- 17 พ.ย. 2564
สตช.เห็นแย้งคำสั่งอัยการ ไม่ฟ้องคดีฟอกเงิน"เสี่ยโจ้ ปัตตานี" รับมีตำรวจบกพร่องทำหมายจับหาย สั่งสอบด่วนใครมีเอี่ยว
17 พ.ย.64 กรณีกระเเสข่าว เสี่ยโจ้ เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน ได้หลบหนีไปกัมพูชาเเล้ว ทาง พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบกรณี "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" หรือ นายสหชัย เจียรเสริมสิน ที่หมายจับหายไปจากสารบบของศาล และมาพบในวันถัดมาที่มีการปล่อยตัวเสี่ยโจ้ไปแล้ว
เบื้องต้นจากการรายงานด้วยวาจา เป็นไปตามที่ข้อเท็จจริงที่ศาลได้แถลงข่าว โดยมีการส่งหมายจับไปยังพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในพื้นที่ และมีตำรวจรับหมายจับที่ศาลส่งไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการสอบสวนหาผู้รับผิดชอบ โดยให้จเรตำรวจเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบทางวินัย โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีตำรวจกี่นายที่เกี่ยวข้อง ทำไปตามระเบียบในการรับหมายจากองค์กรอื่นหรือไม่ โดยยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กร
นอกจากนี้ได้สั่งการให้สำนักงานกฎหมายและคดีตรวจสอบคดีที่ตำรวจดำเนินคดีกับเสี่ยโจ้ปัตตานี มีทั้งหมด 14 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 11 คดี เหลือ 3 คดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ประกอบด้วย คดีค้าน้ำมันเถื่อนที่มีการสั่งสอบเพิ่มเติม เนื่องจากมีการกระทำความผิดหลายครั้งกว่าหมื่นรายการ ซึ่งอยู่ระหว่างประสานศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อนเรื่องพยานหลักฐานว่าดำเนินการถึงขั้นตอนใด
คดีที่ 2 คือสำนวนคดีฟอกเงินที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง และส่งเรื่องกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพลตำรวจเอกสุทิน ทรัพย์พ่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นแย้งกลับไปเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา / ส่วนคดีที่ 3 คือคดีที่อยู่ในอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่ายังมีหมายจับที่บังคับใช้ได้ คือหมายจับของศาลอุทธรณ์จังหวัดปัตตานี นำตัวมาดำเนินคดี ซึ่งมีโทษจำคุกและยังไม่หมดอายุความ อย่างไรก็ตามในวันที่ 18 พ.ย.64 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จะมีการแถลงความชัดเจน ยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้ให้ปรากฎข้อเท็จจริงให้ชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย