'ดีเซล' ขึ้นอีกรอบ แตะ 32.94 บาท/ลิตร เป็นที่เรียบร้อย  มีผล 31 พ.ค.67 นี้

กบน. ปล่อยดีเซลขยับขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อลิตร มีผล 31 พ.ค. 2567 ราคาสูงสุดเต็มเพดาน 32.94 บาทต่อลิตร ไปเป็นที่เรียบร้อย

'ดีเซล'  ขึ้นอีกรอบ แตะ 32.94 บาท/ลิตร เป็นที่เรียบร้อย  มีผล 31 พ.ค.67 นี้

\'ดีเซล\' ขึ้นอีกรอบ แตะ 32.94 บาท/ลิตร เป็นที่เรียบร้อย  มีผล 31 พ.ค.67 นี้

ทางด้าน นาย วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงมีความผันผวน ต่อเนื่องจากสถานการณ์ด้านสงครามและเศรษฐกิจ ประกอบกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงชดเชยเงินในส่วนของน้ำมันดีเซลอยู่ ดังนั้นเพื่อให้สะท้อนราคาน้ำมันที่เหมาะสม และรักษาสภาพคล่อง ให้สามารถบริหารจัดการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตทั้งด้านการเงินและสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จึงมีมติช่วยตรึงอัตราเงินชดเชยดีเซล และน้ำมันดีเซล B20 ไว้ที่ 1.40 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายสำหรับน้ำมันดีเซลประมาณวันละ 96.29 ล้านบาท และการตรึงอัตราเงินกองทุนน้ำมัน ประเภทดีเซลในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร เป็น 32.94 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 2567  เป็นต้นไป

ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2567 ที่มีมาตรการ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน โดยวางกรอบการตรึงราคา น้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. – 31 ก.ค. 2567 ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่สิ้นสุดเมื่อเดือน เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา และการดำเนินการนี้เป็นไปตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 เห็นชอบในหลักการให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกเกินกว่า 30 บาทได้ตั้งแต่เดือนเม.ย.  2567 เป็นต้นไป
 

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 26 พ.ค. 2567 ติดลบ 111,345 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,690 ล้านบาท

สำหรับ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2567 ติดลบ 111,345 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,690 ล้านบาท