เผยโฉมหน้าเด็กชาย ที่ นิ้ง กุลสตรี รักและดูแลเหมือนลูกแท้ๆ

หลายคนคงจำได้ดี สำหรับ นิ้ง กุลสตรี อินทรศักดิ์ ที่เริ่มเข้าสู่วงการจากการประกวด​ มิสไทยแลนด์เวิร์ด ประจำปีพ.ศ.​ 2535 แต่ไม่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ​ ในขณะนั้นเธอใช้ชื่อในการประกวดว่า​ "กีรติ​ เศรษฐกุลศิริ"  หลังจากผ่านการประกวดไปได้​ 2​ ปี​ เธอได้เปิดตัวในฐานนักแสดงภายใต้สังกัด​ อาร์เอส​ โปรโมชั่น และได้ใช้ชื่อ​ "กุลสตรี​ ศิริพงษ์ปรีดา" จนถึงปัจจุบัน

โดยก่อนหน้านี้ “นิ้ง กุลสตรี ” ที่หันหลังให้วงการบันเทิงไปทำงานเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินดัง ต้องเผชิญกับอาการป่วย “โรคไขกระดูกบกพร่อง” ไม่สามารถสร้างเกล็ดเลือดด้วยตัวเอง ส่งผลทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และเคยโพสต์ข้อความว่า “ฉันเคย.. ไม่สบายหนัก จน เฉียดความตาย ใน ICU เกือบ 3 อาทิตย์” ไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

และเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา นิ้ง กุลสตรี ก็ได้โพสต์รูปตัวเองนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับมีสายให้ยาระโยงระยางมากมาย และรูปที่เผยให้เห็นว่าสาวนิ้งนั้นดูผอมมาก ซึ่งก็มีแฟนๆ ส่งกำลังใจให้กับสาวนิ้งให้หายป่วยในเร็ววันอย่างล้นหลาม

จากนั้นล่าสุด “นิ้ง กุลสตรี” ได้โพสต์ข้อความผ่านIG ส่วนตัวโดยได้ระบุอาการที่เกิดขึ้นในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาโดยเจ้าตัวได้เผยว่า “ฉลองครบรอบ 1 ปี (11/7/63) นิ้งถ่ายเป็นเลือดอีกแล้ว ตั้งแต่สี่ทุ่มเมื่อคืน ค่าเลือดตกเร็วมากหลังจากเช็คค่าความเข้มข้นของเลือด วันนี้นิ้งจะได้รับเลือดแดง 2 ถุง และ plasma 2 ถุงค่ะ เริ่มจะเบื่อ เริ่มจะท้อ เริ่มจะไม่ไหวแล้วค่ะ เมื่อวานนิ้งก็ดมยาสลบเพื่อขยายทางเดินอาหาร รู้สึกดีมากที่ทานอาหารได้สบายขึ้น แต่ตอนนี้ยังต้องทานเป็นอาหารอ่อนค่ะ 

** ส่วนมากเป็นแค่โรคแทรกซ้อน ส่วนโรคไขกระดูกบกพร่องไม่สร้างเกล็ดเลือด การรักษาเรียบร้อยดี และ คุมอยู่ค่ะ โดยการทานยาคีโม (เคมีบำบัด) วันละ 2 เม็ดทุกวันค่ะ** #นิ้งขอขอบพระคุณอาจารย์หมอทุกท่านมากนะคะ #นิ้งขอขอบพระคุณทุกท่านที่บริจาคเลือดนะคะ #นิ้งขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพ / ใส่หน้ากาก / ล้างมือบ่อยๆ / พกเจลแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค / เว้นระยะห่างกันและกันนะคะ #รักรักกอดแน่นๆทุกคนค่ะ”

ทั้งนี้หลายคนไม่ทราบถึงสาเหตุทำไมสาวนิ้งไม่มีลูกซักที แต่เจ้าตัวก็เลี้ยงหลานชาย น้องฟิจิ เหมือนลูกชายแท้ๆ โดยเจ้าตัวได้เคยกล่าวว่า "นิ้งห่างจากวงการบันเทิงไปประมาณ 12 ปีแล้ว ตอนแรกก็มีงานติดต่อมาบ้าง มีสัมภาษณ์ออกรายการนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้ว เพราะเขาคงรู้ว่านิ้งขอพักงานด้านนี้เลย อยากโฟกัสงานบนเครื่องบินอย่างเดียวเรียกว่าลาวงการแล้ว แต่ไม่ใช่ว่านิ้งรวยหรือหยิ่งอะไรนะคะ แต่การเป็นแฮร์โฮสเตสมันไม่ใช่แค่เราสอบได้แล้วไปบินหรือเดินสวยๆในแต่ละวัน เราต้องทำหน้าที่ดูแลผู้โดยสารให้ดีที่สุด ซึ่งในใจลึก ๆ นิ้งก็ยังคิดถึงงานในวงการมาก 

แต่ต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้ดีที่สุดก่อนค่ะ ส่วนความรักของนิ้งก็ดีมากครบรอบ 10 ปีมาแล้วจะเข้าปีที่ 11 เรียบง่ายไม่หวือหวา มีความสุขในทุกวัน ต่างคนต่างทำงานแล้วกลับมาเจอกันก็แฮปปี้ดี เราอยากมีลูกมาก ทุกครั้งที่ถามก็จะร้องไห้ทุกทีเพราะไปทำมาทุกอย่างแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ  คงไม่มีโอกาสแล้วค่ะ ช่วงนั้นบริษัทดีมากให้โอกาสนิ้งพักไปทำน้องแต่ก็ไม่ติด ทำอยู่หลายรอบ จนตอนนี้หยุดแล้ว เพราะเรารู้สึกว่าเราเครียดเกินไป สามีนิ้งเลยพูดมาคำหนึ่งว่าเราควรจะจับมือกันและอยู่ด้วยกันเพราะตอนแก่ถึงเรามีลูก เราก็ไม่รู้ว่าลูกจะเลี้ยงเรารึเปล่า เอาเป็นว่าเราดูแลกันและกันก็พอเลยหันมาเลี้ยงหลานแทนค่ะ"