- 17 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เดินหน้างานพัฒนาเศรษฐกิจต่อเนื่อง จนพิสูจน์ให้ทั่วโลกเล็งเห็นขีดความสามารถของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าศักยภาพการบริหารประเทศ ไม่มีจุดอ่อนด้อยใด ๆ แม้ว่าจะถูกโจมตีทางการเมืองมาโดยตลอด ว่าเป็นรัฐบาลจากการรัฐประหาร ล่าสุดมีข่าวดีข่าวใหญ่ เมื่อ ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 เม.ย. นี้ นายแจ๊ค หม่า (Jack Ma) ประธานบริหารของกลุ่มอาลีบาบา จะมาเยือนประเทศไทย เพื่อประกาศแผนการลงทุนของอาลีบาบาในพื้นที่อีอีซี (Eastern Economic Corridor : EEC) รวมถึงโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและส่งเสริมบุคลากรไทยในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ
ประเด็นดังกล่าวน่าจับตามองบทสรุปว่าจะสร้างผลดีต่อประเทศไทยมากขึ้นขนาดไหน เนื่องจาก ดร.อุตตม ระบุว่า ที่ผ่านมาทางด้านกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) , กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไปรษณีย์ไทย (Thai Post) และหน่วยงานอื่น ได้ร่วมหารือกับทีมงานของอาลีบาบามาอย่างต่อเนื่องนับแต่ที่นายแจ๊ค หม่า มาเยือนประเทศไทยเมื่อปี 2559 และขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปความร่วมมือในโครงการหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ดังต่อไปนี้
1)โครงการลงทุนสร้างศูนย์ Smart Digital Hub ใน พื้นที่ EEC โดยศูนย์ฯ นี้จะอาศัยเทคโนโลยีระดับโลกของอาลีบาบาในด้านการประมวลข้อมูลโลจิสติกส์เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และไปยังที่อื่นทั่วโลก ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ยังได้มีการประสานกับกรมศุลกากรในการยกระดับพิธีการทางศุลกากรให้เป็นระบบดิจิทัลด้วย ซึ่งการตั้งศูนย์ Smart Digital Hub นี้จะช่วยผลักดันให้เหล่าธุรกิจ Startup และ SME ไทยสามารถพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้าถึงตลาดทั่วโลกได้ รวมถึงจะเป็นศูนย์กลางการในการดำเนินกิจกรรมวิจัยพัฒนาดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงาน EEC จะเชื่อมประสานSmart Digital Hub กับ เขตนวัตกรรมดิจิทัล หรือดิจิทัลพาร์ค (EECd)และเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) ด้วย
2) โครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรในด้านดิจิทัลและการส่งเสริมธุรกิจผ่าน E-Commerce ซึ่งอาลีบาบาจะร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในการพัฒนากลุ่มคนเก่งหรือดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent) โดยอาลีบาบาได้เสนอให้วิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา หรือAlibaba Business School (ABS) มาร่วมสนับสนุนการใช้ Platform E-Commerce โดยจะเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ทั้งนี้ ภายใต้โครงการนี้ อาลีบาบาจะเปิดโอกาสให้นักศึกษานักวิจัยอาจารย์รวมถึงผู้ประกอบการไทยไปร่วมเข้าโครงการฝึกอบรมพัฒนาในด้านดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งสร้างเครือข่าย (Networking) กับดาวเด่นหรือ Talents ทั่วโลกที่ประเทศจีนอีกด้วย
3)โครงการร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการ SME และ Startupของไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลโดยเน้นให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจ ได้เรียนรู้และเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีไทยให้สามารถเข้าถึง Regional Global Value Chain โดยอาลีบาบาจะจัดทีมงานร่วมลงพื้นที่กับทีมงานของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยใช้เครือข่าย ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 สู่อนาคต(Industry Transformation Center:ITC)ในระดับภาคและจังหวัดของกระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สามารถพัฒนาและเข้าถึงผู้ประกอบการSME และ ผู้ประกอบการ Startup ระดับชุมชนทั่วประเทศ
4) อาลีบาบา จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) ในการจัดทำ Thailand Tourism Platform สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะเพื่อจัดกิจกรรมด้านการตลาดร่วมกันบนออนไลน์แพลทฟอร์มที่สามารถเชื่อมโยงกับสื่อและช่องทางต่างๆ ของ ททท. รวมทั้งจะร่วมมือกันในด้านการใช้ข้อมูลทางการท่องเที่ยว (Tourism Big Data) เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวในไทยให้รองรับกับยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวในระดับชุมชนของรัฐบาล
ขอบคุณภาพ : ฐานเศรษฐกิจ , MBA Magazine
5)กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับอาลีบาบาในการเปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เพื่อสนับสนุนการขายข้าวไทยทางออนไลน์ในจีน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวสามารถเข้าถึงตลาด E-commerce ในจีนได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ในปัจจุบันที่สินค้าไทยกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรและอาหารของไทย
ตอนท้าย ดร.อุตตม กล่าวด้วยว่า การเดินทางมาประเทศไทยของ นายแจ๊ค หม่า (Jack Ma) ครั้งนี้ มีกำหนดการจะเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย และจะเข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลงความเข้าใจสำหรับโครงการการลงทุนใน EEC โดยความร่วมมือซึ่งโครงการที่อาลีบาบาจะมีส่วนร่วมนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันและเข้าถึงตลาดการค้าได้ทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกในโอกาสเดียวกัน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรโดยเฉพาะกลุ่ม SME ผู้ประกอบการใหม่อย่างทั่วถึงในพื้นที่จังหวัดให้เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0