รอยสักรูปหน้า เจเน็ต เขียว บนหน้าอกสามี ที่บ่งบอกถึงความรัก

ไม่ค่อยเห็นหน้าคาตาซักเท่าไหร่นัก สำหรับนักร้องสาว "เจเน็ต เขียว" ภายหลังที่เธอแต่งงานกับสามีรุ่นลูกที่อายุห่างกันถึง 12 ปี  มีชื่อหนุ่ม "แจ็ค" ซึ่งแฟนหนุ่ม เป็นนักดนตรีในวงของ "เจเน็ต เขียว" นั่นเอง

 

 

และทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานถึง 11 ปีแล้ว พร้อมวางแผนจะกลับไปใช้ชีวิตด้วยกันที่จ.นครราชสี มาอีกด้วย   งานนี้ทางทีนิวส์จะพาไปดูโฉมหน้าแฟนหนุ่มของเธอแบบชัดๆ พร้อมโม้มเนต์ชวนน่าอิจฉา เมื่อสามีของเธอ สักรูปหน้าเธอไว้ที่หน้าอก บอกเลยทำเอาฮือฮาไม่น้อย จะเป็นยังไงไปชมกันเลยจ้า

 

 

 

“อายุห่าง 12 กว่าๆ ค่ะ(ยิ้ม) กินเด็กค่ะ อายุไม่มีปัญหาเลยค่ะ เขาเป็นคนเก่ง เล่นดนตรี อย่างที่บอกว่าต้องทำสายงานเดียวกัน ช่วยเหลือค้ำจุน เขาเป็นคนเก่งในเรื่องของดีไซน์ เรียบเรียงเสียงประสาน ทำดนตรี เวลาไปเล่นต่างประเทศก็จะมีเพลงที่ต้องทำใหม่ สนุกมันหน้าเวที เมื่อก่อนต้องซื้อ ต้องจ้าง 10,000 หรือ 5,000 แต่เดียวนี้ฟรีค่ะ(หัวเราะ) ถามว่าใครจีบก่อนกัน เราจีบก่อนอยู่แล้ว (หัวเราะ) ไปเฝ้าเลยค่ะ เขาเป็นนักดนตรีอยู่ที่วงนี่แหละค่ะ ก็จีบเลยค่ะ ตอนนั้นไม่มีแฟน เลิกกันแฟนเก่าไปแล้ว เมื่อก่อนก็จะหาคนที่ใครจะไปช่วยงานได้ เมื่อก่อนก็จะมีหนุ่มต่างประเทศมาชอบอยู่ บางคนก็คิดว่าเรามีแฟนเป็นชาวต่างชาติ”

 

 

 

 

 

** สามีสักรูป "ภรรยา"ไว้บนหน้าอก บอกเป็นรูป “ร็อกรักเมีย”**

 

 

เจเน็ต : “สักตรงอกค่ะ เขาเรียกร็อครักเมีย เขาชอบภาพนี้ค่ะที่ไปถ่ายวอลลุ่มหลายปีแล้วค่ะน่าจะประมาณ 5 ปี เขาสักมา 4 ปีแล้วค่ะ ประมาณ 3 - 4 ปี เขาเรียกร็อครักเมีย(ยิ้ม) เมื่อก่อนผมยาวเป็นร็อค เขาไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับดนตรีอีสาน หรือภาษาอีสานแต่ก็เริ่มที่จะค่อยๆ มาทำงานให้เรา”

แจ๊ค : “สักรูปเขาเพราะรูปสวยดีครับรูปนี้”

เจเน็ต : “ปกติเขาเป็นคนไม่พูดเลย อยู่บ้านไม่พูดเลย เราแย่งพูดหมด เราพูดเป็นร้อยคำ พูดมาคำเดียว จ๊ะ ไม่เถียงสักคำ” 

 

 

 

 

 

 

ทำพิธีแต่งในครอบครัวผูกข้อมือเมื่อปี 50 สาวเจเน็ต กล่าวว่า  “ไม่ค่อยออกสื่อ ที่ผ่านมาไม่ได้ปิดเลยค่ะ ทำงานสายงานเดียวกันนี่ไม่น่าปิดนะคะ วันนี้จริงๆ ก็ไม่ได้เปิดหรอกค่ะ(หัวเราะ) แต่น้องเขาถาม(หัวเราะ) เราก็อยากโชว์ มีแฟนเด็ก(หัวเราะ) ของฉัน(ยิ้ม) มีหลายรายการนะคะติดต่อให้ไปออก แต่เขาไม่ไป จริงๆ เราไม่ได้อยากปิดเพราะเป็นดาราอะไรหรอกค่ะ เราทำงานเราไม่ได้ขายความสวย เราขายความสนุกหน้าเวที ไม่มีใครมาแทะโลมโน่นนี่นั่น เพราะดูหน้าเราก็ผู้ชายจะกลัวซะส่วนใหญ่”

 

“เรื่องงานแต่งก็ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่อย่างนี้แหละค่ะ เพราะว่าเราก็ทำบุญที่บ้าน ที่โคราชไปเมื่อปี 50 ก็มีผูกข้อไม้ข้อมือกัน ก็ถือว่าไม่ต้องเปลือง ไม่ต้องจัดงาน ก็มีผู้ข้อไม้ข้อมือ มีทอง รับไว้ผู้ใหญ่กัน เหมือนมีพิธีแต่งในครอบครัว เหมือนทำบุญบ้าน ญาติเธอญาติฉันมารวมกัน ตอนเย็นก็มีทานข้าวกัน”