ปิดฉากล่า "พ่อค้ายาเมืองปัว" หนีหมาย 4 คดีจนมุมกลางเมืองกรุง

ปิดฉากล่า "พ่อค้ายาเมืองปัว" หนีหมาย 4 คดีจนมุมกลางเมืองกรุง พบมีประวัติโชกโชน เคยติดคุกมายังออกมาก่อเหตุซ้ำ

ตำรวจ บก.ป. จับกุมพ่อค้ายาเมืองปัวลบหนีหมายจับ 4 คดี ก่อนโดนรวบกลางเมืองกรุง
 
วันที่ 9 เม.ย.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ   พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.รณกร สุขมงคล, พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา, พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.ภัทรพันธ์ ศิริเพิ่มพูลชัย รอง ผกก.4 บก.ป.  
 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ  กก.4.บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายศาสตราวุฒิหรือบอม (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ปิดฉากล่า "พ่อค้ายาเมืองปัว" หนีหมาย 4 คดีจนมุมกลางเมืองกรุง ดังนี้

 

ปิดฉากล่า "พ่อค้ายาเมืองปัว" หนีหมาย 4 คดีจนมุมกลางเมืองกรุง

 

1.หมายจับของศาลจังหวัดน่าน(สาขา)ปัว ที่ จ.12/2564 ลง 7 พฤษภาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ซึ่งคำนวณน้ำหนักสารบริสุทธิ์ตั้งแต่สามร้อยเจ็บสิบห้ามิลลิกรัมแต่ไม่เกินยี่สิบกรัมโดยไม่ได้รับอนุญาต”

2.หมายจับของศาลจังหวัดน่าน(สาขา)ปัว ที่ จ.33/2564 ลง 17 สิงหาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ที่มีสารเสพติดดังกล่าวผสมอยู่จำนวนสิบห้าหน่วยการใช้ขึ้นไปหรือมีน้ำหนักสุทธิตั้งแต่จุดห้ากรัมขึ้นไปไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

ปิดฉากล่า "พ่อค้ายาเมืองปัว" หนีหมาย 4 คดีจนมุมกลางเมืองกรุง

 


3.หมายจับของศาลจังหวัดน่าน(สาขา)ปัว ที่ จ.47/2564 ลง 11 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ซึ่งคำนวณน้ำหนักสารบริสุทธิ์ตั้งแต่สามร้อยเจ็บสิบห้ามิลลิกรัมแต่ไม่เกินยี่สิบกรัมโดยไม่ได้รับอนุญาต”

4.หมายจับของศาลจังหวัดน่าน(สาขา)ปัว ที่ จ.48/2564 ลง 20 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ซึ่งคำนวณน้ำหนักสารบริสุทธิ์ตั้งแต่สามร้อยเจ็บสิบห้ามิลลิกรัมแต่ไม่เกินยี่สิบกรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จับกุม บริเวณหน้าแมนชั่นแห่งหนึ่ง แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

โดยเมื่อประมาณต้นปี 2564 ถึงกลางปี หลังจากที่ผู้ต้องหาได้พ้นโทษออกจากเรือนจำในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้ต้องหาได้มาพักอาศัยอยู่ที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน โดยผู้ต้องหากับพวกรวม 5 คน ยังมีพฤติการณ์ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด(ยาบ้า) โดยเป็นผู้จำหน่ายยาบ้าในพื้นที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน อยู่เรื่อยมาและเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปัว จังหวัดน่าน จึงทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมดำเนินคดีพรรคพวกของผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้แล้ว ต่อมาผู้ต้องหารู้ตัวว่าจะถูกจับกุม จึงได้หลบหนีออกจากพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดาน และทำงานอยู่ในพื้นที่เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังออกติดตามตัว และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปัว จว.น่าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา