- 02 ธ.ค. 2566
น้องชายเมียทหาร ตกบ่อขยะในแฟลตทหารดับปริศนา เล่านิสัย พี่เขย ยันยืนคาใจสาเหตุเสียชีวิต พบพิรุธคล้ายมีคนเรียกไป
น้องชายเมียทหารตกบ่อขยะดับปริศนา เล่านิสัย พี่เขย ยันคาใจสาเหตุเสียชีวิต : กรณีพบศพ น.ส.ประกายแก้ว โรจน์ธนวรกุล อายุ 36 ปี เจ้าของร้านของชำในแฟลตทหาร กองทัพภาคที่ 1 ภายในบ่อขยะ หลังหายตัวไปตั้งแต่คืนวันลอยกระทง กระทั่งมาพบว่าเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา เรื่องนี้น้องชายของผู้เสียชีวิตเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม
โดย นายเสฎฐวุฒิ โรจน์ธนวรกุล อายุ 31 ปี หรือ โจ้ น้องชายของ น.ส.ประกายแก้ว หรือ แอน ผู้เสียชีวิต ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ปกติแล้วพี่สาวจะพักอาศัยอยู่ที่แฟลตตึกเดี่ยว ลักษณะเป็นห้องครอบครัวภายใน แยกเป็นห้องพัก 2 ห้อง มีพี่สาว สามีและลูกชายวัย 2 ขวบ พักอยู่ห้องเดียวกัน
ส่วนตนเองจะพักอีกห้องหนึ่ง ซึ่งพี่สาวเปิดร้านขายของชำอยู่ที่ตึกนั้น ส่วนตึกที่พบศพพี่สาวอยู่คนละตึก เรียกว่าตึกคู่ ซึ่งในอดีตพี่สาวเคยพักอยู่ที่ตึกนี้ แต่ย้ายออกมาได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ปัจจุบันปกติแล้วพี่สาวไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตึกนั้นเลย อีกทั้งจุดที่พบศพพี่สาว ก็อยู่คนละฝั่งกับห้องที่พี่สาวเคยพักด้วยซ้ำ
ในคืนเกิดเหตุ นายหนุ่ย สามีพี่สาวเล่าให้ฟังว่า พี่สาวนั่งดื่มสุรากับเพื่อนอยู่ที่ตึกเดี่ยว แล้วหลังจากนั้นพี่สาวก็แยกออกมา ซึ่งให้สามีกลับห้องไปดูแลลูกก่อน จากนั้นพี่สาวก็หายตัวไป ตนมาทราบอีกทีก็ตอนรุ่งเช้า ก่อนจะพยายามช่วยกันตามหาและสามีก็ไปลงบันทึกประจำวัน ก่อนจะพบร่างของพี่สาวในเวลาต่อมา
น้องชายผู้เสียชีวิตล่าต่อไปว่า ตนได้ข้อมูลจากตำรวจว่า พบภาพวงจรปิดเห็นพี่สาวของตนเดินไปที่ตึกนั้น ในลักษณะท่าทางปกติ และมีการหันมองออกมาเหมือนว่ามีคนจะเรียก ก่อนที่พี่สาวจะหันกลับไปและเดินขึ้นตึกที่เสียชีวิตเหมือนเดิม ก่อนจะหายตัวไปและพบเป็นศพในเวลาต่อมา
อีกทั้งมีภาพวงจรปิดอีกมุม แสดงให้เห็นว่า พี่สาวออกจากห้องน้ำและหยิบโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อ แต่ปรากฏว่าที่ศพของพี่สาวโทรศัพท์หายไป ซึ่งตนเชื่อว่าการเสียชีวิตของพี่สาวมีเงื่อนงำและยังติดใจในการเสียชีวิต ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
แม้ว่าพี่สาวจะมีปัญหาด้านสุขภาพเป็นโรคมะเร็งไทรอยด์ระยะที่ 3 แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้พี่สาวต้องเครียดหรือกังวล เพราะที่ผ่านมาพี่สาวก็รักษาตัวอย่างดีมาโดยตลอด อีกทั้งเขารักลูกและสามีของเขาเป็นอย่างมาก
ตนจึงไม่เชื่อว่าพี่สาวตัวเองจะคิดสั้นฆ่าตัวตายได้ เชื่อว่าพี่สาวตนเองน่าจะถูกฆาตกรรม แต่จะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์หรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะที่แฟลตไม่มีประวัติเรื่องเหตุอาชญากรรมมาก่อน อีกทั้งปกติแล้ว ตนกับพี่สาวจะพูดคุยกันตลอด ไม่เคยไม่สามารถโทรหาหรือติดต่อได้
ซึ่งติดต่อครั้งสุดท้ายในวันที่ 27 พฤศจิกายน ตนได้ไลน์ทักหาพี่สาวตามปกติตอนหนึ่งทุ่ม ก่อนพี่จะเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมง ทั้งนี้ ตนได้ส่งข้อความสุดท้ายในวันที่ 28 พฤศจิกายน ถามพี่สาวว่าอยู่ไหน แต่ไม่มีการตอบกลับ และวันที่ 29 พฤศจิกายน ตนสามารถโทรเข้าเครื่องโทรศัพท์ของพี่สาวตนเองได้ แต่ไม่มีใครรับสาย ก่อนที่หลังจากนั้นจะไม่สามารถติดต่อโทรศัพท์ของพี่สาวได้อีกเลย
ส่วนตัว นายหนุ่ย สามีของพี่สาวนั้น ตนไม่ได้รู้สึกติดใจกับสามี เพราะหลังจากทราบข่าวว่าพี่สาวหายไปในช่วงเช้า สามีพี่สาวก็เป็นคนแรกที่ออกตามหาและไปแจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ อีกทั้งตอนที่ตั้งวงกินเหล้าในคืนวันลอยกระทง
นายหนุ่ย สามีพี่สาวก็ยืนยันว่าคืนนั้น พี่สาวไล่ให้เขากลับไปดูลูกที่ห้องก่อน โดยพี่สาวกับสามีคนนี้คบหากันมาได้ 5 ปีแล้ว มีลูกชายด้วยกัน 1 คนวัย 2 ขวบ ที่ผ่านมาก็มีทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็คืนดีกัน ไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือมีปัญหากันภายในครอบครัวจนเกิดภาวะเครียดทั้งสองฝ่าย
ส่วนประเด็นที่ตั้งข้อสงสัยว่า เป็นการฆาตกรรมเพื่อล้างหนี้หรือไม่ น้องชายเล่าว่า ที่ผ่านมามีคนมาหยิบยืมเงินพี่สาวของตนจริง แต่เป็นจำนวนแค่หลักพันไม่ได้มากมายและบางส่วนก็เป็นเพียงแค่การเซ็นของ ในร้านชำ อีกทั้งที่ผ่านมาพี่สาวก็ไม่ได้มีอริหรือมีปัญหาใดๆ กับใคร