- 28 ต.ค. 2563
ผู้เสียหาย ที่อ้างว่าถูกเสี่ยโป้ ลั่นไกทยอยเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ภาษีเจริญ ยันเห็นเสี่ยโป้ควักปืนยิง
ความคืบหน้ากรณีสาวโพสต์เฟซบุ๊กเหตุชุลมุนหน้าร้านนวดแผนไทยชื่อดังถนนราชพฤกษ์ โดยอ้างว่านายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ "เสี่ยโป้ อานนท์" ยิงปืนใส่น้องชาย และมีคนเจ็บ 2 ราย โดยเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 28 ตุลาคม 2563 พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ ผบก.น.9 กล่าวว่า กระแสที่ฝั่งผู้เสียหายอ้างว่า กล้องวงจรปิดถูกทำลายไปแล้วนั้น ตำรวจยืนยันว่าไม่ได้ทำลายแต่เป็นการให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางเข้าไปเก็บเซิร์ฟเวอร์ 1 ตัว กล้องวงจรปิด 16 ตัว นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ส่วนเรื่องกลับกลายเห็นเสี่ยโป้เป็นคนถืออาวุธปืนขึ้นมายิงหลายนัด ซึ่งข้อมูลตรงนี้ไม่มีอยู่ในสำนวนคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากให้เข้ามาให้การกับพนักงานสอบสวนเพื่อจะได้สรุปสำนวนคดีดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
โดยที่ สน.ภาษีเจริญ นายตั้ง นามสมมุติ อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนมีเรื่องบาดหมางกับนายบุ๊ค น้องชายเสี่ยโป้กันมาก่อน จนเสี่ยโป้ นัดให้มาเคลียร์กันที่หน้าร้านนวดดังกล่าวโดยให้มาชกต่อยกันตัวๆ เพื่อให้จบปัญหา ซึ่งพวกตนมีประมาณ 20 คน ก็ไปพบกับเสี่ยโป้โดยไม่มีอาวุธ แต่พวกเขามีกันเป็นร้อยๆ คน พอไปถึง พบว่าร้านนวดปิดทำการแล้ว แต่เห็นเสี่ยโป้ ยืนอยู่หลังกระจกในร้านที่ชั้น 1 ไม่ทราบว่ามีสัมพันธ์อะไรกันกับทางร้านหรือไม่จึงเข้าไปข้างในได้
นายตั้ง กล่าวต่อว่า เสี่ยโป้ได้กวักมือเรียกให้ตัวเองเข้าไปหา ก่อนจะมีคนสวมเสื้อสีแดงตะโกนว่า “ใครถ่ายคลิปกูยิง” แล้วถูกเสี่ยโป้สาดกระสุนใส่โดยไม่พูดจาอะไร ทำให้พวกตนต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด ส่วนตัวเองจะได้รับบาดเจ็บขาซ้ายเล็กน้อย ทั้งนี้ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเชื่อว่ามีกล้องวงจรปิดภายในร้านนวดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้แน่นอน
ด้านนายเค นามสมมุติ อายุ 20 ปี กล่าวว่า ฝั่งเสี่ยโป้เสนอเงิน 1 แสนบาทมาต่อยกันโดยให้นายตั้ง ต่อยกับนายบุ๊ก และอีกคู่หนึ่งคือนายโบ่ะ ที่ถูกยิงคอทะลุปาก ต่อยกับนายมอส แต่แล้วคนเสื้อแดงในฝั่งเสี่ยโป้ชื่อ “ค.” ก็ควักปืนขึ้นมาและเล็งมาที่พวกตน ก่อนฝั่งเสี่ยโป้จะแหวกทางเปิดให้เสี่ยโป้ยิงปืนใส่กลุ่มพวกตนเป็นคนแรกอย่างชัดเจน ทั้งที่ตอนแรกที่เสี่ยโป้นัดไปชกต่อยนั้นได้บอกว่าจะเป็นกรรมการให้ ตอนแรกเพื่อนตนก็จะไม่ไปเพราะเป็นถิ่นของเสี่ยโป้ แต่เชื่อว่าผู้ใหญ่คงรักษาคำพูด ส่วนเรื่องทางคดีก็กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะขณะกลับไปเอารถจักรยานยนต์ เพื่อนตนถูกตำรวจควบคุมตัว แต่กลุ่มเสี่ยโป้ถูกปล่อยกลับบ้านไปเลย