ป้าวัย66หลบหนีมา3ปีจนมุม ตระเวนหลอกตุ๋นเหยื่อแถบภาคอีสาน สูญเงินกันหลายสิบล้าน

กองปราบรวบแก๊งต้มตุ๋นอดีตพนักงานโรงพยาบาลสาวตระเวณหลอกเหยื่อแถบภาค อีสานอ้างฝากเข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าสูญเงินนับสิบล้าน

 วันที่ 15 พย.2563 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย   กำเนิดพรม, พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ  ผดุงถิ่น  ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล, พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์  รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.ธีรภาส  ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.3 บก.ป.  พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป.
 


ร่วมกันจับกุมตัว นางกัลยา (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงอุดรธานี ที่ 61/2560 ลง 22 ก.พ.2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์” 

ป้าวัย66หลบหนีมา3ปีจนมุม ตระเวนหลอกตุ๋นเหยื่อแถบภาคอีสาน สูญเงินกันหลายสิบล้าน

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2560 นางกัลยาฯ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นอดีตพนักงาน โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ได้รู้จักและมีความสนิทสนมกับ นายธีรเดช (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ทั้งสองได้ร่วมมือกันหลอกลวงผู้ที่สนใจเข้ารับการบรรจุราชการ อ้างว่าตนเองสามารถฝากบรรจุเข้าทำงานที่การไฟฟ้าได้ โดยมีผู้เสียหายหลายรายในพื้นที่ภาคอีสานหลงเชื่อยินยอมจ่ายเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหา และเมื่อกลุ่มผู้เสียหายทราบว่าตนเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า นางกัลยาฯ หลบหนีการจับกุมมาอยู่ในพื้นที่ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อพบ นางกัลยาฯ จึงได้เข้าจับกุมตามกฎหมาย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี 

ป้าวัย66หลบหนีมา3ปีจนมุม ตระเวนหลอกตุ๋นเหยื่อแถบภาคอีสาน สูญเงินกันหลายสิบล้าน

สอบสวนเบื้องต้น นางกัลยาฯ ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่ารู้จักกับ นายธีรเดชฯ สมัยเรียนปริญญาตรี ต่อมาปี 2549 ตนเองออกจากงาน นายธีรเดชฯ จึงชักชวนให้หาคนมาเข้าทำงาน โดยให้อ้างว่าสามารถพาบรรจุเข้าเป็นข้าราชการป่าไม้ ข้าราชครู ทหาร และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ ซึ่งตนเองมีหน้าที่ดำเนินการทางเอกสารให้ผู้เสียหาย โดยมีค่าดำเนินการคนละ 200,000 – 400,000 บาท 

 

จากการตรวจสอบพบประวัติพบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 214/2563 ลง 20 ส.ค. ๒๕63 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” อีกหนึ่งหมายกองปราบปรามจึงขอประชาสัมพันธ์และฝากเตือนพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่มีพฤติกรรมในการหลวงลวง อ้างตนเองว่าสามารถฝากเข้าบรรจุเป็นข้าราชการต่างๆได้ โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะมีวิธีการพูดสร้างความน่าเชื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อน