รวบเเล้ว โจรผมยาว บุกเดี่ยวปล้นทอง ความเเตกตอนเอาไปขายดันลืมสวมวิก

     เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 18 ส.ค. 64 พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 พ.ต.ท.สินเลิศ สุขุม รอง ผบก.น.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.อรรถวินทน์ เกษแก้ว ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.นพรุจ จิตต์มั่น รอง ผกก.สส.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส รอง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.เดโช ประสานศรี สว.กก.สส.บก.น.4 และ พ.ต.ต.พลากร สอนเวียง สว.สส.สน.อุดมสุข ร่วมกันนำกำลังตำรวจ กก.สส.บก.น.4 และ ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข

 

  จับกุมตัว นายสุรินทร์ พุทประเสริฐ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทอง พร้อมของกลาง หมวกนิรภัย สีเทา ยี่ห้อ csspace 1 ใบ กระเป๋าสะพายข้าง สีเทา ยี่ห้อ Mc cooler 1 ใบ เสื้อคลุม แขนยาว สีดำ 1 ตัว รองเท้าผ้าใบ สีขาว ยี่ห้อ เบรกเกอร์ 1 คู่ กางเกงขายาวสีดำ 1 ตัวโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ huawei จำนวน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น zoomer x สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน โดยจับกุมตัวได้ใน ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย87 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ


 

   สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เวลาประมาณ 16.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านทอง "เพชรทองใบเยาวราช" ซ.กาญจนาภิเษก39 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข และ ตำรวจกก.สส.บก.น.4 เข้าตรวจสอบในพื้นทีและภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายเป็นชายไทย จำนวน 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณหน้าร้าน จากนั้น ได้เข้ามาทำทีขอดูสร้อยคอทองคำจากพนักงานก่อนชักอาวุธปืนออกมาชิงทรัพย์ทองรูปพรรณหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น หลบหนีไป
     

 ต่อมาได้รับแจ้งจากทางร้านผู้เสียหายว่า มีชายต้องสงสัยนำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับทองของทางร้านที่ถูกชิงทรัพย์ไป ไปขายที่ร้านทองย่านลาดกระบัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบข้อมูลและภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านดังกล่าว พบชายที่นำทองมาขายมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุมาก แตกต่างเพียง ขณะก่อเหตุคนร้ายผมยาว ทางตำรวจจึงน่าเชื่อว่าคนร้ายรายนี้สวมวิกผมมาก่อเหตุ

 ตอนมาขาย ศีษะโล้น ล้าน จนทำให้ทราบชื่อคนร้ายรายนี้ คือนาย สุรินทร์ พักอาศัยอยู่ในซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย87 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ จึงไปตรวจสอบที่บ้านพักดังกล่าวพบนายสุรินทร์ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก และพบของกลางทั้งหมด ส่วนวิกผมที่ใส่อำพรางตัวขณะก่อเหตุ และอาวุธปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุ ได้โยนทิ้งระหว่างหลบหนีไปแล้ว จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่ กก.สส.บก.น.4 

         สอบสวนนายสุรินทร์ ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวจริง เป็นพนักงานบริษัทเอกชน ในย่านถนนสุคนธสวัสดิ์ แต่ติดหนี้พนันฟุตบอลออนไลน์ จึงออกตระเวนไปก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยการนำอาวุธปืนปลอม สวมวิกผม เพื่ออำพราง เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม หลังก่อเหตุได้นำทองไปขายได้เงินมา 53,440 บาท จากนั้นได้นำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าก่อเหตุมาเพียงครั้งแรกเท่านั้น 

       เบื้องต้นแจ้งข้อหา " ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป" นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข ดำเนินคดีต่อไป