เปิดคำสัญญาสุดท้าย นาธาน โอมาน ที่ให้ไว้กับคนใกล้ชิด ก่อนหมดลมหายใจ จากโลกนี้ไปท้ังน้ำตา

เป็นดาราจอมลวงโลกระดับตำนานอย่างแท้จริง  สำหรับ "นาธาน โอร์มาน" หรือในบางครั้งอาจเขียนว่า "นาธาน โอมาน" เป็นนักร้อง นักแสดงชาวไทย มีผลงานอัลบั้มเพลงกับค่ายอาร์เอส 2 ชุดคือ "Nathan" และ "สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ"

 

 

โดย "นาธาน โอมาน " ถือว่าพัฒนาการของกระแสข่าวออกมาเป็นระลอก จนถึงขั้นมีข่าวศาลสั่งจำคุก ด้วยปมเหตุฉ้อโกงทางธุรกิจ หลายๆคน จึงเริ่มตาสว่าง แต่การได้เข้าไปอยู่ในคุกของ "นาธาน" ก็ไม่วายมีข่าวหลุด แฉยับเรื่องเซ็กซ์ในคุก และเรื่องเป็นเกย์ และอีกหลายเรื่องราวพฤติกรรมลวงโลกที่ฟังแล้วก็สุดจะทน

 

 

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2554 ศาลจังหวัดเลยได้ตัดสินให้นาธาน จำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่เจ้าตัวรับสารภาพ จึงลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 1 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้เงินน้ามดทั้งหมด ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2553

 

 

หลังจาก "นาธาน" ได้พ้นคุกไปใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าว่า "เลิกพฤติกรรมโกหกทั้งหมดแล้วตอนนี้ก็มีชีวิตสุขสบายดี มีกิน มีอาชีพประจำเป็นเลขา ทำงานอยู่ที่นิคมสมุทรสาคร ได้เงินเดือนเกือบแสน ส่วนเรื่องความรักกับแฟนหนุ่มที่คบมาถึง 8 ปี ตอนนี้ก็ยังคบอยู่ แต่ไม่อยากจะออกสื่อมากนัก

 

ต่อมากลายเป็นข่าวเศร้า เมื่อมีข่าวด่วนออกมาว่า นาธาน โอร์มาน เสียชีวิตในวัย 45 ปี เวลา 09.35 น. ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หลังเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคโลหิตจาง ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด และจะมีการเคลื่อนร่างของ นาธาน โอมาน ไปทำพิธีตามหลักศาสนาอิสลามที่มัสยิดในเขตทุ่งครุ กรุงเทพ 

 

 

 

 

ล่าสุด ดร.ไพบูลย์ บุตรเลียบ หัวหน้าและรุ่นพี่คนสนิท ได้ออกมาเปิดใจว่า “ เราทราบอาการป่วยมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว คือก่อนหน้านี้เขาก็ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลรามคำแหง แต่ด้วยความที่มันเป็นช่วง โควิด-19 พอดี จึงยังทำให้ไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเขาเป็นโรคอะไร และตอนนั้นก็ได้ทำการตรวจอาการ โควิด-19 ตามปกติ แต่ก็ไม่ได้พบเชื้อ ซึ่งทางโรงพยาบาลเขาก็แจ้งมาว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ จากนั้นนาธานเขาก็กลับมาที่พักที่จังหวัดสมุทรสาคร พอเขากลับมาได้สักประมาณ 1 เดือน เขาก็เริ่มมีอาการเหมือนเดิมอีกครั้ง และช่วงนั้นมันค่อนข้างเดินทางลำบากเนื่องจากติดสถานการณ์ โควิด-19 ผมก็เลยต้องพาเขาไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ซึ่งหลังจากเข้าไปทำการรักษา เขาก็มีอาการคล้ายๆ กับไข้หวัดใหญ่ จนกระทั่งคุณหมอแจ้งว่าเขาเป็นโรคโลหิตจาง และให้ทานอาหารเยอะๆ จนถึงช่วงหลังนี่แหละที่เขารับประทานอาหารไม่ค่อยได้ ทานได้แค่อย่างละนิดอย่างละหน่อย"

 

 

“เขาเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่เขาไปตรวจตามปกติเขาก็โทรมาหาผมว่าเขาต้องนอนโรงพยาบาล วันนั้นผมก็แจ้งให้คนไปช่วยดูแลเขา แล้วเมื่อคืนนี้เขาส่งข้อความมาหาผมบอกว่าเขาเหนื่อยเจ้าหน้าที่ที่ไปเฝ้าเขาก็เล่าให้ผมฟังว่านาธานเขานอนร้องไห้ พอมาถึงช่วงเช้าวันนี้ทางทีมแพทย์ก็โทรมาหาผมบอกว่าให้ช่วยติดต่อญาติของนาธานให้เพราะอาจจะต้องมีการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องสำคัญ สุดท้ายนาธานเขาก็จากไปตอน09.35 นาที ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด”

 

 

“ส่วนคุณแม่นาธานเดินทางมาไม่ทันร่วมพิธี เนื่องจากว่าคุณแม่ท่านอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ท่านก็เสียใจเพราะนาธานก็เป็นลูก ช่วงป่วยเขาก็มีพูดคุยกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาบอกผมว่า เวรกรรมตามเขามาแล้ว อันนี้เป็นข้อความที่เขาพูดไว้ก่อนที่เราจะทราบว่าเขาป่วยนะ เขาบอกผมว่า เวรกรรมตามเขาทันแล้ว”

 

 

“วันนั้นผมก็ถามเขาปกติเลยว่าเรื่องอะไรจากนั้นเขาก็ร้องไห้ คือวันนั้นผมก็ทำได้แค่บอกให้เขากลับไปนอนและก็บอกว่าไม่มีอะไรหรอก นับจากวันนี้ก็ทำความดีซะ ทำทุกอย่างที่มันเป็นเรื่องดีๆ ซึ่งมันก็เหมือนมีลางบอกเหตุอีกเพราะอยู่ดีๆ เขาก็เข้ามาและก็บอกผมว่าถ้าเขาไม่อยู่แล้วก็ขออโหสิกรรมให้กับคนนี้คนนั้นด้วย ตอนนั้นผมไม่แน่ใจเลยจริงๆ ว่ามันคืออะไร แต่อันนี้เขาพูดมานานมากแล้วนะ นานมาก พูดก่อนที่จะมาถึงวันนี้อีก น่าจะเกิน 90 วันแล้วด้วย”

 

 

“วันนี้นาธานเขาไปสบายแล้วผมก็อยากบอกว่าเขาเป็นคนน่าสงสาร คือที่ผ่านมาก็มีผู้ใหญ่หลายคนเหมือนกันที่บอกกับผมว่า เลี้ยงเขาได้ยังไง แต่ผมก็ยึดมั่นมาตลอด ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในโลกนี้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ไม่มีใครอยากโดนด่าหรอก ผมเห็นใจเขานะที่เขาต้องแบกรับภาระเยอะมาก ภาระทางความรู้สึกเพราะคงไม่มีใครหรอกที่ขาวสะอาดไปทั้งหมด ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง ก็ถือว่าเขาหมดเวรหมดกรรมแล้ว”

 

 

ทั้งนี้ทางด้าน “คุณแม่นาธาน” ได้เปิดใจว่า ตอนนี้กำลังเดินทางมาหาลูกชาย ตอนที่ทราบข่าวเสียใจมาก นาธานบอกแม่แค่ว่าให้แม่มาหา ไม่ได้มีการสั่งเสีย ตนรับรู้เรื่องลูกชายป่วยตลอด ได้คุยล่าสุดก่อนเข้าโรงพยาบาล ที่ผ่านมาลูกชายส่งเสียเลี้ยงดูบ้าง วันนี้ลูกไปสบายแล้ว ขอให้ลูกชายไปสู่ภพภูมิให้ ไม่ต้องเป็นห่วงแม่

 

 

นอกจากนี้ ดร.ไพบูลย์ บุตรเลียบ หัวหน้าของนาธาน ในฐานะที่ตนเป็นคนใกล้ชิดนาธาน และอยู่เคียงข้างนาธานมาตลอด นับตั้งแต่ที่นาธานยังมีข่าวฉาวรายวัน จนถึงตอนนี้ ตนกล้ารับปากว่า นาธานได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้ว

 

 

ทั้งนี้ คุณไพบูลย์ บอกว่า ตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ตนได้กล่อมเกลาคน ๆ หนึ่ง ไม่ให้เขาไปทำร้ายคนในสังคม แม้จะทำให้ตนต้องเสียทรัพยากรมาก จนกระทั่ง 3 ปีที่ผ่านมา นาธานได้เปลี่ยนไปจริง ๆ และเข้ามาบอกกับตนว่า

 

 

“เจ้านายครับ ต่อไปนี้ นาธานจะเป็นคนดี และขออยู่กับพี่จนตายได้ไหมครับ ตนไม่คิดว่า คำพูดนี้จะเป็นจริง ดังนั้น วันนี้ขอให้คนไทยทั้งประเทศอโหสิกรรมให้นาธาน โอมาน ที่ทุกคนไม่เคยเชื่อว่า จะเป็นคนดีได้ แต่วันนี้เป็นคนดีแล้ว และเขาก็จากไปแล้ว หลับให้สบายนะน้องรัก”