- 24 ม.ค. 2561
*ดังแล้วเรื่องเงียบ!?! ตั้งข้อสงสัย ขุดคดีพระเอกหนุ่ม "เติ้ล ธนพล" ขโมยไฟหลวงยักยอกทรัพย์ 2แสน เหตุอันใดอัยการยังไม่ส่งฟ้อง??
.
.
.
.
.
หลังจากที่พระเอกหนุ่ม “เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข” เสียงสั่นเสียงสั่นน้ำตาคลอเบ้าเมื่อถูกสื่อซักถามถึงความคืบหน้าคดีขโมยไฟหลวงมาทำคาร์แคร์ รวมไปถึงกรณีที่ยื่นฟ้องอดีตลูกน้องในคาร์แคร์ข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นจำนวนเงินประมาณ 2 แสนบาท และมีสีหน้าเครียดจัด ให้สัมภาษณ์เสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
“ตอนนี้อยู่ในชั้นของตำรวจครับ มีความคืบหน้ายังไงเดี๋ยวผมจะบอกครับ เพราะตอนนี้เราพูดอะไรมากไม่ได้ เดี๋ยวจะมีผลต่อคดี มีใบแจ้งมาครับ แต่ยังไม่ได้บอกวันเวลา ผมก็มั่นใจมากครับ ต้องบอกว่าตั้งแต่ผมสร้างคาร์แคร์มา ผมแทบจะไม่ได้ไปเลยทั้งๆ ที่พนักงานและลูกน้องรู้ทั้งหมดว่าผมไปน้อยครั้งมาก ส่วนใหญ่จะสั่งงานกันทางโทรศัพท์ จะให้บริหารงานกันเองมากกว่า เพราะตอนนั้นผมก็ต้องเทียวไล้เทียวขื่อในการถ่ายละครด้วย ซึ่งหนักมากครับ ตอนนั้นไปต่างประเทศบ่อยมากครับ หลักฐานตอนนี้กำลังรวบรวมอยู่ครับ (ยืนยันความบริสุทธิ์ตัวเองมั้ย เพราะมันก็แรง) แต่ผมไม่ได้ทำครับ อันนี้ผมยังไม่ทราบเหมือนกันครับ ถ้ามีการเรียกปากคำก็ยินดีครับ ถามว่าเครียดมั้ยก็มีส่วนเครียดหลายๆ เรื่องครับ เพราะเรื่องก็ไม่ได้เกิดจากเราด้วยครับ ถ้าถามเรื่องผลกระทบ (เริ่มมีอาการน้ำตาซึม ตัวสั่น หน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด) มันมีผลกระทบไปหมดเหมือนกันครับ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำ (เสียงสั่น) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่ฟ้องลูกน้องเอง ผมขอพักแป๊บหนึ่งได้มั้ยครับ (เดินออกจากวงสัมภาษณ์น้ำตาคลอ หายไปปรับอารมณ์ประมาณ 10 นาที กลับมาก็ยังหน้าเครียดและน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา)”
ทั้งนี้ดูคดีจะเงียบไปนาน ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา สำหรับในส่วนของคดีความที่เกี่ยวกับเรื่องอาญาในความผิดฐานหลักทรัพย์ที่มีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดฉะเชิงเทรา" ซึ่งเป็น "ผู้กล่าวหา" นักแสดงหนุ่มนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวก็พบว่าคดีนี้ยังไม่มีการส่งเรื่องฟ้องร้องแต่อย่างใด
โดยในส่วนของสำนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทราเองก็ได้มีหนังสือแจ้งให้ทราบถึงเหตุผลว่าสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่าง "สอบสวนเพิ่มเติม" อยู่ อันที่จริงจะว่าไปแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นความผิดดูจะค่อนข้างจะสำเร็จแล้ว แถมพยานหลักฐานต่างๆ ก็ค่อนข้างจะชัดเจนทีเดียว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระยะเวลาที่ผ่านมา 4 เดือนนั้นทำไมดูเหมือนเรื่องจึงจะไม่ไปถึงไหนเลย?
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการที่นักแสดงหนุ่มเองเคยระบุว่าตนเองนั้นรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนหรือเปล่า? แต่ที่แน่ๆ มันทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าไม่ใช่ดารา ไม่ใช่คนดัง แต่เป็นตาสีตาสาธรรมดาๆ ทำผิดกฏหมายในกรณีนี้บ้าง เรื่องราวของคดีความจะไปถึงไหนแล้ว?
.
.
.
.
ที่มา : เมเนเจอร์บันเทิง