- 11 พ.ย. 2564
เปิดประวัติ"ส.จ.ดำ เมืองคอน"ธวัชชัย ทองอ่อน อดีต ปธ.อบจ.นครศรีธรรมราช เคยโดนจับคดีจ่ายเช็คเด้ง และฉ้อโกงและปลอมเอกสาร
กรณี ส.จ.ดำ เมืองคอน ผู้ก่อเหตุลงมือยิงดับยกครัว 4ศพ โดยที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น หมู่บ้านกลางเมือง เดอะปารีส กรุงเทพ-กรีฑา ซ.7 แยก10 ในบ้านพบร่างผู้เสียชีวิต 4 ราย ทราบชื่อ คือ นายธวัชชัย ทองอ่อน อายุ 48 ปี หรือ ส.จ.ดำ เจ้าของร้าน เสบียงทิพย์ อาหารปักษ์ใต้ ย่านหลัง ม.รามคำแหง อดีต ส.อบจ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังพบร่าง ภรรยา และ ลูกสาวคนโต และ ลูกสาวคนเล็ก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก รปภ.ของหมู่บ้านว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10พ.ย.64 ได้ยินเสียงปืนจำนวนหลายครั้งดังออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เมื่อมาถึงพบว่าเจ้าของบ้าน ภรรยา และลูกสาว ถูกยิงเสียชีวิตทั้งหมด
เบื้องต้นตำรวจคาดว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาหนี้สิน อย่างไรก็ตามต้องสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสาเหตุต่อไป ด้าน สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตกำปั้นเหรียญทองโอลิมปิกเกม ได้เดินทางไปทวงหนี้ ส.จ. ดำ ที่ร้านอาหารซึ่ง ส.จ.ดำ เป็นเจ้าของ โดย ส.จ.ดำ นัดจ่ายเงินเบื้องต้น 2.5 ล้านบาทบาท ไกล่เกลี่ยธุรกิจเรื่องเงินซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล10ล้านบาท แต่ไม่พบตัว จึงมาตามหาที่บ้าน ก็พบว่า เสียชีวิตแล้วทั้งครอบครัว
ซึ่งเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากหนีปัญหาหนี้สิน เนื่องจากพบว่า ส.จ.ดำ เบี้ยวนัดไกล่เกลี่ยธุรกิจเรื่องเงินซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกว่า 10 ล้านบาท กับ นาวาตรีสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกทีมชาติไทย
มีการนัดจ่ายเงินเบื้องต้น 2.5 ล้านบาทและไกล่เกลี่ยกันวันที่ 10 พ.ย.64แต่ก็เกิดเหตุเสียก่อน โดย "โม้อมตะ นาวาตรีสมรักษ์ คำสิงห์" เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูก ส.จ.ดำฉ้อโกง หลอกให้ร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ไม่ได้ของตามที่ตกลงกัน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนพยานรวมถึง เตรียมเรียกสอบ นาวาตรีสมรักษ์ คำสิงห์ ที่ระบุว่าเดินทางมาตกลงเรื่องปัญหาหนี้สิน ก็จะดำเนินการเรียกตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งด้วย ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องรวบรวมหลักฐานให้ครบทุกด้าน ก่อนจะสรุปสาเหตุครั้งนี้ต่อไป
เปิดประวัติ ส.จ.ดำ เมืองคอน นายธวัชชัย ทองอ่อน อดีต ส.จ.นครศรีธรรมราช เขต อ.ฉวาง เเละเคยดำรงตำแหน่งประธานสภา อบจ.นครศรีธรรมราช ระหว่างปี 47-51 เคยถูกจับกุม 2-3 ครั้งในคดีฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารราชการครั้งแรกมูลค่า 15 ล้าน เเละครั้งที่2 จำนวนมูลค่า 29 ล้าน
โดยถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุม เมื่อช่วงต้นปี 64 ในคดีฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารราชการ และ กลางปี64 ก็ถูกจับกุมในข้อหา "ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ในขณะที่ออกเช็คในขณะออกเช็คไม่มีเงินอยู่ในบัญชี" ซึ่งครั้งนั้น ส.จ.ดำให้การ ภาคเสธ
หลังจากนั้นพ่ายการเลือกตั้ง ส.อบจ. เมื่อปี62 และวางมือทางการเมือง ย้ายครอบครัวขึ้นไปอยู่กรุงเทพมหานคร และเปิดบริษัทดำเนินธุรกิจรับเหมาเกี่ยวกับครุภัณฑ์ทางการศึกษา