ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น รอง ผบ.ตร. ไม่พอใจสื่อซักไซ้ ผกก.โจ้ ขู่หรือจะไม่ให้ส่งฟ้อง

เรียกได้ว่าทำให้ประเด็นต่างๆ ยิ่งร้อนแรงมากขึ้น ภายหลังจากที่ ผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ถูกควบคุมตัวพร้อมทั้งสารภาพในเบื้องต้นว่า ทุกสิ่งที่เขาทำนั้นขอรับผิดเพียงคนเดียว อีกทั้งยังบอกอีกว่า สำหรับการเสียชีวิตของ นายมาวิน ผู้ต้องหานั้นเป็นเพียงการพลั้งมือ ไม่ได้ตั้งใจ และสิ่งที่ทำไปก็เพื่อพี่น้องประชาชน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - เดาทางคดีนี้ไม่ยาก?! ชาวเน็ตจับโป๊ะ การคุมตัว โจ้ ธิติสรรค์ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ตร.ใส่เคเบิ้ลไทร์แบบสากล ... แต่มันแปลกๆ นะ

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถือว่ายังเป็นที่พูดถึงอย่างมากอีกกรณีหนึ่ง เนื่องจากในช่วงหนึ่งของการโฟนอินของ ผู้กำกับโจ้ ด้าน พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งให้นักข่าวหยุดถาม ซึ่ง รอง ผบ.ตร. ได้ขอให้พอแล้ว ต้องขออภัยเพราะหลายอย่างเกี่ยวกับรูปคดี ก่อจะบอกเพิ่มเติมว่า ถ้าคุณถามอย่างนี้กันหมดก็เจ๊ง ไม่ต้องดำเนินคดี ส่งฟ้องตอนนี้เลย หรือจะไม่ส่งฟ้องเลย ก็แล้วแต่ คุณจะเอายังไง

"ผมคิดว่าแค่นี้มันเกินพอแล้วนะครับ ต้องขอความกรุณาเพียงเท่านี้ รายละเอียดทุกอย่างให้ไปอยู่ในสำนวน ผบ.ตร. ยืนยันแล้วว่าทุกอย่างเป็นธรรม" พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ กล่าวหลังจากที่มองว่านักข่าวเริ่มตั้งคำถามถามนักข่าวมากเกินไปจนกลัวว่าจะมีปัญหากับรูปคดี หลังจากที่นักข่าวสาวรายหนึ่งยิงคำถามว่า "รู้สึกยังไงที่ตำรวจชั้นผู้น้อยนำคลิปมาเผยแพร่"

 

เกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัยการใช้ดุลยพินิจของแพทย์เรื่องพบสารเมทแอมเฟตามีนในร่างผู้เสียชีวิตนั้น ได้รับการยืนยันว่า เป็นการตรวจจากการร้องขอของพนักงานสอบสวนในวันที่ 7 สิงหาคม หลังจากผ่าตรวจแล้วนำปัสสาวะของผู้เสียชีวิตไปตรวจ จึงพบสารดังกล่าวถึงได้ลงความเห็นเช่นนั้น ส่วนผลอย่างเป็นทางการจะมีการส่งให้พนักงานสอบสวนอีกครั้ง ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำอย่างตรงไปตรงมา

 

นอกจากนี้ทางด้าน พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 ได้ไล่เรียงไทม์ไลน์ที่ ผู้กำกับโจ้ ได้ติดต่อมาหา ก่อนจะแสดงเจตจำนงค์ว่า อยากเข้ามอบตัว พร้อมทั้งบอกว่าไม่ไหวแล้วกับแรงกดดัน จนเกือบคิดสั้น ซึ่ง รอง ผบช.ภ.6 ก็ได้บอกกลับไปว่า ตายแล้วตำรวจจะเหลืออะไร ถ้าเป็นลูกผู้ชายพอ ให้กลับมารับผิดชอบกรณีดังกล่าว เป็นตำรวจต้องมีเกียรติ หนีไปไม่ได้ทำให้อะไรดี จึงนัดให้มาเจอกันที่ จ.ชลบุรี ในวันที่ 26 สิงหาคม

รอง ผบช.ภ.6 เล่าต่อไปว่า ได้นัดให้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ มาเจอหน้า สภ.แสนสุข ช่วง 16.00 น. พร้อมกำชับว่า ให้ผู้กำกับโจ้มาคนเดียวอย่ามีอาวุธ ตนจะใส่เครื่องแบบไปยืนรอหน้า สภ.แสนสุข และเมื่อมาถึงก็มีคนลงมาบอก "ผมโจ้" ใส่แมสก์ลงมาจากรถเก๋งสีขาว แต่ไม่ได้มองเลขทะเบียน จากนั้นก็ทำบันทึกที่ สภ.แสนสุข และรายงานผู้บังคับบัญชา นำตัวมากองปราบฯ

อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นอีกประเด็นที่ชาวเน็ตมองว่ามันมีความผิดปกติอย่างมาก นอกจากเนื้อหาที่ ผู้กำกับโจ้ ดูจะแก้ตัวค่อนข้างชัดเจน ยังรวมไปถึงท่าทีของรอง ผบ.ตร. ที่มีการตัดจบการสัมภาษณ์ของผู้กำกับโจ้ด้วยความไม่สบอารมณ์ผู้สื่อข่าว รวมไปถึงการที่บอกว่า ไม่เห็นทะเบียนของรถที่มาส่งผู้กำกับโจ้ ซึ่งปกติแล้ว ต้องเป็นสัญชาตญาณแรกของคนทำงานด้านนี้ด้วยซ้ำ ที่จะต้องมองหาป้ายทะเบียนรถก่อน

 

คลิปข้อมูลจาก กองปราบปราม Official