ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต

ด่วน! ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์​ อุทธนผล คดีคลุมถุงดำ แต่ได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต

ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต อีกหนึ่งคดีที่ประชาชนต่างจับตาบทสรุป สำหรับคดี ผู้กำกับโจ้ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ซึ่งล่าสุดศาลได้ตัดสิน ผกก.โจ้ ออกมาแล้ว 

 

ด่วน! ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ แต่ได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต

โดยภายหลังจากที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์​ อุทธนผล หรือ​ "ผกก.โจ้" อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวก​รวม 7 คน ฐานร่วมกันฆ่า นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือ มาวิน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหา จนขาดอากาศหายใจอย่างทารุณ​ โดยอัยการยื่นฟ้องคดีอัตราโทษประหารสถานเดียว


ด้าน เรืออากาศตรีจักรกฤษ จั่นดี อายุ 58 ปี พ่อของเหยื่อ ก็ได้เดินทางมาที่ศาลด้วย โดยให้สัมภาษณ์ว่า เดินทางมาพร้อมกับ นางจันจิรา ธนะพัฒน์ อายุ 55 ปี ภรรยา และ น้องใบเฟิร์น แฟนสาว ของ นายจิระพงศ์ ผู้เสียชีวิต การต่อสู้คดีในระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ตนทำอย่างเต็มที่แล้ว สู้ตามความเป็นจริง ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามคลิปที่ทุกฝ่ายเห็น แม้ฝ่ายผู้ต้องหาจะอ้างว่าปฏิบัติตามหน้าที่ไม่ได้ตั้งใจไม่ได้เจตนาจะทำให้ลูกชายเสียชีวิต แต่ในเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทุกคนที่เห็นภาพเหตุการณ์ตามคลิปก็น่าจะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่

ด่วน! ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ แต่ได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต

พ่อมาวิน เหยื่อผู้กำกับโจ้ ระบุอีกว่า ทุกวันนี้ภาพจำสุดท้ายของตนคือภาพวันที่ลูกถูกจับเดินทางออกจากบ้าน แล้วไม่ได้กลับมาที่บ้านอีกเลย ได้แต่สวดมนต์ไหว้พระทำจิตใจให้สงบเพราะบางทีก็ยังนอนไม่หลับ เนื่องจากเมื่อคิดถึงภาพตามคลิปเหตุการณ์ครั้งใดก็ไม่สบายใจที่ลูกถูกกระทำอย่างรุนแรงขนาดนี้  


"ส่วนแนวทางการต่อสู้และเรียกร้องค่าเสียหายตอนนี้ มีการเรียกร้องเกี่ยวกับเรื่องค่าเลี้ยงดูตนและภรรยาเป็นระยะเวลา 10 ปี วงเงินประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาได้วางเงินเอาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ท้ายที่สุดศาลจะตัดสินอย่างไรก็อยู่ที่ดุลยพินิจ และ จะได้เงินครบจำนวนที่เรียกร้องไปหรือไม่ ยังต้องปรึกษาทนายความอีกครั้งว่าจะยื่นอุทธรณ์ด้วยหรือไม่ เพราะต้องบอกตามตรงว่ารู้สึกเหนื่อยล้ากับการต่อสู้มามากพอสมควรแล้ว"

ด่วน! ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ แต่ได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต

ล่าสุด ศาลพิพากษาตัดสิน ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงดำคลุมศรีษะ ผู้ต้องหายาเสพติดจนถึงแก่ความตาย เเต่มีเหตุบรรเทาโทษ เยียวยาผู้เสียหาย จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่  1, 2, 3, 4 ,5 และ 7 จำคุกตลอดชีวิต  จำเลยที่ 6 ลงโทษ 5 ปี 4 เดือน จำคุกตลอดชีวิต 'ผกก.โจ้'


สำหรับพฤติกรรมตำรวจ จำเลย ทั้ง 7 ราย 
จำเลย 1 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (โจ้) อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหา ทุบหลัง ตบหน้า ยันเข่า และสาดน้ำใส่ รวมถึงช่วยปั๊มหัวใจ

จำเลย 2 พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง (ต้น) อดีต สว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ เข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหา หยิบผ้าเข้ามาในห้อง

จำเลย 3 ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค (ไก่) อดีตรองสวป.สภ.เมืองนครสวรรค์ หัวหน้าชุด เข้าไปล็อกขาของผู้ต้องหา และช่วยปั๊มหัวใจ

จำเลย 4 ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา (ต้อง) อดีตรองสว.(ป.)สภ.เมือง รองหัวหน้าชุด พยายามใส่กุญแจมือหยิบผ้าให้ผู้กำกับ หยิบกะละมังใส่น้ำ รวมถึงช่วยปั๊มหัวใจด้วย

จำเลย5 ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว (โบ้) อดีตผบ.หมู่ (ป.)สภ.เมืองนครสวรรค์ ประจำชุด เข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหาและเป็นคนส่งถุงดำให้ผู้กำกับคลุมหัวผู้ต้องหา

จำเลย 6 ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น (เต้) อดีตผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ประจำชุด เป็นผู้สังเกตการณ์

จำเลย 7 ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาบัว (ต้อม) อดีตสภ.ตาคลี คนขับรถให้ ผกก. เป็นคนเข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหาและช่วยปั๊มหัวใจ

ด่วน! ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ แต่ได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต


โดยทั้งหมดถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ประกอบด้วย จำคุกตลอดชีวิต 'ผกก.โจ้'
- เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

 

- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
- ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

 

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289(5), 309 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4, 172

 

ด่วน! ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ แต่ได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต