"บังหลี" สำนึกผิด เปิดปากสารภาพสิ้น นาทีลงมือสังหาร"เเหม่มสวิส" ชิงเงิน300

   8ส.ค.64  ที่ห้องประชุม ชั้น2 กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พร้อมด้วย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต /พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8)พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 /พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช  รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง /นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและนายยันเคธเนอร์ (Mr.Jan Kaethner) ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิสเซอร์วิส ประจำประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวหญิงชาวสวิตเซอร์เเลนด์

 

 

พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแถลงข่าวผลการดำเนินคดีมาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวสวิสฯโครงการ ภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์  พร้อมทั้งขอให้ระมัดระวังการนำเสนอ ภาพข่าวต่างๆ ซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากทางญาติผู้เสียชีวิต ว่ารู้สึกสะเทือนใจ ที่ถูกล่วงเกินและถูกรบกวนความเป็นส่วนตัว  ดังนั้นขอฝากและขอความร่วมมือ ทุกภาคส่วน  เพราะผู้เสียชีวิตได้มาประสบเหตุในประเทศไทย จึงอยากให้พี่น้องประชาชนทุกคนให้ความร่วมมือในการแสดงความรับผิดชอบโดยไม่ไป รบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้เสียชีวิตและครอบครัว ด้วยการให้เกียรติและเคารพ ญาติของผู้เสียชีวิตที่ยังอยู่    

สำหรับการดำเนินการสืบสวนคดีในครั้งนี้ ขอขอบคุณ ทีมงานทั้งส่วนกลางและตำรวจภูธรภาค 8 ด้าน พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8  กล่าวถึงคดีนี้ว่า  เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 14.00 น. พบศพผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติที่บริเวณด้านบนน้ำตกโตนอ่าวยน หมู่ที่ 8 ต.วิชิต อ.เมืองจ.ภูเก็ต มีผ้าพลาสติกสีเข้มคลุมสภาพศพ ลักษณะคว่ำหน้า สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีครีม มีเสื้อแจ็คเก็ตพันอยู่รอบเอว ใกล้กับบริเวณพบกระเป๋าเป้ของผู้เสียชีวิตซ่อนอยู่บริเวณหลังต้นไม้ และรองเท้าผ้าใบของผู้เสียชีวิต โยนทื้งห่างจากศพ

จากการสืบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 11.30 น. ผู้เสียชีวิตได้ออกจากโรงแรมที่พักบริเวณอ่าวยน เพียงลำพัง เดินเท้าไปตามถนนมุ่งหน้าน้ำตกโตนอ่าวยน ได้ไปถึงบริเวณทางขึ้น เวลาประมาณ 11:49 น.โดยระหว่างทางมีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้เสียชีวิตได้ตลอดเส้นทาง และไม่ได้กลับออกมาจากที่เกิดเหตุอีกเลย จากข้อมูลกล้องวงจรปิดบริเวณทางขึ้นน้ำตกฯ พบผู้ต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์ ขึ้นไปก่อนผู้เสียชีวิตจะมาถึงประมาณ 12 นาที และอีกประมาณ 3 ชม, ผู้ต้องสงสัยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับออกจากที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนทราบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว หมายเลขทะเบียน ขมข 493 ภูเก็ต ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดง มี นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับขี่ อยู่ที่ 11/7 หมู่ที่ 3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต แต่มีที่พักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ

จึงได้เชิญตัวมาทำการซักถาม ให้การรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฎอยู่ในภาพวงจรปิด ตรวจตามร่างกาย พบมีร่องรอยบาดแผลที่เพิ่งเกิดหลายแห่ง สภาพบาดแผลเกิดมาประมาณ 4 - 5 วัน จากการชักถาม พบว่ามีพิรุธต้องสงสัยให้ถ้อยคำไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหลายประการ  ต่อมาจึงให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยตนเอง
โดยให้การว่า หลังจากที่ได้เดินขึ้นไปบริเวณชั้นบนของน้ำตกโตนอ่าวยน

 

เมื่อได้เดินกลับลงมา พบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณโขดหิน ได้แอบดูอยู่สักครู่ แล้วได้เดินเข้าไปที่บริเวณด้านหลัง ได้ใช้มือทั้งสองข้างล็อคคอผู้เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตได้ดิ้นรนต่อสู้ แล้วตกลงไปที่บริเวณแอ่งน้ำด้วยกัน จนผู้เสียชีวิตแน่นิ่ง จากนั้นได้จับผู้เสียชีวิตคว่ำหน้า และใช้พลาสติกสีเข้มที่ อยู่ในบริเวณนั้น มาคลุมปิดศพไว้ และใช้ก้อนหินทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้ผู้ใดพบเห็น แล้วนำกระเป๋าเป้ไปซ่อนไว้ที่บริเวณหลังต้นไม้ ส่วนรองเท้าของผู้เสียชีวิตได้โยนทิ้งห่างจากศพผู้ตายออกไป จากนั้นได้หลบหนีออกจากที่ เกิดเหตุโดยขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต จึงได้จับกุมนายธีรวัฒน์  ผู้ต้องหา ตามหมายจับที่ 219/2564 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2564 โดยกล่าวหาว่า " ฆ่าผู้อื่น " นายธีรวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจากการสอบสวนเพิ่มเติม โดยนายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ หรือ บังหลี อายุ 27 ปี  สารภาพว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 10.00 - 11.00 น. ตนเองขับรถจยย.ออกจากบ้านไปยังน้ำตกอ่าวยน เพื่อได้ขึ้นไปหากลัวยไม้ หรือ พันธุ์ไม้แปลก ๆ 

 

เมื่อไปถึงน้ำตกโตนอ่าวยนได้เดินไปยังน้ำตกชั้นบนสุด แต่ก็ไม่พบเจอพันธุ์ไม้ที่ต้องการ จึงลงมาก็เจอฝรั่งหนึ่งคน  เห็นด้านข้างมีกระเป๋าเป้สีดำวางอยู่  จึงคิดว่ามีทรัพย์สินเยอะ จึงเข้าไปล็อกคอของจากด้านหลัง แต่ผู้ตายขัดขืนดิ้น กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนตกในน้ำทั้งสอง ผมก็เลยรัดคอซ้ำจนผู้ตายหมดสติ จากนั้นก็ผ้าใบมาปิดทับศพไว้ และหยิบหินริมธารมาทับไว้อีกที  จากนั้นไปรื้อกระเป็าผู้เสีชชีวิต มีเงิน 300 บาท ก็ได้หยิบใส่กระเป๋าตนเองก่อนเดินทางลง หยิบรองเท้าผู้เสียชีวิตทิ้งข้างป่า หลังจากนั้นแวะซื้อน้ำ ก่อนจากไปซื้อบุหรี่ จนถึงวันที่ 5 ได้ข่าวว่าฝรั่งเสียชีวิต ผมก็ตกใจมาก เลยสำนึกผิดทุกการกระทำที่ได้ทำ สารภาพต่อเจ้าหน้าที่ 

นอกจากนี้ยังพบว่า นายธีรวัฒน์ฯ ผู้ต้องหา เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ภ.จว.ภูเก็ต จับกุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ในความผิด " ครอบครองยาเสพติดให้โทษ (แมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย " ตามคดีอาญาที่ 1278/2563 ลง 5 ตุลาคม 2563 ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 9 เดือน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุก รอลงอาญา 2 ปี อยู่ระหว่างคุมความประพฤติ 1 ปี

สำหรับผลกระทบต่อโครงการภูเก็ตแซนบ็อกการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะเร่งติดตามและประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามข้อมูล ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ จนถึงขณะนี้ แม้จะเร็วเกินไปที่จะประเมินแต่พบข้อมูลว่า ยังไม่มีผลกระทบ ยังคงมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม มียอดจองประมาณ 7,027 คืน วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคมมียอดจองประมาณ 6,940 คืน วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคมมียอดจอง ประมาณ 6,000 คืน 

อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะได้แจ้งข้อมูลผลไปยังสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทั่วโลก พร้อมจะประเมินผลกระทบด้านจิตใจและผลกระทบต่อการจองการท่องเที่ยวหรือไม่ พร้อมกำหนดแผนที่จะลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป

นายยันเคธเนอร์ (Mr.Jan Kaethner) ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิสเซอร์วิส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 
และเพื่อนข้าราชการตำรวจไทยที่เกี่ยวข้องกับการคลี่คลายคดี ในความพยายามอันใหญ่หลวงที่ได้ทุ่มเท ทำงานสืบสวน หาพยานหลักฐานและจับกุมผู้กระทำผิด จนสามารถคลี่คลายคดี อันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้อย่างรวดเร็ว ครอบครัวของผู้วายชนม์ และพลเมืองแห่งประเทศไทย สมควรที่จะได้รับการทำงาน สวนสอบสวนที่เป็นมืออาชีพ เช่นนี้ ผมเชื่อมั่นว่า การทุ่มเทตรากตรำทำงานหนักของทีมงานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะนำพาให้การสืบสวนสอบสวนคดีนี้ บรรลุผลสำเร็จอย่างงดงาม ผมขอถือโอกาสนี้ แสดงความขอบคุณ รัฐบาลไทย และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สำหรับความทุ่มเท มุ่งมั่น ที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ต กลับมาเป็นพื้นที่ปลอดภัย อีกครั้งหนึ่ง

 

ขอบคุณ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต