าคุณต่อเสียชีวิตแล้ว  เราต้องลงโทษผู้กระทำความผิด ต้องสะท้อนให้เห็นว่าประเทศนี้ยังมีความยุติธรรม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธากลับมา ต้องใช้เวลา"

ถามหมอ ที่ผู้ต้องสงสัยปฏิเสธ เพราะคิดว่าหลักฐานที่มีเอาผิดเขาไม่ได้?

ร.ศ.น.พ.วีรศักดิ์ : "ตอนนี้เขาต้องปฏิเสธก่อนอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าวันนี้หลักฐานต้องมี และมีความชัดเจนด้วยถึงออกหมายจับได้ หลักฐานเชื่อมโยงมีแน่นอน เพียงแต่ว่าหลักฐานคืออะไรต้องรอตร.มาเปิดเผย"

อาชญาวิทยา คำสัมภาษณ์คุณแม่ เอามาเป็นหลักฐานเอาผิดผู้ต้องสงสัยได้มั้ย?

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษพงค์ : "เป็นการแมตช์ชิ่ง จับคู่ เช่นลูกบอกว่าอยู่ที่ไหนตอนนั้น ลูกบอกจะไปนอนโรงงานปุ๋ย แต่ผ่านมา 3 ปี ก็ต้องดูว่าเขาสามารถเก็บหลักฐานได้มั้ย ประการต่อมา คุณแม่บอกว่าลูกเคยบ่นให้ฟังว่าผู้ถูกกล่าวหาหึงหวงมาก นี่อาจเป็นประเด็นสำคัญ มูลเหตุ แรงจูงใจให้เขาฆ่าผู้เสียชีวิตได้ ตอนพบโครงกระดูกผู้เสียชีวิต พบผ้าเช่นกางเกงในที่เขาสวมใส่ จากข้อมูลตามข่าวพบว่าไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน คุณแม่บอกปกติลูกสาวออกจากบ้านไม่ใส่ชุดลักษณะนี้ ก็แสดงว่ามีการเอาผู้เสียชีวิตออกมา ในช่วงเวลาที่อยู่หลังการนอน  ประเด็นตรงนี้ต้องหาความเชื่อมโยง"ในเชิงนิติวิทยาศาสตร์  คดีนี้จะคลี่คลายได้มากแค่ไหน?

ร.ศ.น.พ.วีรศักดิ์ : "ผ่านมา 3 ปี โอกาสจับผู้กระทำความผิดเป็นไปได้ยาก วันนี้มันสะท้อนให้เห็นแล้วว่ามันสามารถทำได้ เทคโนโลยีช่วยได้ วันนี้ผู้กระทำความผิดก็ต้องพึงระวังว่ามันไม่ได้ง่าย ว่าอำพรางซ่อนเร้นศพ เทคโนโลยีมันช่วยครับ"

ในเชิงอาชญาวิทยา?

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษพงค์ : "เราสามารถย้อนไปศึกษาพฤติกรรมของคนได้ เพื่อเชื่อมโยงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และนิติวิทยาศาสตร์ เราควรให้ความสำคัญกับทุกคดีที่มาแจ้งความ ไม่ใช่ดูที่สถานภาพทางสังคมอย่างเดียว"