สาวขับเก๋งหน้าตาดี พูดจาไม่รู้เรื่อง ซิ่งฝ่าไฟเเดงชนวินจยย. หญิงผู้โดยสารวัย67ดับสลด

เก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนวินจักรยานยนต์ ผู้โดยสารดับสลด กลางแยกไฟแดง ย่านจรัญ13

วันที่ 24 ส.ค.63 เวลา 07.50 น. ร.ต.อ.อิทธิศักดิ์ ภิรมย์ราบ รอง สว.สอบสวน สน.บางกอกใหญ่ ได้รับแจ้งมีเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลชนท้ายรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จุดเกิดเหตุบริเวณปากซอยจรัญสนิทวงค์ 13 จึงรีบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

สาวขับเก๋งหน้าตาดี พูดจาไม่รู้เรื่อง ซิ่งฝ่าไฟเเดงชนวินจยย. หญิงผู้โดยสารวัย67ดับสลด

 

เมื่อเจ้าหน้าที่และอาสาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณแยกสัญญานไฟแดงปากซอยจรัญสนิทวงค์ 13 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร พบรถนั่งบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีดำ ทะเบียน 7 กบ 3920 บริเวณกระโปรงรถด้านขวาพังบุบ บังโคลนหลุด ใกล้กับพบรถ จยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟิน สีฟ้าขาว ทะเบียน 1 กฐ 4375 ป้ายเหลือง ล้มตะแคง สภาพพังยับเยิน แล้วยังพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย มีเลือดไหลออก ตามร่างกาย จำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.วิชัยเวช ช่วยเหลือ ทำการปฐมพยาบาล CPR ไม่เป็นผล ทำให้เสียชีวิต โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิต ต่อมาชื่อ นางเงาฟ้า แต่งสวน อายุ 67 ปี 

สาวขับเก๋งหน้าตาดี พูดจาไม่รู้เรื่อง ซิ่งฝ่าไฟเเดงชนวินจยย. หญิงผู้โดยสารวัย67ดับสลด

สาวขับเก๋งหน้าตาดี พูดจาไม่รู้เรื่อง ซิ่งฝ่าไฟเเดงชนวินจยย. หญิงผู้โดยสารวัย67ดับสลด

 

สอบถามจาก ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งขับรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ชื่อ นาย ประทีป เนียมสุวรรณ อายุ 45 ปี ได้เล่าเหตุการณ์ว่า "ตนเองได้รับผู้โดยสาร ที่เสียชีวิตมาจากในซอยจรัญสนิทวงศ์13 พอมาถึงปากซอย ได้รับสัญญาณไฟเขียวแล้ว กำลังจะเลี้ยวขวาออกจากซอยมุ่งหน้าแยกท่าพระ  ในจังหวะนั้นได้มีรถเก๋งสีดำขับฝ่าไฟแดง ทางตรงมุ่งหน้าแยกท่าพระ พุ่งมาอย่างเร็วมาก จนทำให้ชนท้ายรถจักรยานของตนอย่างแรง ทำให้ผู้ตายซึ่งซ้อนท้ายตนมากระเด็นตกจากรถลงไปเสียชีวิต ส่วนตน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มาทราบทีหลังว่า คนขับรถเก๋งมีอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่องด้วย ตอนเกิดเหตุ ได้ยินแค่เสียงคนที่ซ้อนตนร้องเสียงดังว๊าย!! แล้วชนเลย"

สาวขับเก๋งหน้าตาดี พูดจาไม่รู้เรื่อง ซิ่งฝ่าไฟเเดงชนวินจยย. หญิงผู้โดยสารวัย67ดับสลด

ทางด้านคันขับรถ ซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สถานีตำรวจ ในเบื้องต้น แพทย์นิติเวชสันนิษฐานการเสียชีวิตของผู้ตาย จากการกระแทกอย่างแรงทำให้เสียเลือดมาก ทนพิษบาดแผลไม่ไหว แต่อย่างไรแล้วต้องส่งมอบให้กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป