- 28 มิ.ย. 2563
กลายเป็นประเด็นที่ให้แฟนคลับและชาวโซเชียลได้พูดถึงอีกครั้ง สำหรับ "นกน้อย อุไรพร" นักร้องหมอลำชื่อดัง ตำนานหมอลำเสียงอีสาน ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยออกมาไลฟ์สด ร่ำไห้ช่วงไวรัสระบาดหนัก บอกว่า ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถกลับบ้าน เพราะต้องเลิกทำงาน ไม่มีงานคอนเสิร์ต ออกร้องเพลง จนถูกคอมเมนต์โจมตีมากมาย แต่เจ้าตัวยืนยันว่า ที่เจอวิกฤตหนัก เพราะไหนจะรับผิดชอบชีวิตในวงเสียงอีสานถึง 400 - 500 ชีวิต มีค่าอาหารตกมื้อละ 30,000 บาท ด้วย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้เงินทองมากมาย แล้วเงินไปไหนหมด
กลายเป็นประเด็นที่ให้แฟนคลับและชาวโซเชียลได้พูดถึงอีกครั้ง สำหรับ "นกน้อย อุไรพร" นักร้องหมอลำชื่อดัง ตำนานหมอลำเสียงอีสาน ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยออกมาไลฟ์สด ร่ำไห้ช่วงไวรัสระบาดหนัก บอกว่า ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถกลับบ้าน เพราะต้องเลิกทำงาน ไม่มีงานคอนเสิร์ต ออกร้องเพลง จนถูกคอมเมนต์โจมตีมากมาย แต่เจ้าตัวยืนยันว่า ที่เจอวิกฤตหนัก เพราะไหนจะรับผิดชอบชีวิตในวงเสียงอีสานถึง 400 - 500 ชีวิต มีค่าอาหารตกมื้อละ 30,000 บาท ด้วย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้เงินทองมากมาย แล้วเงินไปไหนหมด
ล่าสุด แม่นกน้อย หรือ นกน้อย อุไรพร ได้ออกมาเปิดเผยเล่าถึงชีวิตช่วงโควิด พร้อมทั้งเรื่องการยุบวงหรือไม่ ผ่านทางรายการ "คุยแซ่บ SHOW" ทาง ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
เมื่อถามถึงคลิปไลฟ์สดร้องไห้ไม่มีค่าน้ำมันรถ?
แม่นกน้อย : ก่อนจะมีคลิปวันนั้นเราฟังข่าวกับการเข้มงวดของโควิด เราไม่ได้คิดว่าจะร้ายแรงว่าทุกอย่างจะต้องหยุดหมด แต่เราทำใจไว้ว่าพรุ่งนี้ มะรืนจะรอฟัง ตอนนั้นเราอยู่ที่อุดรฯ ยังไม่ได้กลับ มีรถทีมงานทั้งหมด 27 คัน ค่าน้ำมันแสนอัป ทีมงานที่อยู่กับเรา 4-5 ร้อยชีวิต ฟังข่าวประกาศปิดก็ช็อก นั่งรับโทรศัพท์มียกเลิกงานอย่างเดียว วันนั้นแม่ไลฟ์สดพูดไปเรื่อยๆ นั่งกินกาแฟขนมปังพูดไปเรื่อย ๆ
ผู้บริหารขนมปังเห็นเขาก็บอกจะให้ค่าน้ำมันแม่ 200,000 บาท น้ำตาแห่งความตื้นตันมันก็พรั่งพรู แฟนคลับคนนี้โอนมา 5,000 คนนี้ 100 นึง 50 บาท 20 บาท หลายกระแสก็มาตบแม่ว่าร้องไห้ขอความเห็นใจ ความสงสาร มันเป็นความตื้นตันปีติมากกว่า
3 เดือนที่ต้องกักตัว หยุดงาน สูญเสียรายได้มหาศาล และน่าจะร้ายกว่านั้น ในองค์กรของแม่ที่รับผิดชอบมันเป็นของครอบครัว ที่ทุกคนทำงาน บางคนก็ว่าเราเดือดร้อนคนเดียวหรือยังไง ในเวลานั้นเราไม่คิดว่ามันจะยาวนานขนาดนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้หลายคนคงรู้แล้วว่ามันมีผลกระทบกันหมดทุกคน เราคุยกับลูก ๆ ที่อยู่ในวงกับแม่ วงอยู่มา 45 ปี เข้าสู่ปีที่ 46 เป็นการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นก็เยอะ ตายคาวงก็เยอะ ในความผูกพันก็มาเปิดใจคุยกัน ใครพร้อมที่จะอยู่กับแม่ก็อยู่ แม่ก็ไม่มีรายได้ แม่ก็ตกงาน ลูกๆ ก็ตกงาน อยู่เราก็ดูแลมีข้าวอาหารเลี้ยง แต่ที่บ้านมีโรงงานชุด บูรณะเวที ครบวงจร ถ้าใครยังอยู่แม่ไม่มีเงินเดือนจ่าย วันนึงจ่ายค่าอาหารลูก ๆ ทั้งหมด มื้อละ 30,000 บาท จากนั้นก็เปลี่ยนชีวิต มาไลฟ์สดขายน้ำปลาร้า พอช่วยได้บ้าง
เมื่อถามว่าทำวงมา 45 ปี ครั้งนี้หนักที่สุด ?
แม่นกน้อย : หนักที่สุดค่ะ กับคำว่าล้มลุกคลุกคลาน ปัญหาน้ำท่วม อุทกภัยอะไรต่าง ๆ เราก็มีพื้นที่ให้ได้ไปแสดง คอนเสิร์ตแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมก็มีให้เราได้ไปแสดงที่เมืองนอกในประเทศต่าง ๆ แต่ครั้งนี้ปิดทุกประเทศ
เคยคิดยุบวงไหม?
แม่นกน้อย : คำถามกับปัญหาแม่มาบวกลบคูณหารกับแม่ตลอด ในความยุบวงกับความพร้อมหนักหนาสาหัส แม่บอกว่าเราเริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยมาจากศูนย์ แต่ตอนนี้เรามีมากจนนับไม่ถ้วนว่ามีเท่าไร ท่านขอร้องว่าให้ยุบวงเราพอแล้ว อย่าเลือกรับภาระอย่าแบก ตอนนี้เอาตัวรอดได้ แต่ตำนานวัฒนธรรมของคนอีสานคือหมอลำ งานปั้นดินให้เป็นดาวนักร้องที่มีชื่อเสียงมันท้าทาย เราคิดแล้วว่ายุบวงง่ายแค่วินาที แต่ในชีวิตผู้หญิงที่สร้างตำนานเราจะไม่ยุบวง ยุบวงไม่ได้เจออะไรก็แล้วแต่ ลูกพร้อมที่จะก้าวผ่าน
มีหนี้ก้อนโต?
แม่นกน้อย : โตมากค่ะ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงงาน ค่าของงานอยู่ที่ผลของเงินของธุรกิจ เราเห็นงานอยู่ข้างหน้าเรากล้าที่จะลงทุน กล้าที่จะยืมแต่ตอนนี้เรามีผลงาน แต่เราไม่มีที่ให้ไปแสดงผลงาน หนี้ก็เพิ่มพูนทั้งนอกระบบและในระบบ ถามว่าเท่าไร จำไม่ได้ เกิน 20 ล้าน
ขอบคุณรายการ : คุยแซ่บ SHOW