ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา "แอม ไซยาไนด์" เพิ่มอีก 80 ข้อหา

ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา "แอม ไซยาไนด์" เพิ่มอีก 80 ข้อหา มากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย โดยจะแจ้ง 40 ข้อหาภายในสัปดาห์นี้

ความคืบหน้าคดีแอม ไซยาไนด์ ล่าสุดวันนี้ 6 มิ.ย. 66 รายงานว่าก่อนหน้านั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ว่าตอนนี้พบขวดไซยาไนด์แล้วที่แอมสั่งซื้อ โดยไล่จาก 700 ขวด จากโรงงานในล็อตเดียวกันจนเหลือ 8 ขวด ซึ่ง 1 ใน 8 คือขวดที่แอมสั่งซื้อ ซึ่งแอมสั่งซื้อผ่านเทรดเดอร์ในเว็บออนไลน์ ไม่ได้ซื้อผ่านโรงงานโดยตรง นอกจากนี้ยังพบพยานหลักฐานอื่นๆ อีกที่ทำให้สำนวนชัดขึ้น

ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา แอม ไซยาไนด์ เพิ่มอีก 80 ข้อหา

ล่าสุด เกี่ยวกับคดีแอม ไซยาไนด์ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ได้มีการรวบรวบหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเงิน หรือผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เข้ามารวมในสำนวน จนเริ่มมีความชัดเจนในทางคดีมากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเตรียมแจ้งข้อหาแอม เพิ่มเติมคดีละ 3-5 ข้อหา รวมเกือบ 80 ข้อหา

 

โดยในเบื้องต้นตามหลักฐานที่ชัดเจนแล้ว จะทยอยแจ้ง 40 ข้อหาภายในสัปดาห์นี้ ส่วนที่เหลือยังรอหลักฐานในส่วนอื่นที่จะนำมาประกอบให้สมบูรณ์ก่อน จึงจะแจ้งในภายหลักอีก 40 ข้อหา  

ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา แอม ไซยาไนด์ เพิ่มอีก 80 ข้อหา

ทั้งนี้ ข้อหาแอม ไซยาไนด์ เพิ่มเติมตามพฤติการณ์คดีทั้ง 15 คดี ที่ก่อเหตุ (ก่อนหน้านี้ถูกแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง , ปลอมเอกสาร) ตำรวจเตรียมแจ้งเพิ่ม เช่น

 

มาตรา 236 ผู้ใดปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้น น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขาย สิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้ (ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

 

มาตรา 289 (6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น (ต้องระวางโทษประหารชีวิต)

 

มาตรา 289 (7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ (ต้องระวางโทษประหารชีวิต)

 

มาตรา 339 ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย (ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท) และความผิดตาม พรบ.วัตถุอันตราย