- 08 มิ.ย. 2565
ด่วน! ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล คดีคลุมถุงดำ แต่ได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต
ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต อีกหนึ่งคดีที่ประชาชนต่างจับตาบทสรุป สำหรับคดี ผู้กำกับโจ้ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ซึ่งล่าสุดศาลได้ตัดสิน ผกก.โจ้ ออกมาแล้ว
โดยภายหลังจากที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผกก.โจ้" อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวกรวม 7 คน ฐานร่วมกันฆ่า นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือ มาวิน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหา จนขาดอากาศหายใจอย่างทารุณ โดยอัยการยื่นฟ้องคดีอัตราโทษประหารสถานเดียว
ด้าน เรืออากาศตรีจักรกฤษ จั่นดี อายุ 58 ปี พ่อของเหยื่อ ก็ได้เดินทางมาที่ศาลด้วย โดยให้สัมภาษณ์ว่า เดินทางมาพร้อมกับ นางจันจิรา ธนะพัฒน์ อายุ 55 ปี ภรรยา และ น้องใบเฟิร์น แฟนสาว ของ นายจิระพงศ์ ผู้เสียชีวิต การต่อสู้คดีในระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ตนทำอย่างเต็มที่แล้ว สู้ตามความเป็นจริง ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามคลิปที่ทุกฝ่ายเห็น แม้ฝ่ายผู้ต้องหาจะอ้างว่าปฏิบัติตามหน้าที่ไม่ได้ตั้งใจไม่ได้เจตนาจะทำให้ลูกชายเสียชีวิต แต่ในเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทุกคนที่เห็นภาพเหตุการณ์ตามคลิปก็น่าจะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่
พ่อมาวิน เหยื่อผู้กำกับโจ้ ระบุอีกว่า ทุกวันนี้ภาพจำสุดท้ายของตนคือภาพวันที่ลูกถูกจับเดินทางออกจากบ้าน แล้วไม่ได้กลับมาที่บ้านอีกเลย ได้แต่สวดมนต์ไหว้พระทำจิตใจให้สงบเพราะบางทีก็ยังนอนไม่หลับ เนื่องจากเมื่อคิดถึงภาพตามคลิปเหตุการณ์ครั้งใดก็ไม่สบายใจที่ลูกถูกกระทำอย่างรุนแรงขนาดนี้
"ส่วนแนวทางการต่อสู้และเรียกร้องค่าเสียหายตอนนี้ มีการเรียกร้องเกี่ยวกับเรื่องค่าเลี้ยงดูตนและภรรยาเป็นระยะเวลา 10 ปี วงเงินประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาได้วางเงินเอาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ท้ายที่สุดศาลจะตัดสินอย่างไรก็อยู่ที่ดุลยพินิจ และ จะได้เงินครบจำนวนที่เรียกร้องไปหรือไม่ ยังต้องปรึกษาทนายความอีกครั้งว่าจะยื่นอุทธรณ์ด้วยหรือไม่ เพราะต้องบอกตามตรงว่ารู้สึกเหนื่อยล้ากับการต่อสู้มามากพอสมควรแล้ว"
ล่าสุด ศาลพิพากษาตัดสิน ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงดำคลุมศรีษะ ผู้ต้องหายาเสพติดจนถึงแก่ความตาย เเต่มีเหตุบรรเทาโทษ เยียวยาผู้เสียหาย จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1, 2, 3, 4 ,5 และ 7 จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 6 ลงโทษ 5 ปี 4 เดือน จำคุกตลอดชีวิต 'ผกก.โจ้'
สำหรับพฤติกรรมตำรวจ จำเลย ทั้ง 7 ราย
จำเลย 1 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (โจ้) อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหา ทุบหลัง ตบหน้า ยันเข่า และสาดน้ำใส่ รวมถึงช่วยปั๊มหัวใจ
จำเลย 2 พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง (ต้น) อดีต สว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ เข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหา หยิบผ้าเข้ามาในห้อง
จำเลย 3 ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค (ไก่) อดีตรองสวป.สภ.เมืองนครสวรรค์ หัวหน้าชุด เข้าไปล็อกขาของผู้ต้องหา และช่วยปั๊มหัวใจ
จำเลย 4 ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา (ต้อง) อดีตรองสว.(ป.)สภ.เมือง รองหัวหน้าชุด พยายามใส่กุญแจมือหยิบผ้าให้ผู้กำกับ หยิบกะละมังใส่น้ำ รวมถึงช่วยปั๊มหัวใจด้วย
จำเลย5 ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว (โบ้) อดีตผบ.หมู่ (ป.)สภ.เมืองนครสวรรค์ ประจำชุด เข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหาและเป็นคนส่งถุงดำให้ผู้กำกับคลุมหัวผู้ต้องหา
จำเลย 6 ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น (เต้) อดีตผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ประจำชุด เป็นผู้สังเกตการณ์
จำเลย 7 ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาบัว (ต้อม) อดีตสภ.ตาคลี คนขับรถให้ ผกก. เป็นคนเข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหาและช่วยปั๊มหัวใจ
โดยทั้งหมดถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ประกอบด้วย จำคุกตลอดชีวิต 'ผกก.โจ้'
- เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
- ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289(5), 309 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4, 172