- 15 มิ.ย. 2562
ก่อนอื่นต้องขอเเสดงความเสียใจ ต้องสูญเสีย น้ำตาล เดอะสตาร์ 5 เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 02.17 น. ของวันที่ 14 มิถุนายน หลังเข้ารับรักษาตัวด้วยอาการเลือดออกทางปากจมูก และในกระเพาะ เฉียบพลัน สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวและแฟนคลับเป็นอย่างมาก
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้กับวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีข่าวของ น้ำตาล เดอะสตาร์ หรือ บุตรศรันย์ ทองชิว ที่ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 02.17 น. ของวันที่ 14 มิถุนายน หลังเข้ารับรักษาตัวด้วยอาการเลือดออกทางปากจมูก และในกระเพาะ เฉียบพลัน สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวและแฟนคลับเป็นอย่างมาก
โดย สาวน้ำตาล ได้เข้ารับรักษาตัวอย่างกระทันหันเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. ซึ่งเกิดอาการป่วยเลือดออกทางปากและจมูก หายใจไม่สะดวก จนต้องปั๊มหัวใจที่บ้าน ก่อนนำส่ง รพ.สมุทรสาครตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันเดียวกัน
ทั้งนี้ทางด้าน คุณพ่อวิโรจน์ได้โพสต์กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ บุตรศรัณย์ ทองชิว (น้ำตาลเดอะสตาร์5) ในวันที่ 14 - 18 มิถุนายย2562 และในวันที่ 19 มิถุนายน 2562 เวลา 16.00 น. ประชุมเพลิง ณ วัดป้อมวิเชียรโชติการาม ต.มหาชัย สมุทรสาคร
โดยบรรยากาศภายในงานนั้นเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนร่วมวงการแห่มาแสดงความอาลัยการจากไปของ สาวน้ำตาล กันอย่างมากมาย อาทิเช่น มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น ฟลุ๊ค พชร ธรรมมล กิ่ง เหมือนแพร พานะบุตร และอีกมากมาย
ล่าสุดทางด้าน คุณพ่อวิโรจน์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการจากไปของลูกสาว น้ำตาล เดอะสตาร์ โดยทางด้าน คุณพ่อ ได้กล่าวไว้ว่า เรื่องน้ำตาลโดนทำคุณไสย ถ้าหากว่ามันมีตะปูออกมาด้วน ก็คงจะเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น แต่นี่ไมมี ดังนั้นจึงไม่เชื่อเรื่องนี้ เพราะตัวน้ำตาลและครอบครัวเราไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับไสยศาสตร์เลย เรื่องลอยอังคารทางเราคุยกันแล้วว่าจะนำอัฐิของน้ำตาลไปลอยที่แม่น้ำสมุทราสาคร สำหรับเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต ตนไม่ได้ติดใจอะไรทั้งสิ้น ทางด้านแพทย์ได้แจ้งว่าอาจจะทราบผลชิ้นเนื้อที่ตัดไปตรวจภายใน 1 - 2 สัปดาห์ หลังน้ำตาลสิ้นใจหมอก็ได้ทำการส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก พบว่ามีตุ่มหรือก้อนอะไรอยู่ ซึ่งคาดว่าอาจเป็นสาเหตุ
โดยทางด้าน คุณพ่อวิโรจน์ ได้กล่าวต่อว่า ในวัยเด็กน้ำตาลมักจะมีเลือดกำเดาไหลเดือนละ 1 - 2 ครั้ง แต่พอโตขึ้นก็หายไป ซึ่งก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติก่อนหน้า แต่ถ้าหากให้เดาผนังโพรงจมูกเขาอาจจะบางลงเรื่อยๆ ซึ่งวันนั้นหลังจากเขากินข้าวเสร็จอาจทะลุแล้วเลือดไหลลงหลอดลมทำให้ปิดทางเดินหายใจ คล้ายกับคนจมน้ำบนบก ตนคิดว่าน้ำตาลอาจจะไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะเขานิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรเราเลย ม่านตาก็ไม่ตอบสนอง ซึ่งเขาอยู่ได้ด้วยเครื่องมือแพทย์และยา เราแค่อยากให้เขาลืมตาขึ้นมานิดนึงก็ยังดี แต่ไม่เลย