หนังคนละม้วน!?! “จีรนุช กิ๊ฟช็อป” ซัดแหลก “อาหลอง”ดูถูกศักดิ์ศรี! เดือดจัด “อาร์ต ศุภวัฒน์” พาดพิงเรื่องอยากดัง? (ชมคลิป)

             ดราม่ายังไม่จบ กรณีความขัดแย้ง ระหว่าง “ฉลอง ภักดีวิจิตร” และฝ่ายประสานงานกองถ่าย “ทิวลิปทอง” ที่เนเธอร์แลนด์ หลังจากที่ฝ่าย“จีรนุช กิ๊ฟช็อป” ไลฟ์สดแฉผู้กำกับดัง ไม่ขึ้นเครดิตโลโก้ขอบคุณสถานที่ รวมถึงประเด็นค่าใช้จ่าย จนฝ่ายฉลองยกทีมนักแสดงมาโต้เดือด ออกอาการงงว่าเงินแค่ 9 พันบาททำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ในขณะที่ให้ถ่ายรูปคู่ปลาร้าก็ยินดีถ่ายให้โดยไม่คิดเงินสักบาท ล่าสุด“จีรนุช ทุเครือ” บินด่วนมาเมืองไทย ขอชี้แจงประเด็นร้อนแรงดังกล่าว พร้อมสามี “ริชชาร์ด” และ “ณัฎฐกานต์ ใบเงิน” เผยถึงความไม่พอใจ กรณีที่ “อาร์ต ศุภวัฒน์” พาดพิงเรื่องอยากดัง อยากใช้นามสกุลภักดีวิจิตร ซัดดูถูกกันเกินไป 

             “วันแรกที่นุชฟังข่าวไลฟ์สดของอาฉลอง ตอนนั้นนุชอยู่ฮอลแลนด์นะคะ วันนั้นก็ตกใจที่อาพูดว่าเขาเจอเราที่งานขายของในวัดไทยอัมสเตอร์ดัม ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่ได้เจออาที่งานนั้นเป็นงานแรก แต่เราเจออาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วค่ะ แล้วก็ร่นมาจนถึงเมื่อปี 2015 ติดต่อโดยคุณสมรักษ์นะคะ ซึ่งเป็นพี่ชายที่สนิทกัน เขาก็จะรู้ว่าเราทำธุรกิจดอกไม้อยู่นะคะ และเราก็นัดเจออาที่เมืองไทยวันที่ 7 มกราคมปี 2016 ก็คือเจอกันก่อนที่อาจะบินไปดูโลเกชั่นด้วยซ้ำไปค่ะ คือไม่สามารถจะเป็นไปได้ว่าอามาเจอหนูที่วัดไทยอัมสเตอร์ดัมค่ะ ครั้งแรกคุยกันผ่านพี่สมรักษ์คืออยากให้เราหาทุ่งทิวลิปใหญ่ๆ เท่านั้นเองค่ะครั้งแรกเลยที่ติดต่อพี่สมรักษ์มา และคนภายในก็จะรู้ว่านุชกับคุณริชชาร์ดจะเป็นคนที่ซื้อทิวลิปมาจากชาวนาเลยและส่งมาขายที่ประเทศไทยโดยตรง”

                 “ในส่วนของเรื่องการขออนุญาต ข้ามไปที่วันที่อามาดูโลเกชั่นวันที่ 27 มีนาคม อาบินไป 4 คน มีอา มีภรรยาคุณอา คุณอาร์ต (ศุภวัฒน์) และคุณโอ เสร็จก็บินกลับมา ระหว่างนั้นนุชก็แนะนำให้รู้จักกับคุณณัฎฐกานต์ คือก่อนที่จะบินไปดูโลเกชั่นค่ะ ซึ่งไม่ตรงกับที่อาแถลง เพราะจริงๆ นุชเป็นคนแนะนำให้คุณอาค่ะ และระหว่างนั้นนุชมองว่านุชทำงานทุกวัน นุชก็เลยไม่สามารถช่วยคุณอาได้ในเรื่องต่างๆ นุชก็เลยให้พี่ณัฎฐกานต์เป็นคนติดต่อให้ และหลังจากกลับมาจากดูโลเกชั่น พี่ณัฎฐกานต์ก็เลยปรึกษานุชก่อนที่คุณอาจะบินไปวันที่ 17 เมษายนคือรอบที่สอง ก็ติดต่อผ่านนุชมา แล้วพี่ณัฎฐกานต์บอกว่ามีบางโลเกชั่นที่ไม่สามารถขอใบอนุญาตทัน เพราะว่าคุณอาบินไปเมื่อวันที่ 27 และไปอีกครั้ง 17 เมษายน มันใช้เวลาแค่ไม่ถึงเดือน แต่สถานที่ต่างๆ ของเนเธอร์แลนด์ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 อาทิตย์ในการขอใบอนุญาตแต่ละที่ ก็เลยจำเป็นต้องปรึกษาเรา และเราก็เลยบอกแฟนเรา ริชชาร์ดก็เลยบอกว่าเดี๋ยวฉันทำให้ ก็ภายใน 1 อาทิตย์ได้ใบอนุญาตครบทุกอย่าง ขาดแต่สนามบินอย่างเดียวที่ไม่ได้”

         “ส่วนที่เขาบอกว่าเขาเจอนุชเป็นแม่ค้าขายปลาร้า แล้วนุชให้เรามาช่วยถือคือวันที่ 23 เมษายน ซึ่งเขาบินวันที่ 27 ก็เท่ากับว่าเจอกันหลายวันแล้ว สนิทกันมาหลายวันแล้ว ช่วยเขาถ่ายทำมาหลายวันแล้วค่ะ คนในกองถ่ายก็จะรู้ว่านุชขายปลาร้าด้วยและขายดอกไม้ด้วย วันงานวันที่ 23 จะเป็นงานวัดวันสงกรานต์ก็จะมีคนไทยเยอะแยะเลยในวัด และขอบอกว่าหลวงพ่อไม่เคยเจอคุณอานะคะ แต่คุณอาบอกว่าหลวงพ่อมาขอร้องให้ดารามาช่วยงาน ไม่ใช่นะคะ คือนุชเอาไอเดียนี้บอกคุณณัฎฐกานต์ว่าจะเป็นไปได้มั้ยจะเรียนพระอาจารย์ว่าขอให้ดาราไปช่วยงาน ซึ่งคุณอาก็ช่วยด้วยความเต็มใจ ก็กลายเป็นว่าดาราหรือเด็กในกองก็รู้จักนุชแล้ว พอวันที่ 23 เขาก็เดินไปเดินมาในวัด เขาก็เห็นเราเปิดบูธขายปลาร้าอยู่ เขาก็มาช่วยนุชขาย ตะโกนสนุกสนานเฮฮา นุชไม่เคยบังคับ ไม่เคยขอร้องค่ะ ทุกคนมีความสุขที่จะมาช่วยนุชขาย แต่ที่เขาบอกว่าเราไปบังคับมันเป็นเรื่องไม่จริงเลย ที่เราออกมาวันนี้คือเราอยากจะพูดบ้าง”

        “เรื่องเงินซ่อมบิ๊กไบก์ 3 คัน หลังจากเขากลับทางทางเราไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย เพราะเขาอาจจะโกรธเราเป็นบางส่วนนะคะ พอหลังจากนั้นก็จะมีบิลของเจ้าของรถกลับมาว่าเราทำรถเขาเสียหาย มีรอยข่วนเต็มคันเลย เขาต้องทำสีใหม่ในราคา 1,050 ยูโร ตอนนั้นเราก็พยายามจะส่งบิลไปหาทุกคนที่ติดต่อเขาได้ แต่ไม่มีใครติดต่อได้เลย ประเทศเนเธอร์แลนด์ถ้ามีบิลแล้วเราไม่จ่ายเงินเขา บิลมันจะขึ้นมาจาก 1,000 เป็น 1,200 1,500 จนเราติดแบล็กลิสต์ นั่นคือเนเธอร์แลนด์เขาเป๊ะมาก ซึ่งเราเป็นคนเช่าเราก็ต้องจ่ายเงินตรงนั้นไป ตั้งแต่เขากลับมาเกือบ 2 เดือนแรกก็จ่ายไปแล้วนะคะ แล้วเราก็ทวงถามมาโดยตลอด นุชถามนิดหนึ่งว่านุชจำเป็นต้องไปจ่ายค่ามอเตอร์ไซค์ให้เขามั้ย มันไม่จำเป็นเลย มันเป็นปัญหาของเขา พอเขาติดต่อกลับมาเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำล้ม แต่เรามีคลิปนะคะว่าเขาเป็นคนทำล้ม ก็ทวงถามมาปีกว่าๆ จนล่าสุดไม่กี่เดือนที่ผ่านมาคุณตู่ พี่สาวภรรยาอาฉลองเขาจ่ายให้เพราะเขาคงอายมั้งคะ (หัวเราะ) ก็ย้ำว่าเขาจ่ายนะคะ แต่ไม่ได้จ่ายทันที จ่ายหลังจากนั้นปีกว่า จ่ายตามยอดบิลที่เราให้ไปค่ะ โอนเข้าบัญชีของนุช”

         “เขาบอกว่าเราอยากดัง อันนี้คือนุชนอยด์มากที่เขาพูดว่านุชอยากดัง จะให้ใช้ชื่อคุณนุช ภักดีวิจิตรเลยเหรอ ซึ่งเรามองว่าเราแต่งงานแล้วนะคะ นามสกุลที่เราอยากจะใช้ก็คือนามสกุลของสามีนุชนะคะ หรือนามสกุลที่พ่อแม่นุชให้มา คือเหมือนกับดูถูกผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นคนไทยที่ไม่สมควรจะเอาเรื่องนามสกุลสามีมาล้อเล่นนะคะ เขาต้องการอะไรกันแน่ แต่ตอนหลังเขาบอกว่าพูดเล่น แต่เรามองว่าเราไม่โอเคนะคะ เขาสนุกนะคะ แต่เราไม่สนุกด้วย เราอยากให้นึกถึงศักดิ์ศรีของเราว่าเราไม่ได้อยากใช้นามสกุลคนอื่นค่ะ ถ้าถามว่านุชสำคัญยังไงกับละครเรื่องนี้ และนุชทำอะไรบ้าง เขาพูดมาคำหนึ่งว่าสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ จะเรียกอากินข้าวเหรอ ซึ่งการที่เราช่วยเขาเราไม่ต้องการเรียกเงิน ทุกวันนี้นุชไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว แต่นุชจะบอกว่านุชทำอะไรบ้างนะคะที่เนเธอร์แลนด์ 1.บ้านโยฮัน มาเฟีย 2.บ้านลิซ่า 3.ทุ่งทิวลิป 3 ทุ่งใหญ่ๆ 4.สถานีตำรวจ 5.ซูเปอร์มาร์เก็ต 6.รถยนต์ BMW ซีรีส์ 5 ให้มาใช้ทั้งเรื่อง รถตู้คันสีขาว รถลิซ่า แล้วก็มีรถที่เข้าฉากคือเฟอร์รารี่, แอสตัน มาร์ติน, BMW ฟรีหมดเลยนะคะ โรงงานทิวลิป กังหันลม ค่ายมวย สนามบินเราให้คุณอาเป็นคนจ่ายเงิน แต่คุณริชชาร์ดเป็นผู้ขออนุญาต และขอบอกว่ายากมาก เพราะวันที่ไปขอเขาบอกเลยว่าไม่ได้ แต่อาก็ยืนยันว่าจะถ่ายให้ได้ เราก็ต้องขอให้เจ้านายเก่าของคุณริชชาร์ดที่เป็นทหารช่วย แล้วก็มีมอเตอร์ไซค์ 3 คันที่แฟนเป็นคนติดต่อให้ และเอ็กซ์ตร้าที่เข้าฉากก็วันละ 100 ยูโร การขออนุญาตทุกอย่างก็เป็นชื่อคุณริชชาร์ดทั้งหมดนะคะ แล้วก็ทุ่งดอกไม้ที่เข้าไปถ่ายทำฟรีหมด ที่จะบอกก็คือเราไม่ได้ต้องการเงินที่ช่วยเหลืออานะคะ แต่เสียใจที่ว่าอาบอกเราสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ เรื่องที่ว่าเราจะไปดิสเครดิตเขา หรือจะไม่ให้เครดิต ไม่เคยพูดเลยค่ะ แต่ที่เราทวงถามและตามเรื่องเงินคือขอค่ารถ 1,050 ยูโรคืน ที่บอกว่าเราส่งแมสเซสไปหาคุณอาว่าเราจะไม่ให้เครดิต คือไม่จริงค่ะ เขาไม่เคยอ่านแมสเซสนุชเลย เขาบล็อกค่ะ เขาไม่เคยติดต่อเราเลย มีแต่เราติดต่อคุณอาร์ตเรื่องเงิน 1,050 ยูโร ซึ่งถ้าเราไปถามคุณอาร์ตแล้วจะให้ไปถามใครคะ เพราะเราไม่เคยติดต่อเขาได้เลยนะคะ มันเป็นปัญหาที่เราต้องจ่ายให้เขาเหรอ”

         “ถ้าเขาบอกว่าเราจะไปดิสเครดิตเขา คือนุชเคยพูดในไลฟ์แล้วนะคะ คือคุณอาร์ตติดต่อไปทางคุณมาร์ติน จริงๆ ไม่อยากจะพูดถึงคุณมาร์ตินเพราะว่าตอนนี้เขาย้ายไปเป็นท่านเลขาทูตประจำประเทศโปแลนด์แล้ว และเขาย้ำแล้วย้ำอีกว่าการที่คุณทะเลาะกันอย่าเอาเขาเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเขาอยู่ในสถานะเป็นท่านทูต เขาไม่มีสิทธิมาตัดสินใจว่าทางอาผิดหรือนุชผิด และเขาก็ย้ำกับทางแฟนนุชมาว่าเขาไม่อยากให้เอาชื่อเขามาเกี่ยวข้อง คุยล่าสุดเขาก็ไม่แฮปปี้ แต่คุณอาร์ตก็ยังบอกว่าเขาเป็นเพื่อนสนิท แต่เขาไม่ใช่เพื่อนสนิทค่ะ เขาเป็นเลขาท่านทูตค่ะ จริงๆ ที่นุชโกรธก็คือเขาสั่งให้แฟนนุชไม่ให้นุชเข้าไปยุ่งกับชีวิตเขาอีก ห้ามพูดถึง เราถึงโกรธ และไลฟ์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ไม่ได้ไลฟ์สาธารณะอยู่แล้ว แต่ไม่ได้อยากจะทำลายชื่อเสียงของอาเลยนะคะ เราแค่ต้องการให้มีส่วนร่วมบ้างว่าเราเจออะไรมาบ้าง ที่นุชเคยไลฟ์ว่าอาเตรียมเงินมา 4 ล้าน แต่ช่อง 7 ให้มา 11 ล้าน อันนี้คือฝ่ายภรรยาเขาพูดค่ะ อาไม่เคยพูด เขาบอกว่าค่าตั๋วเครื่องก็ไม่พอแล้ว แต่ที่นุชเห็นในการใช้จ่ายในกอง นุชไม่เคยเห็นคุณพิมพ์ควักนะ เห็นแต่คุณตู่ที่เป็นพี่สาวของคุณพิมพ์เป็นคนควักทั้งหมด นุชก็เลยไม่รู้ว่าเขาอยู่ในสถานะอะไร แต่คุณตู่แนะนำตัวกับนุชว่าเขาเป็นเจ้าของบริษัทอินทรีย์ ซึ่งเราก็สงสัยว่าทางเราเองก็แทบไม่ต้องให้เขาควักอะไรเลย ฟรีทุกอย่าง ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมช่อง 7 ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรให้เลยเหรอ นุชถึงอยากจะรู้ว่าช่อง 7 รู้หรือไม่ว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนี้อยากจะพูดถึงว่าทำไมเราทำงานด้วยกัน พูดคุยกันดีๆ 3 อาทิตย์ แต่อยู่ๆ วันหนึ่งไม่พูดกัน มันมีเคสเรื่องปืนปลอมเข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ อดีตเจ้านายสามีนุชเขาเป็นทหาร เขาจะรู้ดีว่าปืนปลอมในต่างประเทศไม่สามารถนำเข้ามาในกองถ่ายได้ คือมีน้องในกองถ่ายคนหนึ่งเขาถือมาแล้วตัวสั่นมาบอกเราว่าทำยังไงดี หนูมีปืนปลอม อาเอามาฝากไว้ เราก็ตกใจ เพราะเนเธอร์แลนด์เห็นปืนปลอมเป็นเรื่องใหญ่มากค่ะ เราก็เอาไปให้แฟน เขาก็ถามว่ามาได้ยังไง แฟนก็เลยไปบอกอาว่าถ้าอยากจะให้ช่วยต่อ อย่าเอาปืนปลอมเข้ามาในกองถ่าย เพราะผมเป็นคนการันตีคุณ การมีปืนปลอมที่เนเธอร์แลนด์โทษจำคุกนะคะ ตำรวจสามารถยิงได้เลยค่ะ”

         “เขาบอกว่าช่อง 7 ไม่เกี่ยวข้อง ช่อง 7 ไม่มีความผิดเลย ช่อง7 จ่ายเงินค่าต่างๆ มาแล้ว นุชมองว่าช่อง7 รับรู้ค่ะว่าค่าอะไรเท่าไหร่ นุชมองว่าช่อง 7 ไม่ผิด แต่ถ้าจบอันนี้ไปแล้วก็คงต้องทำเรื่องไปที่ช่อง 7 ว่าห้ามมีการรีรัน เพราะเจ้าของบ้านแต่ละหลังไม่ยอม แต่ถ้าจะมีต้องใส่เครดิตให้ใหม่ มันไม่ได้ยากนะคะ นุชไม่ได้ขออะไรมากมาย วันที่อามาบอกนุชว่าอีกบริษัทหนึ่งที่เนเธอร์แลนด์ต้องการเงินจากเขา 10 ล้านบาทในการคอนเนคพวกนี้ นุชบอกเลยว่ามันเยอะมาก ทำไมอาต้องเสีย 10 ล้าน ก็เลยเสนอตัวเองเข้าไปช่วยฟรี นุชไม่เคยคิดเรื่องตังค์เลย แต่เรื่องโลโก้ที่เราซีเรียสคือกลัวคนจะมองว่าเรารับเงิน ทุกวันนี้เขารอดูโลโก้อย่างเดียวเลย เพราะเราไปสัญญากับเขาไว้เยอะมากเรื่องโลโก้ ตอนที่คุยกันคุณอาก็อยู่ด้วยค่ะ คุณอารับรู้ค่ะ ทางเราก็จบแล้วค่ะ ที่นุชออกมาวันนี้คือที่เขาบอกว่านุชโกหกทุกเรื่อง นุชจะบอกว่านุชมีงานทำค่ะ นุชบินมาจากฮอลแลนด์นุชเสียเวลามาก เราคงไม่ยืดเยื้อมานั่งแถลงอีกรอบกลับไปกลับมา นุชทำงานค่ะ ถ้านุชพูดไม่จริงนุชจะเอาตัวเองมาติดคุกทำไม หรือพี่ณัฎฐกานต์ พี่สมรักษ์ไม่พูดเรื่องจริงจะพูดทำไม เราทำงานค่ะ ที่ออกมาพูดวันนี้คือต้องการความถูกต้องค่ะ ไม่ใช่ว่าอยากจะมาสร้างกระแสหรือผลักดันสินค้า ไม่ใช่เลยค่ะ ไม่ได้อยากไปเจอเขา แค่อยากเคลียร์ในส่วนของเราว่าเราเจออะไรมาบ้าง และถ้าไม่มีโลโก้ก็คงต้องฟ้องค่ะ และถ้ารีรีนแล้วไม่มีโลโก้ เราก็ต้องทำเรื่องถึงช่อง 7 อยู่แล้วค่ะ”

       “ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโลโก้ก็คือมันถูกส่งไปแล้ว ผมคิดว่าเขาลืมเรื่องราวอีกครึ่งหนึ่งไป ครั้งแรกที่ผมส่งไป ผมได้รับการตอบกลับมาว่า ภาพโลโก้ละเอียดไม่พอ พวกเขาส่งอีเมล์ ส่งจดหมายมาหาผมก็เลยบอกไปว่าผมไม่มีรูปที่ใหญ่กว่านี้ แต่คุณเป็นมืออาชีพ เป็นคนทำหนัง เป็นคนออกแบบคุณต้องทำให้ได้ซิ มันก็จบแค่นั้น มีบ้างเรื่องที่ผมยอมรับไม่ได้ ตอนเริ่มถ่ายหนังที่สนามบิน ผมได้ยินว่าเขามีปืนปลอม ซึ่งผมไม่รู้มาก่อน ก็เลยมีบางคนบอกว่าปืนอยู่ที่รถบัสผมก็เลยทำลายทิ้ง โลโก้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับบริษัท คุณเห็นโลโก้ก็จะนึกถึงบริษัท ถึงไม่มีชื่อก็รู้ว่าเป็นบริษัทอะไร โลโก้จึงสำคัญมาก ตอนแรกฉลองมาฮอลแลนด์กับนักแสดง และทีมงานสร้างหนัง พวกเขาไม่มีอะไรเลย พวกเขาต้องการทั้งบ้าน และรถ หรืออะไรก็ตามเราได้แต่คิดว่าจะช่วยอะไรได้บ้างเพราะพวกเขาไม่มีใบอนุญาตอะไรเลย เรามีบ้านให้สองหลังฟรีๆ มีรถบัสให้ฟรี เพราะหนังของเขาทุนต่ำมาก เขามีเงินไม่ค่อยเยอะ แต่คุณควรใส่ชื่อ กับโลโก้ในหนังด้วย เพราะสำหรับเรามันสำคัญมาก แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว ไม่มีประโยชน์แล้ว ก่อนหน้านั้นผมก็เริ่มสงสัยบ้างแล้ว เราเคยนัดพบเพื่อคุยกันที่นี่ตอนต้นปี 2016 ที่กรุงเทพนี่ กินกาแฟกัน พูดคุยธุรกิจกัน แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลย แต่หลังจากนั้นน่าจะเป็นเดือน มีนาคม เขาก็ติดต่อมาบอกว่าทำสำเร็จแล้ว ผมก็เลยบอกว่าโอเค. แต่ผมบอกเบิร์ดว่า ผมต้องการอะไรที่เป็นลายลักษณ์อักษรนะ พวกเขาก็เลยส่งสัญญามาทางจดหมายก็เป็นสัญญาที่ดี แต่ตรงด้านล่างกลับมีตัวหนังสือเล็กๆ ว่า สัญญานี้ไม่ได้เพิ่มมูลค่าให้บริษัทคุณ”

    “ที่เขาบอกว่าทำเรื่องภาษีอะไรให้เขาไม่สำเร็จ จริงๆ แล้วเรื่องภาษีน่าจะกลับไปถามทางผู้บริหารนะคะ เพราะเอกสารตัวนี้ถูกเรียกกลับไปในวันที่เขาเดินทางกลับค่ะ แล้วเราก็เอาเอกสารพวกนี้ส่งกลับคืนไปให้ที่สนามบิน คือเขาเอาเอกสารที่เราทำไว้ให้เพื่อเอาไปมอบให้กับอีกกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเราทำงานไม่สำเร็จนะคะ แต่เพราะเขาเรียกกลับคืนไป เราก็ต้องคืนเขาไปและวันนั้นเป็นวันสุดท้ายด้วยที่เราจะได้เจอพวกเขา เพราะเป็นวันที่เขาเดินทางกลับ ซึ่งเราเป็นคนขับรถพาเจ้าอาวาสไปส่งทีมงานเขาและเอาเอกสารตัวนี้ไปคืนให้กับน้องที่เป็นเลขา ถ้าเราไม่ส่งคืนเขาเอกสารพวกนี้จะมาอยู่ที่ประเทศไทยได้ยังไง เรื่องเงิน 9,000 เรื่องที่จอดรถได้คืนแล้วค่ะ เขาโอนคืนมาเมื่อคืนค่ะ เมื่อวานพอดีมีน้องในกองให้เบอร์ภรรยาของอาฉลองมาแล้วบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา ก็เลยให้คุณอาร์ตเป็นคนโอนเงินมาให้ เรื่องเงินตรงนี้ก็จบไป ไม่มีค้างแล้วค่ะ ส่วนที่คุณอาร์ตบอกว่าให้ตามเรื่องรถที่ถอยมาทับกล้อง อันนี้เอกสารที่ได้มายังขาดลายลักษณ์อักษรทางบริษัทคุณอาร์ตนี่แหละค่ะ เราก็จะตามให้ค่ะ"

 

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูล : ซุปเปอร์บันเทิง
ขอบคุณคลิป : Real Clip Channel