- 29 ธ.ค. 2564
หนุมานรวบ "ขวัญ ปาเลสไตน์" มือยิงตำรวจสุรินทร์ หมายจับยาวเป็นหางว่าว โดยล่าสุดก่อเหตุยังตำรวจขณะเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา
หนุมานกองปราบบุกรวบ "ขวัญ ปาเลสไตน์" ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง 2 ตำรวจสุรินทร์แล้วหลบหนี ด้าน ปคบ. ร่วมกับ อย. จับกุมเครือข่ายผู้ต้องหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนผ่านเว็บไซต์พบมีเงินหมุนเวียนนับสิบล้านบาท
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปราม หรือ บก.ป. ถนนพหลโยธิน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ ร่วมแถลงผลการจับกุม นายกิตติ อายุ 25 ปี หรือ ขวัญ ปาเลสไตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.111/2564 ลงวันที่ 29 ต.ค.2564
ในข้อหา "พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน,มีอาวุธและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร"
และ หมายจับศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ.24/2564 ลงวันที่ 12 เม.ย.2564 ข้อหา "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน)" หลังจับกุมตัวพร้อมของกลางยาบ้า 396 เม็ด ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านบางแค แขวงและเขตบางแค กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งมน ได้รับแจ้งเบาะแส นายกิตติ หรือ "ขวัญ ปาเลสไตน์" ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งหมายจับของศาลแขวงสุรินทร์ คดียาเสพติด กำลังจับกลุ่มมั่วสุมอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม นายกิตติ กลับพยายามขัดขืนวิ่งหลบหนี พร้อมกับชักอาวุธปืนพกสั้นตั้งลำเล็งและยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ 3-4 นัด แต่เคราะห์ดีปืนเกิดขัดลำ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนตัวนายกิตติ อาศัยจังหวะชุลมุนช่วงเวลาดังกล่าววิ่งเข้าป่าทึบหลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติม ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ป. สืบทราบว่าหลังก่อเหตุล่าสุด นายกิตติ ได้หนีมาหลบซ่อนตัวอยู่กับกลุ่มพรรคพวกที่ย่านบางแค กทม. จึงวางแผนสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือวางแผนเข้าปิดล้อมตรวจค้นจนสามารถจับกุมตัวได้โดยละม่อมพร้อมของกลางยาเสพติดดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติพบเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาตั้งแต่อายุ 14 ปี เคยถูกจับดำเนินคดียาเสพติดมาแล้ว 7 ครั้ง แต่ก็ไม่เข็ดหลาบยังคงวนเวียนอยู่กับแก๊งยาเสพติดเช่นเดิม อีกทั้งยังมีพฤติกรรมครอบครองอาวุธปืนสงคราม ต่อสู้ขัดขวาง เพื่อความรอบครอบและ ลดความสูญเสียจากเหตุการณ์ไม่คิด จึงต้องวางแผนเข้าจับกุมด้วยความรอบครอบและรัดกุม จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้จากการสอบสวน นายกิตติ ให้การปฏิเสธอ้างว่าปืนที่ใช้ยิงขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเพียงปืนของเล่นไม่ใช่อาวุธจริง แต่ยอมรับว่า ของกลางที่ตรวจยึดได้นั้นเป็นของตนเองจริง พร้อมทั้งยอมรับว่าตนเองนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งปาเลสไตน์ หรือ แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.ทุ่งมน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป