เบื้องหลังชีวิต เสรีย์ รุ่งสว่าง เรียนจบป.4 ลำบากมากรับจ้างทำนาทำไร่

ถือเป็นนักร้องลูกทุ่งทรงเอกลักษ์ในตำนาน สำหรับ บุญลือ รุ่งสว่าง  หรือ เสรีย์ รุ่งสว่าง ชื่อเล่นว่า ต้อม ซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบว่ากว่าที่เสรีย์จะมาเป็นนักร้องไม่ได้ง่ายๆเลย หรือจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวของโชคชะตาฟ้าลิขิตขึ้นมา ให้เขาเดินทางมาสายดนตรี กลายเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ

 

โดย เสรีย์ รุ่งสว่าง เกิดเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2498 ที่หมู่บ้านดอนตาจีน ต.บ้านแหลม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี มีพี่น้องมากมายถึง 17 คน และเสียงดีทุกคน ตัวเสรี รุ่งสว่าง นั้นนอกจากเสียงจะดีแล้ว ก็ยังเป็นคนชอบร้องเพลงอย่างมากด้วย เคยขึ้นเวทีประกวดตามที่ต่างๆ และก็กวาดรางวัลมามากมาย

 

 

 

เขาจบการศึกษาแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นก็ออกมารับจ้างทำนาทำไร่ ขนดินถมที่ โดยมีรถบรรทุกไว้รับจ้างทั่วไป ในสมัยที่ยังเป็นหนุ่ม ครั้งหนึ่งเคยประกอบอาชีพเป็นช่างตกแต่งโบสถ์ วิหาร ตามวัดต่างๆ และในขณะที่ทำงานก็มักจะร้องเพลงไปด้วย จนมีคนไปเล่าให้ครูเพลงตาบอดชื่อสัมฤทธิ์ รุ่งโรจน์ ผู้ที่ปลุกปั้นแสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ จนโด่งดังว่ามีช่างเสียงดีคนหนึ่งอยู่ที่สุพรรณบุรี ร้องเพลงเพราะมาก น่าจะชักชวนให้มาเป็นนักร้อง

 

 ครูสัมฤทธิ์ รุ่งโรจน์ จึงตรงไปที่วัดตุ้มหู ซึ่งเป็นวัดที่เสรี รุ่งสว่าง กำลังทำงานอยู่ที่ เมื่อไปถึง หลังจากได้ฟังเสียงของเขา และสำรวจโหงวเฮ้งด้วยการใช้มือคลำหน้าตา ก็เกิดชอบใจจึงเดินทางไปที่บ้านของเขาแล้วบอกกับพ่อแม่ของเสรี รุ่งสว่าง ว่าจะพามาเป็นนักร้อง

ต่อมา หมอเอื้อ อารี มาขอตัวจากครูสัมฤทธิ์ รุ่งโรจน์ ให้มาอยู่ในสังกัดของบริษัทเสกสรรเทปแผ่นเสียง ซึ่งมีนายห้างประจวบ จำปาทอง เป็นประธานบริษัท เสรี รุ่งสว่าง ถูกส่งมาอยู่ภายใต้การดูแลของ ครูชลธี ธารทอง ซึ่งได้รับมอบหมายให้ปั้นเสรี รุ่งสว่าง แข่งกับ สุชิน สินส่งเสริม ที่อยู่ภายใต้การปลุกปั้นของครูฉลอง ภู่สว่าง 

 

 

ในที่สุด เสรี รุ่งสว่าง ก็ออกผลงานเพลงชุดแรก และทำให้เขาได้แจ้งเกิดในวงการลูกทุ่งจากบทเพลง จดหมายจากแม่  ของครูชลธี ธารทอง ตามมาด้วยเพลงดังอีกหลายเพลง ทั้งคนกล่อมโลก ไอ้หนุ่มสุพรรณ หนุ่มทุ่งกระโจมทอง และอื่นอีกมาก 

 

 

ต่อมา นายห้างประจวบ จำปาทอง ได้ให้ เสรี รุ่งสว่าง มาตั้งวงดนตรีคู่กับ พุ่มพวง ดวงจันทร์ โดยใช้ชื่อวงว่า คู่ขวัญชีวี เสรี พุ่มพวง แต่หลังจากที่ตั้งวงคู่กันอยู่ระยะหนึ่ง ชื่อเสียงของเขากลับเงียบหายไปเสียเฉยๆ เป็นเสมือนนักร้องอาภัพ ที่คนรู้จักผลงานเพลง แต่คนร้องกลับไม่ดัง ต่อมา นายห้างนคร รัตนชูโชคเจ้าของค่ายเพลงของบริษัท เอส เอ็น อาร์ต โปรโมชั่นจำกัด ได้ติดต่อ เสรี รุ่งสว่าง มาเป็นนักร้องประจำค่ายเพลงแล้วก็ให้ครูชลธี ธารทอง มาแต่งเพลงป้อนให้กับ เสรี รุ่งสว่างอีกครั้ง ซึ่งครูชลธี ธารทอง ก็ทำให้คนทั้งประเทศได้รู้จักเสรี รุ่งสว่างเป็นอย่างดีกับบทเพลง เทพธิดาผ้าซิ่น ที่ถ่ายทอดบรรยากาศชีวิตคนท้องไร่ท้องนาได้อย่างน่าชื่นชม และบทเพลงอื่นๆอีกมากมาย อาทิเช่น ไอ้หนุ่มรถซุง และเรียกพี่ได้ไหม

 

 ดูเหมือนว่า เสรี รุ่งสว่าง จะมีดวงที่สมพงษ์กันกับของครูชลธี ธารทอง เพราะเพลงดังๆของเขาส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่มาจากฝีมือและมันสมองของครูเพลงชาวชลบุรีผู้นี้