- 19 ก.ย. 2565
"อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์"ร้องรื้อคดีหมออุรารัตน์ หลังพบหลักฐานการเสียชีวิตมีเงื่อนงำ ด้านพี่สาวเชื่อ น้องสาวถูกฆาตกรรม
19 ก.ย.65 .ที่กองปราบปราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พร้อม คุณหมอเอกอุรา ตันวรเศรษฐี เข้าร้องผบชก.ตำรวจสอบสวนกลางและผู้บังคับการกองปราบปราม ให้รื้อคดีการเสียชีวิตของคุณหมออุรารัตน์ เบญจารัตนมณี ที่เชื่อว่าถูกฆาตกรรม ไม่ได้ยิงตัวเองจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563
นายอัจฉริยะกล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 มีเหตุการณ์ยิงน้องสาวของคุณหมอที่สภ. บางปะอินอยุธยา คดีนี้มีการเก็บอาวุธปืนในที่เกิดเหตุและโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และมีแพทย์มาชันสูตรการเสียชีวิต ประเด็นแรกคือหลังจากที่มีการเอาศพไปผ่าพิสูจน์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตพบว่าแพทย์ลงความเห็นว่าผู้ตายพบสารยานอนหลับในร่างกาย
ซึ่งสอดคล้องกับข้อสังเกตุที่ว่าวันที่เกิดเหตุผู้ตายได้นัดแม่ฟอกไตช่วงตี 5 ทำให้ไม่มีมูลเหตุในการกินยานอนหลับ นอกจากนี้ในวันเกิดเหตุทราบมาว่ามีโทรศัพท์มือถือหายไปจำนวน 1 เครื่อง นอกนี้ผลชันสูตรยังพบว่าผู้ตายถูกเอาหมอนกดทับที่หน้าอกแล้วยิง แพทย์นิติเวชยืนยันว่าผู้ตายอาจจะยิงตัวตายหรืออาจจะมีคนทำให้ตายก็ได้ แต่ไม่ฟันธงว่ายิงตัวเองตายหรือถูกทำให้ตาย
หลังจากที่มีการผ่าพิสูจน์ศพแล้วพบว่ามีข้อพิรุธ ผู้ตายถูกยิงทะลุผ่านหมอนและผ่านหน้าอกทะลุลงไปยังพื้นในที่นอน สภาพศพผู้เสียชีวิตคุณหมอระบุว่ามีการนอนตะแคงและเป็นคนถนัดขวาแต่ลักษณะนอนตะแคง กระสุนจะทะลุทางหลังไม่ใช่ที่พื้น เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตยิงปืนไม่เป็น แต่ลักษณะการยิงดูคล้ายกับมือปืนมืออาชีพ
นอกจากนี้พนักงานสอบสวนมีการอาวุธปืนที่ได้จากที่เกิดเหตุเอาไปขายและแจ้งว่าทำหายไปแล้ว ส่วนการชันสูตรการเสียชีวิตปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงมาร้องกองปราบปรามให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่เพราะมีพยานหลักฐาน 90% ทั้งหมดผลนิติเวชและภาพประกอบต่างๆ ยืนยันชัดเจนว่ามีปืนทำให้ตายได้
สำนวนการชันสูตรของผู้ตายโดนเก็บไว้ที่บ้านของพนักงานสอบสวนเพิ่งตามไปเอามาเมื่อวันศุกร์ที่16 กันยายน 2565 ผ่านมา ส่วนมูลเหตุจูงใจในการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากแฟนและพวก ซึ่งก่อนหน้าเสียชีวิตมีการโพสต์ข้อความที่รุนแรงออกไป ทำให้ฝ่ายนั้นเกิดความโกรธแค้น
นายอัจฉริยะ กล่าวเพิ่มว่า คดีนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการหรือคดีเพราะมีทั้งพยานหลักฐานและผลนิติเวชจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งหลักฐานทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เหลือแต่ที่กองปราบที่จะช่วยคลี่คลายคดีนี้
ด้านพญ.เอกอุรา ตันวรเศรษฐี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เชื่อว่าน้องสาวถูกฆาตกรรม โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยเชื่อว่าเป็นคนสนิทของผู้ตายเอง เนื่องจากมีปัญหากันมาตลอดหลายปี ประกอบน้องสาวไม่มีเหตุจูงใจให้ต้องฆ่าตัวตาย เพราะได้มีการวางแพลนชีวิตและการทำงานไว้ โดยเตรียมจะย้ายลงไปทํางานที่อ.เบตง จว.ยะลา เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนสนิท แต่ดันมาเกิดเหตุเสียก่อน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline