- 22 มี.ค. 2567
นาทีรวบ ไฮโซโจ เจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดัง ก่อเหตุย่ำยีเหยื่อสาว จนคิดสั้นกระโดดตึก4ชั้น หวังปลิดชีพตัวเอง ตำรวจสืบนครบาลเปิดพฤติกรรม ไฮโซจ ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกรวบ"ไฮโซโจ"เจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดัง ที่ได้ก่อเหตุขืนใจสาว ก่อนจะทำให้เหยื่อสาวคิดสั้น กระโดดตึก 4 ชั้น จนอาการสาหัส ล่าสุดสาวคนดังกล่าว มีอาการครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่ในห้อง ICU ทำให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช. ส่งชุดสืบสวนไล่ล่าจับตัว ไฮโซโจ โดยผู้ต้องหามีท่าทีขัดขืนการจับกุม อ้างว่าเหยื่อผู้หญิงสมยอมและยอมตกเป็นโลกใบที่ 3 เอง
นาทีรวบ"ไฮโซโจ"
โดยตำรวจ สืบนครบาล ได้มีการเปิดคลิปวินาที บุกรวบ ไฮโซโจ อายุ 42 ปี เจ้าของแบรด์ขนมกล้วยชื่อดังอยู่บ้านเลขที่ 448/34 ถ.ช่องนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.277/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. 67 สามารถจับกุมตัวได้ที่ คอนโดหรูย่าน ซ.นายเลิศ ถ.เพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพ
ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน”
พฤติกรรม"ไฮโซโจ"
นางสาวเอ (นามสมมติ) กับร่างไร้สติในห้อง ICU ที่อาการครึ่งเป็นครึ่งตาย จากการตัดสินใจกระโดดตึกจากชั้น 4 เพื่อหวังจะลาโลกใบนี้ หลังจากที่ต้องทุกข์ทรมานดำดิ่งอยู่กับภาพจำที่สุดเลวร้ายจากการถูก “ไฮโซโจ” ย่ำยีพร้อมคำพูดที่ยังตามหลอกหลอน โดยสาวผู้เคราะห์ร้าย เธอพักอยู่ที่บ้านพักละแวกสีลมและดำเนินชีวิตโดยปกติของเธอ และมีไฮโซโจนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดัง และขยายกิจการมาเปิดร้านขายกัญชาอยู่ข้างๆบ้านที่เธอพักอาศัย
เรื่องเลวร้ายได้เกิดขึ้นตอนย่ำรุ่งของวันที่ 13 มี.ค. 67 เมื่อไฮโซโจตกอยู่ในอาการมึนเมาในร้านขายกัญชาของตัวเอง ก่อนจะบุกเข้าไปในบ้านและเข้าไปในห้องนางสาว เอ ที่นอนอยู่ จากนั้นได้ลงมือล่วงละเมิดเธอ
เมื่อเธอได้สติตื่นมาก็พบว่าไฮโซโจยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ เธอรวบรวมสติก่อนจะหลบหนีออกจากบ้านอย่างสุดชีวิต มุ่งหน้าไปที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อแจ้งความในทันที เธอเดินขึ้นโรงพักด้วยท่าทีหวาดระแวงสุดขีด อาการเนื้อตัวสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัดทำให้ ร.ต.อ.หญิง วิรัญชนา แพงคำ ผู้เป็นร้อยเวรที่รับแจ้งต้องพาเธอเข้าห้องเย็น ก่อนจะเกลี้ยกล่อมเธอหลายชั่วโมง จนเธอยอมเปิดใจและบรรยายเหตุการณ์พร้อมใบหน้านองน้ำตากว่า 6 ชั่วโมงในการสอบปากคำ มันหดหู่ใจจนทำให้ตำรวจหญิงผู้สอบปากคำเธอถึงกับร้องไห้ตามเธอไปด้วย
สาวเหยื่อไฮโซโจ คิดสั้นกระโดดตึกชั้น 4
กระทั่งวันที่ 17 มี.ค. 67 เธอตัดสินใจกระโดดลงจากชั้น 4 หวังคิดสั้น ซึ่งผลสุดท้ายตัวเธออยู่ในอาการโคม่าครึ่งเป็นครึ่งตาย จนเรื่องนี้ถึงหูของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช. ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนคดีนี้ทันที
ซึ่งต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ ออกหมายจับ ไฮโซโจ นักธุรกิจเจ้าของแบรด์ขนมกล้วยชื่อดัง และเป็นตระกูลของนักธุรกิตชื่อดังหลังลงพื้นที่สืบสวน ผู้การจ๋อ สืบทราบว่าไฮโซโจนี้พักอาศัยอยู่กับแฟนสาวในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านเพลินจิต และสามารถจับกุมได้ที่ ล็อบบี้ของคอนโด ขณะกลับมาจากทานข้าวเที่ยงโดยขณะจับกุมไฮโซโจมีท่าทีขัดขืนเจ้าหน้าที่จึงเกิดการปะทะคารมกันเล็กน้อยก่อนจะยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตัว
ไฮโซโจ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ในชั้นจับกุม ไฮโซโจ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์ขนมกล้วยดังที่ส่งออกขายทั่วโลก และยังเป็นทายาทนักธุรกิจ จบการศึกษาจากต่างประเทศ ส่วนทางคดียืนยันไม่ได้ขืนใจเพราะผู้เสียหายยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเอง ส่วนแฟนสาวที่คบอยู่ปัจจุบันนี้ไม่ทราบว่าตนเองมีโลกใบที่ 3 พึ่งจะมาทราบวันนี้ หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะมีความขัดแย้งกับคำให้การและพยานหลักฐานหลายประเด็น ต้องชื่นชมที่พนักงานสอบสวนหญิงสามารถเกลี้ยกล่อมและบันทึกปากคำหญิงผู้เสียหายไว้ได้ตั้งแต่แรก ซึ่งนี้คือพยานหลักฐานที่สำคัญมาก เพราะในตอนนี้ตัวของผู้เสียหายที่ตกจากตึกชั้น 4 นั้นสภาพร่างกายยังไม่สามารถมาให้การหรือต่อสู้ใดๆทางคดีได้