สาวเสื้อชมพูอาละวาดโรงพัก ใช้ขวดน้ำตีหัวตร.จราจร โดนพิพากษาโทษจำคุก พร้อมปรับเงิน

สืบเนื่องจากกรณีที่ หญิงสาวรายหนึ่ง ขับรถเก๋งสีดำมาบริเวณถนนราชดำริ แต่ในขณะเดียวกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โบกให้จอด เนื่องจากเธอ จอดในที่ห้ามจอด แต่เธอไม่ยอมลง แถมยังเอาขวดน้ำฟาดตำรวจ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ ซึ่ง พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏภาพคลิปหญิงคนหนึ่งมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ลุมพินี ขณะอยู่บนรถของตนเอง และมีการใช้ขวดน้ำฟาดไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นที่สนใจขอประชาชนโดยทั่วไป นั้น เรื่องเริ่มจากมีรถยนต์จอดกีดขวางบริเวณถนนด้านหน้าทางเข้าที่จอดรถสวนลุมพินี (ประตู 5) ถนนราชดำริ ทำให้การจราจรติดขัด ท้ายแถวสะสม รถโดยสารประจำทางไม่สามารถเข้าจอดที่ป้ายได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ลุมพินีจึงได้เข้าตรวจสอบ

สืบเนื่องจากกรณีที่ หญิงสาวรายหนึ่ง ขับรถเก๋งสีดำมาบริเวณถนนราชดำริ แต่ในขณะเดียวกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โบกให้จอด เนื่องจากเธอ จอดในที่ห้ามจอด แต่เธอไม่ยอมลง แถมยังเอาขวดน้ำฟาดตำรวจ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ ซึ่ง พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏภาพคลิปหญิงคนหนึ่งมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ลุมพินี ขณะอยู่บนรถของตนเอง และมีการใช้ขวดน้ำฟาดไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นที่สนใจขอประชาชนโดยทั่วไป นั้น เรื่องเริ่มจากมีรถยนต์จอดกีดขวางบริเวณถนนด้านหน้าทางเข้าที่จอดรถสวนลุมพินี (ประตู 5) ถนนราชดำริ ทำให้การจราจรติดขัด ท้ายแถวสะสม รถโดยสารประจำทางไม่สามารถเข้าจอดที่ป้ายได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ลุมพินีจึงได้เข้าตรวจสอบ
 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะสี่ประตูจอดกีดขวางบริเวณทางเข้าที่จอดรถ ช่องทางที่ 1 ติดทางเท้าจึงได้สั่งให้ผู้ขับขี่เคลื่อนย้ายรถ แต่อีกฝ่ายไม่ยินยอมพร้อมกับโวยวายส่งเสียงดัง จึงใช้เครื่องบังคับล้อที่ล้อหน้าฝั่งคนขับและออกใบสั่งและให้ผู้ขับขี่ลงจากรถและแสดงใบอนุญาตขับขี่แต่ผู้ขับขี่ไม่ยินยอม ได้ใช้ขวดน้ำพลาสติกตีไปที่เจ้าหน้าที่หลายครั้งและได้ใช้เท้าถีบ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เข้าไปห้ามปรามอีกราย

 

สาวเสื้อชมพูอาละวาดโรงพัก ใช้ขวดน้ำตีหัวตร.จราจร โดนพิพากษาโทษจำคุก พร้อมปรับเงิน


อ่านข่าว - สาวเสื้อชมพูคว้าขวดน้ำตีหัวตร.จราจรโดน 4 ข้อหา
 

ล่าสุดศาลแขวงปทุมวัน ได้พิพากษาที่หญิงคนดังกล่าวเป็นจำเลย ฐานความผิดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ หรือได้กระทำการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย


โดย พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดี ศาลแขวง 6 ได้ยื่นฟ้อง น.ส.โชติมา เนตรขันธ์ อายุ 37 ปี เป็นจำเลยต่อศาลแขวงปทุมวัน ในความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ หรือได้กระทำการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย

 

สาวเสื้อชมพูอาละวาดโรงพัก ใช้ขวดน้ำตีหัวตร.จราจร โดนพิพากษาโทษจำคุก พร้อมปรับเงิน

 

อัยการโจทก์ฟ้องโดยวาจาว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.โชติมา จำเลยได้จอดรถยนต์กระบะ ทะเบียน กง 7246 ชัยภูมิ กีดขวางการจราจรอยู่บริเวณทางเข้าที่จอดรถสวนลุมพินี (ประตู 5) ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน เป็นเหตุให้การจราจรติดขัด หลังได้รับแจ้ง ด.ต.สราวุธ รวบรวมวงศ์ และ ร.ต.อ.จักรพงศ์ พิทักษ์กรสกุล ตำรวจประจำ สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานจราจรจึงไปยังที่เกิดเหตุและได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.จราจร พ.ศ. 2522 มาตรา 59 สั่งให้จำเลยซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวเคลื่อนย้ายรถยนต์ที่จอดกีดขวางออกจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งจำเลยได้ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่เคลื่อนย้าย 


อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ภายหลังจำเลยไม่ยินยอมลงจากรถยนต์และแสดงใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังต่อสู้ขัดขวางโดยใช้ขวดน้ำตีไปที่ใบหน้าของ ด.ต.สราวุธ หลายครั้ง จากนั้นจำเลยได้ลงจากรถยนต์ใช้เท้าถีบเข้าที่ลำตัวของ ร.ต.อ.จักรพงศ์ 1 ครั้ง จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 138, 368 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาขอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558 มาตรา 6 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2560 มาตรา 5 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ข้อ 4 โดยในชั้นสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพ

 

สาวเสื้อชมพูอาละวาดโรงพัก ใช้ขวดน้ำตีหัวตร.จราจร โดนพิพากษาโทษจำคุก พร้อมปรับเงิน


ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา138 ,368 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ จำคุก 1 เดือนและปรับ 2,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรปรับ 500 บาท


รวมสองกระทงเป็นจำคุก 1 เดือน ปรับ 2,500 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 15 วันและ ปรับ 1,250 บาท ซึ่งพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา 29,30