ธเนศ พี่ชาย - เปิ้ล หัทยา เล่านาทีสุดท้ายหยุดลมหายใจ ตั้ว ศรัณยู เลือกจากไปโดยสงบ

ผลสืบเนื่องจากการเสียชีวิตของอดีตนักแสดง  ผู้กำกับละคร  และนักต่อสู้ทางการเมืองชื่อดัง  อย่าง  ตั้ว ศรัณยู  วงศ์กระจ่าง   อย่างกระทันหันด้วยอาการป่วยมะเร็ง  จนถึงนาทีนี้  ยังเป็นความสูญเสียที่หลายคนยากจะยอมรับได้   ด้วยขีดความสามารถและห้วงอายุที่น่าจะทำสิ่งรักเป็นประโยชน์ได้อีกมากมาย  

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ  :     เปิ้ล หัทยา โพสต์ล่าสุดถึง ตั้ว ศรัณยู แดง ธัญญา อาลัยซึ้งภาพ 30 ปี คู่เพื่อนสนิท )

ทั้งนี้   สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายชูชาติ ฉุยกลม ผู้แทนพระองค์ เชิญพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพ ตั้ว-ศรัณยู ณ ศาลาเศรษฐี วัดนาคปรก ซอยเทอดไทย 49 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ  สร้างความปลื้มปีติยิ่งแก่ ครอบครัววงษ์กระจ่าง    โดยพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ตั้ว–ศรัณยู   จะจัดตั้งแต่ในวันที่ 11 มิ.ย. - 17 มิ.ย.  เวลา 18.30 น. และมีกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 18 มิ.ย.  เวลา 17.00 น.

 

 

ขณะที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายชูชาติ ฉุยกลม ผู้แทนพระองค์ เชิญพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพ ตั้ว-ศรัณยู สร้างความปลื้มปีติแก่ครอบครัววงษ์กระจ่าง

 

ประเด็นสำคัญ   เปิ้ล หัทยา ภรรยา  กล่าวเปิดใจครั้งแรกกับสื่อมวลชน ด้วยสภาวะของความเศร้าโศก มีน้ำตาไหลซึมมาเป็นระยะ ๆ ว่า  โดยข้อเท็จจริงเราทราบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นมาก่อนหน้า   เพราะพี่ตั้วเป็นไวรัสตักอักเสบบีมานานแล้ว   เป็นตั้งแต่ก่อนที่เราจะแต่งงานซะอีก แต่ที่ผ่านมาเขาสามารถดูแลตัวเองได้  และมีการเช็กร่างกายมาโดยตลอด  เว้นแต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา   ซึ่งมันอาจทำให้สิ่งที่อยู่ในตับของเขามันโตขึ้น   จนกระทั่งมันทำให้ไวรัสตับอักเสบบีกลายพันธุ์และเป็นมะเร็งในที่สุด

 

"ตอนที่ไปโรงพยาบาล ไปตรวจกระดูก คุณหมอบอกว่าน่าจะอยู่ในระยะที่ 3 ค่ะ และน่าจะยังรักษาได้ คือคุณหมอก็จะพยายามให้ยาตัวที่สามารถดูแลตับ รวมถึงฉีดยาอีก 6 เข็ม ซึ่งตอนนั้นก็ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ เพราะพี่ตั้วสามารถออกไปทำงานได้อีกครั้ง ออกไปกำกับละครที่เขาทำค้างอยู่ และก็เริ่มเปิดละครเรื่องใหม่ด้วย จนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกปวดบริเวณสะบักและเอว ก็เลยทำให้ต้องกลับไปหาคุณหมออีกครั้ง 

 

การตรวจในครั้งนั้นคุณหมอลงความเห็นว่าควรจะต้องพัก   เนื่องจากกระดูกของเขาทรุดเพิ่ม เราจึงเข้าสู่กระบวนการฉายแสง  แต่ด้วยความที่ตับมันอยู่ใกล้กับท้องอยู่ใกล้กับกระเพาะ  เลยทำให้เวลาพี่ตั้วทานอาหารเขารู้สึกพะอืดพะอม  ไม่ค่อยอยากทานอาหารสักเท่าไหร่ ประกอบกับเขามีภาวะแคลเซียมสูง ดังนั้นเมื่อแคลเซียมสูงมันก็จึงไปทำลายระบบความคิด ระบบการพักผ่อน และทำให้เขาเริ่มไม่อยากนอนค่ะ"

 

กระทั่งเมื่อพี่ตั้วเริ่มทานอะไรไม่ค่อยได้  น้ำหนักก็เริ่มลดลง และมีภาวะแคลเซียมสูง   ถึงขนาดเวลาที่เขาตื่นก็จะเริ่มพูดว่า กองถ่ายมาพร้อมหรือยัง  จะเริ่มถ่ายหรือยัง วั นนี้กี่คัท กล้องกี่ตัว คือเขาเริ่มรู้สึกคิดถึงงานมาก จนต้องบอกเขาว่า  ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้า  น เขากำลังพักผ่อนอยู่ตามคำแนะนำของหมอ  เขาต้องพัก 6 เดือน ถึงจะกลับไปทำงานได้ แต่มันเหมือนเขารู้สึกว่าชีวิตต้องออกกองอยู่ตลอดเวลา ท้ายที่สุดแล้วเราก็เลยตัดสินใจว่าไปหาคุณหมอดีกว่า และเราเพิ่งเข้าไปโรงพยาบาลกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

 

"หลังจากทำการเอ็กซ์เรย์ปอดคุณหมอก็อธิบายว่า จากเชื้อที่เคยมีอยู่ที่ปอดนิดเดียว ตอนนี้มันเยอะขึ้น แถมยังมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและก็เรื่องของแคลเซียมอีก  จนสุดท้ายทุกอย่างมันเกิดเร็วมากนะตอนแรกเราคิดว่าการไปโรงพยาบาลครั้งนี้  น่าจะทำให้เขาแข็งแรงขึ้น เพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนยา ไม่ได้คิดเลยว่า... ไม่ได้คิดเลย "

 

 

ขณะที่   ธเนศ  วรากุลนุเคราะห์  ผู้เป็นพี่ชาย  เล่าถึงอาการของ ตั้ว ศรัณยู  ก่อนจากไป  ว่า "ผมรู้ทุกอย่างตอนนั้นเลยครับ   รู้ว่าเขาเข้าโรงพยาบาล รู้ว่าเขาล้ม คือเคยคุยกันแค่ประมาณนิดๆหน่อยๆ ช่วงเดือนก่อน   ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเขาอธิบายอะไร  จนกระทั่งผมได้มาทราบรายละเอียดอีกที  ตอนที่เปิ้ลบอกกับผมว่าตั้วเขากินอะไรไม่ค่อยได้  คือตั้วเขาไม่บอกใครเลยครับ ไม่บอกใครเลยจริงๆ เขาเป็นคนแบบนี้ เขาไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน เขาอยากแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ญาติพี่น้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เขารู้แค่กับเปิ้ล 2 คน ขนาดลูกสาวเขายังไม่บอกเลย"

 

จุดน่าสนใจ ก็คือ  พี่เอก ธเนศ  เล่าว่า  ช่วงสุดท้ายตอนที่ตั้วจะไป   ตั้วเขานอนนิ่งๆ เหมือนเขาหลับไปเฉยๆ  ตอนนั้นเราก็บอกเขาว่าหลับไปก็ได้นะตั้ว  ถ้ามันเหนื่อยก็หลับไปไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็เหมือนตื่น ไปตื่นที่ไหนก็ไม่รู้  ตื่นเมื่อไหร่ก็ช่างมัน 

 

 

แต่ตอนนี้ให้เขาสบายใจได้แล้ว ลูกเมียอยู่กับเขา ญาติพี่น้องอยู่กับเขา เพื่อนฝูงมาอยู่กับเขาหมดแล้ว ทุกคนมาส่งเขาแล้ว ให้เขาคิดว่าเขาไปเที่ยว ให้คิดซะว่าตัวเองกำลังจะขึ้นเครื่องบิน แล้วทุกคนมาส่งเขาที่สนามบิน เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีกไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง จนสุดท้ายตัวเขาก็ค่อยๆ ไปในที่สุด

"คุณหมอบอกว่าที่ผ่านมาตั้วเขาพยายามสู้ เพราะเหมือนชีพจรเขาคงที่มาตลอด จนกระทั่งทุกคนเดินทางมาถึงครบถ้วน ทุกคนที่เขาปรารถนาจะเจอได้เดินทางมาถึง สักประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ชีพจรเขาก็ค่อยๆ ลง ค่อยๆลงไปเรื่อยๆ ไม่มีอาการที่แบบว่าลงแล้วขึ้นหรืออะไรเลย ไม่มีภาวะยื้อใดๆ เลยทั้งสิ้น เขาไปแบบสบายๆ คือสงบจนผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เขาพาพวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนั้นสงบตามไปด้วยเลยครับ"

ถามว่า ถ้าหากเราพูดกับเขาได้ เราอยากจะพูดอะไรถึงเขาบ้าง  ก็ต้องบอกว่า  ตั้วเขาสบายอยู่แล้ว   ถามว่าทำไมผมถึงกล้าพูดอย่างนี้   เพราะในขณะที่เขาจะไปผมเห็นว่าเขาไปสบาย เขาอยากจะพักตอนไหน ผมก็บอกว่าให้เขาพัก  เขาอยากจะนอนตอนไหนก็ขอให้เขาได้นอน และสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเอง ผมเองก็ได้แต่บอกเขาว่าให้เขาอยู่กับความสบายนี้ไปนะ"

ช่วงท้าย  เปิ้ล หัทยา  เน้นย้ำว่า จิตใจพี่ตั้วสู้มาก   เขาสู้จริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณหมอบอกว่า  เขาป่วยเขาก็ตอบคุณหมอทันทีเขาว่าเขาสู้  ตอนที่หมอบอกว่าเขาต้องฉีดยา 6 เข็ม  และเขาต้องวอร์มร่างกาย เขาทำทุกอย่าง เขาสู้มาตลอด ทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เขาสู้จริงๆ ค่ะ เพราะเขาอยากทำงาน เขาอยากออกกอง เขาอยากทำงานของเขามากค่ะ เนื่องจากเขายังมีงานที่เขาทำค้างเอาไว้อยู่ให้เสร็จเรียบร้อย

 

 

"พี่ตั้วเขาเป็นคนที่มีหลายบุคลิกค่ะ เขาเป็นคนทำงาน เป็นคนจริงจัง เรื่องไหนที่เป็นเรื่องส่วนตัวมันก็จะเป็นสไตล์เขา คือส่วนตัวก็คือส่วนตัว ทุกคนต่างก็มีภาวะความเครียดของตัวเองอยู่แล้ว ทำไมเราจึงต้องเอาเรื่องของเราไปให้คนอื่นเขาคิดมากอีก เขาเป็นคนที่มองอะไรแบบนี้ อีกมุมเขาก็เป็นคนน่ารัก เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ถึงแม้ภายนอกจะดูเป็นคนเข้มๆ เป็นคนที่ดูจริงจัง แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีในบางจุด"

 

อย่างไรก็ตามเหมือนที่พี่เอก ธเนศ พูดถึงช่วง 5-6 วันที่ผ่านมา ที่เขานอนโรงพยาบาล เขานิ่งและดูสงบมาก เขาไม่ได้ดูเจ็บปวดหรือทรมานใดๆ เลย  ขนาดคุณหมอถามว่าเขาปวดหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่ปวด จะมีก็แค่อาการหายใจไม่ปกตินิดหน่อยๆ แต่ทุกอย่างมันก็ดีจนถึงวินาทีสุดท้าย เราก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของสุขภาพ เขาทำให้เราไม่ชะล่าใจ ไม่ลืมที่จะตรวจเช็กสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้ที่ผ่านมาเขาจะดูแลร่างกายอย่างดี แต่ช่วงเวลาที่อ่อนแอมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ

 

และด้วยคำบอกเล่าของ  พี่ชาย  เอก  ธเนศ  และ ภรรรยา  เปิ้ล หัทยา  พูดถึงวาวะสุดท้ายของ ตั้ว ศรัณยู  ก่อนจากโลกนี้ไป  มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนพูดถึงว่า  การตัดสินใจหยุุดลมหายใจ  เป็นสิ่งที่อดีตพระเอกคนดัง  เลือกที่จะทำหรือไม่  เนื่องจากถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี  2560  ตั้ว ศรัณยู  ได้สูญเสียคุณแม่“จำลอง วงษ์กระจ่าง” ด้วยโรคชราภาพที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน  2560  ซึ่งเป็นวันดียวกับที่ ตั้ว ศรัณยู  เสียชีวิตด้วยอาการสงบ ที่รพ.จุฬาฯ และวันนี้ร่างของอดีตพระเอก ผู้กำกับมากความสามารถ  อย่าง ตั้ว ศรัณยู  ก็ได้นำมาตั้งสวดอภิธรรมที่วัดนาคปรก ภาษีเจริญ เช่นเดียวกัน