ชมพู่ แฉพฤติกรรม อดีตผัววินจยย.หัวรุนแรง ตนเป็นคนเดียวที่จะหยุดเค้าได้

"ชมพู่"อดีตเมีย แฉนิสัย สมชายอดีตผัววินจยย. ก่อเหตุปลิดชีพยกครัว เป็นคนอารมณ์รุนแรง หัวรุนแรง มักถูกทำร้ายบ่อยครั้ง

กรณีคดีสะเทือนขวัญ นายสมชาย แก้วโกมล วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ยิงปลิดชีพยกครัว 4 ศพ ก่อนปลิดชีพตัวเองตาม  เหตุเกิดภายในซอยแจ้งวัฒนะ 6เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ล่าสุดวันที่ 8ส.ค.66 น.ส.ชมพู่ อดีตเมีย วิน จยย.ผู้ก่อเหตุออกมาแฉนิสัยอดีตผัว พร้อมรับร่างลูกๆแม่และป้า ที่เสียชีวิต

 

 

  ชมพู่ แฉพฤติกรรม อดีตผัววินจยย.หัวรุนแรง ตนเป็นคนเดียวที่จะหยุดเค้าได้

   น.ส.ชมพู่ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังจากส่งศพทั้ง 4 ศพขึ้นรถอาสาสมัคร โดยนางสาวชมพู่ระบุว่า ผมทราบข่าว จากคนในตลาดว่าแม่ถูกยิง ตนจึงรีบโทรหาป้าแต่ปรากฏว่าป้าไม่รับสาย ซึ่งถือว่าเป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเพราะป้าไม่เคยไม่รับสายตน เมื่อเดินทางกลับมาถึงก็พบว่าทั้ง 4 คนถูกยิงแล้ว 

ชมพู่ แฉพฤติกรรม อดีตผัววินจยย.หัวรุนแรง ตนเป็นคนเดียวที่จะหยุดเค้าได้


   ส่วนนายสมชายนั้น ตนคบหาดูใจมาได้มากกว่า 6 ปี  ตลอดที่ผ่านมาตนมาก็ถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด จนสุดท้ายจึงตัดสินใจตกลงกันที่จะจดทะเบียนหย่า แต่ทว่าฝ่ายชายยังตามราวี เพื่อหวังขอคืนดี ตนก็ไม่อยากกลับไป จนทำให้ตนถูกข่มขู่มาตลอดว่า ฝ่ายชายจะทำให้ตนเจ็บช้ำใจมากที่สุด หากไม่ยอมกลับไปคืนดี ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุลงกับครอบครัวของตนเช่นนี้ ตอนนี้เชื่อว่าสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้คือขึ้นมาจากความต้องการของนายสมชายที่อยากให้ตรงกลับไปอยู่ด้วย 

 

นางสาวชมพู่ระบุอีกว่า ตนรู้จักนายสมชายดีมาโดยตลอดว่า เป็นคนที่มีพฤติกรรมรุนแรง อารมณ์ร้อน หัวรุนแรง และมีอาวุธปืน แต่ที่ผ่านมาตนสามารถปรามไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงใช้อาวุธปืนได้ โดยทุกครั้งตนจะเป็นคนที่นิ่งใส่นายสมชายตลอด ซึ่งนายสมชายก็จะหยุดและไม่ทำอะไรอีก

ตนยืนยันว่า หากเมื่อคืนนี้ตนยังอยู่ที่คอนโด จะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้อีก เพราะตนเป็นคนเดียว ที่สามารถทำให้นายสมชายไม่กล้าใช้ความรุนแรงกับคนอื่น 

ชมพู่ แฉพฤติกรรม อดีตผัววินจยย.หัวรุนแรง ตนเป็นคนเดียวที่จะหยุดเค้าได้

ส่วนประเด็นที่มีข้อครหาเรื่องคอนโด ตนยืนยันว่า เป็นน้ำพักน้ำแรงที่ทั้งตนและนายสมชายร่วมกันหาเงินมาซื้อห้อง ไม่ใช่นายสมชายซื้อแค่ฝ่ายเดียว ซึ่งทั้งคู่ตกลงกันที่จะให้เป็นชื่อของนายสมชายเป็นเจ้าของ ส่วนเมื่อเช้าที่ตนกลับไปคอนโดนั้น เพื่อเข้าไปเอากุญแจรถและกระเป๋าของลูกชายตนเท่านั้น ไม่ได้นำทรัพย์สินอื่นใดออกมาอีก 

 

ส่วนประเด็นที่นายสมชายไม่สามารถติดต่อตนได้จนเป็นชนวนเหตุครั้งนี้นั้น เกิดขึ้นจากการที่ตนเพิ่งเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ จึงทำให้นายสมชายไม่สามารถติดต่อตนได้