- 21 มิ.ย. 2563
พระครูธวัชชัย ปัญญาธร อายุ 43 ปี โดนรวบคาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.กะสอก อ.บนพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 63 ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ มงคลการ สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. จับกุมนายธวัชชัย หน่อเงิน หรือพระครูธวัชชัย ปัญญาธร อายุ 43 ปี นายณรงค์ศักดิ์ รอดเปีย อายุ 33 ปี น.ส.มนฤทัย แสงสุข อายุ 47 ปี 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” โดยจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.กะสอก อ.บนพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้มีพฤติการณ์รวมกลุ่มตั้งแก๊งสิบแปดมงกุฏแอบอ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่และนายทหารระดับสูง เพื่อหลอกเอาเงินผู้คน โดยทำในรูปแบบของขบวนการมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน โดยนายธวัชชัย หรือพระธวัชชัย พระลูกวัดแห่งหนึ่งจะทำหน้าที่อ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่ รู้จักคนใหญ่คนโตของบ้านเมือง ส่วนนายณรงค์ศักดิ์ จะอ้างตนเป็นนายทหารระดับสูง เรียกตนเองว่า “เสฯ” ทำหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพระ ขณะที่ น.ส.มนฤทัย จะอ้างตัวว่าเป็น “เศรษฐีนีหรือคุณนาย” จากนั้นก็จะทำทีติดต่อไปหาเหยื่อที่เป็นเศรษฐีหรือมีฐานะดี หรือข้าราชการที่มีความน่าเชื่อถือในพื้นที่ ตามแต่ละจังหวัด ก่อนจะอวดอ้างว่าสามารถติดต่อกับผู้ใหญ่ของบ้านเมืองได้ พร้อมกับทำทีแกล้งโทรคุยไลน์กับไลน์ที่ปลอมเป็นนักการเมือง หรือผู้มีชื่อเสียง
และถ้าเป็นข้าราชการบางครั้งจะอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นตำแหน่งให้ได้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อผู้ต้องหากลุ่มนี้ก็จะนำพระเครื่องมาปล่อยเช่าบูชา โดยอ้างเงินรายได้จะนำไปบริจาคเป็นทุนสร้างกุฎิวัดในพื้นที่ห่างไกล ก่อนที่ภายหลังต่อมาผู้เสียหายได้มารู้ความจริงว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ไม่ได้เป็นพระผู้ใหญ่และนายทหารตามที่กล่าวอ้าง อีกทั้งเงินที่ขายพระเครื่องก็ไม่ได้นำไปบริจาคสร้างกุฏิวัดจริง จึงเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. จนมีการออกหมายจับ ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะสืบทราบว่าปัจจุบันผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การภาคเสธ โดยรับเพียงว่ามีการแอบอ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่กับนายทหารจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการฉ้อโกงเงินผู้เสียหาย แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่ออีกทั้งจากการตรวจสอบประวัตินายธวัชชัย พบว่าเป็นพระจริงมีใบสุทธิแสดงตัวชัดเจน แต่ปัจจุบันไม่มีสังกัดที่จำวัดอยู่แน่ชัด เนื่องจากที่ผ่านมามักจะไปอาศัยหลับนอนอยู่ตามบ้านโยมอุปฐาก เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป