อัจฉริยะ ประกาศลั่น ขอยุติคดีน้องชมพู่

ยังคงเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจาก น้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ที่ถูกพบไปเสียชีวิตบนภูเหล็กไฟ อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร โดย แพทย์นิติเวชเผยผลการชันสูตรศพ ยืนยันน้องชมพู่ เสียชีวิตเอง ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายใดๆ ซึ่งเมื่อเปิดรายงานความคืบหน้าคดี น้องชมพู่ เสียชีวิต 2 เดือนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการชี้แจงอย่างละเอียดใน 7 ประเด็น ระบุผลชันสูตรสัปดาห์หน้า ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการสอบพยานบุคคล 937 ปาก พร้อมตั้ง 4 สมมติฐานประเด็นการเสียชีวิต

กระทั่งมีชาวบ้านมาพบผ้าสีส้ม ลักษณะคล้ายเสื้อสีส้มและแถบขาว บริเวณใต้กอไผ่ติดกับ ร่องน้ำ ห้วยบุ่ง ใกล้กับสวนยางชาวบ้าน บ้านกกกอก โดย ตร.สภ.กกตูมเข้าตรวจสอบ สภาพคือ ผ้าสีส้มนี้ อยู่ในลักษณะ ซุกอยู่ใต้ขอนไม้ ใกล้กับกอไผ่ และใกล้กันยังพบ เศษผ้าคล้ายเสื้อสีขาว ตกอยู่ใกล้กัน

หลังจากทราบเรื่อง นางสาวิตรี และ นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่ มาดูที่เกิดเหตุ ระบุว่า ดูจากสภาพเสื้อ เป็นคล้ายเสื้อที่แจกกับรถไถ แต่ไม่แน่ใจว่าของใคร และมีสภาพเก่าแล้วจนปลวกขึ้น ไม่น่าจะมีใครนำมาซุกซ่อนไว้ แต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ซึ่งบริเวณนี้ใกล้จุด ร่องน้ำหากฤดูฝนน้ำจะไหลผ่าน แต่ช่วงที่น้องหายคือน้ำแห้ง ไม่รู้ว่าเสื้อนี้มาจากไหน ถ้าหากมีคนมาซุกไว้ ไม่น่าจะเป็นไปได้ และถือว่านี่คือหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่ง

อ่านข่าว - ชาวบ้านพบเสื้อส้มปริศนาซุกใต้กอไผ่ คล้ายเสื้อผู้ต้องสงสัยโยงคดีน้องชมพู่

ล่าสุด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กแฟนเพจความว่า "#ชมรมขอยุติคดีน้องชมพู่ เพื่อความสบายใจของตำรวจมุกดาหารที่คุมงานสอบสวน ที่ชมรมติงทำไมผ่านมา 70 วันถึง ไม่สอบหมอคนแรก ที่พิสูจน์ศพ แถมยังด่าอัจฉริยะ เอาใจนักการเมือง ก็เรียนให้พี่น้องประชาชนทราบโดยทั่วกัน"

โดยก่อนหน้านั้น นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า “เปิดปมคดีน้องชมพู่ถูกทรมานจนช็อกเสียชีวิต” โดยมีการนำภาพถ่ายศพ 'น้องชมพู่' ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนและนำผลของทีมแพทย์มาวิเคราะห์ ซึ่งเชื่อว่าจากสภาพของศพแล้วเชื่อว่า น้องชมพู่ ถูกทรมานอย่างสาหัสและไม่เชื่อว่าน้องชมพู่จะหิวจนเป็นลมเสียชีวิต" ซึ่งก่อนจบไลฟ์ นายอัจฉริยะ บอกทิ้งท้ายว่า อยากให้สังคมช่วยกันหาคนร้ายมาลงโทษ โดยตนจะเดินทางไปอีสานเพื่อไปช่วยการคลี่คลายคดีนี้อีกครั้ง