- 19 ก.ค. 2563
ก่อนหน้านี้ก็เป็นประเด็นดราม่าเมื่อ สาวเจ็ง วิไลลักษณ์ ทองเจือ ภรรยาของพระเอกอมตะอย่าง พีท ทองเจือ หลังออกมาโพสต์หลังลูกสาวคนโต น้องเซย่า มีปัญหา เเต่ช่วยเหลือไม่ได้
ก่อนหน้านี้ก็เป็นประเด็นดราม่าเมื่อ สาวเจ็ง วิไลลักษณ์ ทองเจือ ภรรยาของพระเอกอมตะอย่าง พีท ทองเจือ หลังออกมาโพสต์หลังลูกสาวคนโต น้องเซย่า มีปัญหา เเต่ช่วยเหลือไม่ได้
จนกระทั่งออกมายอมรับว่า น้องเซย่า ป่วยเป็นไทรอยด์ ผมร่วง น้ำหนักขึ้นพุ่งพรวด ประจำเดือนไม่มา มีหลายอย่างในร่างกายที่ผิดปกติ
ล่าสุดได้เจอตัวคุณพ่อพีทที่มาพร้อมลูกสาวอีกคน "น้องมิย่า พิชชา ทองเจือ" เจ้าตัวก็เผยว่าตอนนี้รักษา 4 เดือน ดีขึ้น 15-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่ให้ทานยาแผนปัจจุบัน หวั่นจะหนักเกินไป
พีท : “ตอนนี้คุณหมอก็กำลังดูเรื่องสุขภาพอยู่ จริงๆ ถ้าเห็นว่าน้องแข็งแรงปกติ เพียงแต่ว่าเวลาตรวจค่าต่างๆ ในร่างกายมันยังไม่ค่อยโอเค ตอนแรกก็มีปัญหาเรื่องผมร่วง น้ำหนักขึ้น ซึ่งตอนนี้น้ำหนักขึ้นมาประมาณ 14 กิโลกรัม คุณหมอบอกว่าอาการของน้องจะเรียกว่าโรคฮาชิโมโตหรือว่าเป็นไทรอยด์ต่ำ แล้วค่าเม็ดเลือดขาวก็ต่ำ ซึ่งค่าทุกอย่างตอนนี้มันไม่ค่อยโอเค
ถามว่าใช้ชีวิตปกติได้ไม่มีปัญหาใช่ไหม ใช่ แต่ว่าในระยะยาวสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือถ้ายังปล่อยแบบนี้โดยที่ไม่ดูแลรักษาจริงจัง หัวใจจะทำงานหนักกว่าปกติ อาจจะนำมาในเรื่องของโรคหัวใจได้ในอนาคต ซึ่งเด็กอายุ 14-15 ไม่น่าจะต้องเจอเรื่องแบบนี้เนอะ แล้วที่สำคัญคือที่บ้านเราไม่ให้ทานยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาวิทยาศาสตร์ เพราะรู้สึกว่าเด็กอายุน้อยๆ ไม่ควรจะทานยา เดี๋ยวมันจะไปกดประสาทหรือไปทำอะไร ควรจะรักษาด้วยวิถีธรรมชาติมากกว่า ถ้าตรวจแล้วว่าร่างกายขาดวิตามินอะไรก็เติมให้มันเต็ม และใช้ชีวิตที่มันค่อนข้างธรรมชาติมากที่สุด”
ดีขึ้น 15-20 เปอร์เซ็นต์
พีท : “ผมให้แค่ 15-20 เปอร์เซ็นต์เองครับ ถามว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร จริงๆ แล้วก็รวมๆ กัน ทั้งเรื่องของอาหารการกินและการออกกำลังกายที่มันไม่แมตช์กัน”
เซย่าไม่กังวลแล้ว
พีท : “ไม่มีครับ ช่วงนี้ก็มาทำขนม สนุกกับการทำขนม แล้วก็อ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบอะไรต่างๆ แต่น้องเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้วเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ทุกวันนี้ก็ต้องดูชีวิตประจำวันของน้องมากขึ้น ช่วงที่ติดโควิด-19 คุณแม่กับคุณลูกทุกอย่างที่ทานก็จะเป็นเฮลท์ตี้หมด บ้านเราไม่ได้ทานอาหารคลีนนะครับ แต่จะดูเรื่องน้ำมันที่ใช้ทอดอะไรต่างๆ ให้เป็นสิ่งที่ดีหมด ทำให้ร่างกายขับสิ่งที่ไม่จำเป็นออก
ตอนนี้โฟกัสแค่เรื่องสุขภาพของน้องก่อน ยังไม่ได้คิดเรื่องอื่น แล้วอย่างที่บอกว่าอันนี้ 4 เดือนกว่าไปตรวจแล้วค่าต่างๆ ก็ยังไม่ดีขึ้นมาเท่าไหร่”
ไม่นอยด์ไม่ได้ทำสิ่งที่ฝัน ต้องโฟกัสเรื่องสุขภาพก่อน
พีท : “ถามว่าน้องนอยด์ไหมที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ตอนนี้มันไม่ใช่จุดๆ นั้นแล้ว ตอนนี้ทุกคนหันมามองที่จุดเดียวกันคือเรื่องของสุขภาพ อย่างคุณหมอบอกว่าด้วยค่าต่างๆ ของร่างกายที่มันไม่ค่อยโอเค ถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่างที่เราได้เล่าให้ฟังเช่นโรคหัวใจมันอาจจะตามมา แล้วด้วยค่าต่างๆ ที่คุณหมอได้ตรวจน้องอาจจะวูบเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งถ้าวูบแล้วเราไม่ได้อยู่ด้วยมันไม่โอเค อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในสายตาเราก่อน น้องอายุยังน้อยอยู่ คือที่บ้านเริ่มอะไรเร็วนิดหนึ่ง เร็วไม่ได้หมายความว่าดีนะ กลายเป็นว่าตกมาอยู่ที่พ่อแม่ที่ต้องกระตือรือร้น แทนที่จะนั่งชิลๆ ไปทำงาน ลูกก็ไปเรียนตามปกติ นี่กลายเป็นว่าทุกอย่างต้องเร็ว คิดเร็ว ทำเร็ว แก้ปัญหาเร็ว”
ไม่มองว่าเสียโอกาสลูก
พีท : “ไม่ครับ อย่างมิย่าที่ทำเพลงออกมาตอนนี้ ณ ปัจจุบันก็ยังมีค่ายเพลงใหญ่มาขอตัวน้องทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเราขึ้นมาอยู่ในฐานะค่ายเล็กๆ แล้ว แต่ก็ยังให้โอกาสอยากได้น้องเข้าไปร่วมโปรเจกต์”
มิย่าให้กำลังใจเซย่าพี่สาว
มิย่า : “หนูก็จะช่วยปรับใจพี่เขาบ้างค่ะ สมมติถ้าพี่เขาเครียด หนูก็จะชวนไปทำขนมดีกว่า แล้วพี่เขาก็เริ่มคิดแล้วว่าแบบหรือว่าจะไปเป็นหมอดี พี่เขาก็เริ่มคิดอะไรที่กว้างขึ้น”
พีท : “โชคดีที่เซย่าเป็นคนเรียนหนังสือดี เกรดแบบเกือบ 4 หมด ด้วยความมีวินัยและความคิดของเขาต่างๆ นานา คือผมไม่สามารถบังคับให้เขาคิดหรือพูดอะไรได้เลย เขาจะคิดแล้วตัดสินใจเอาเอง เราก็แค่คอยดันหลังและเดินตามเขา ถ้าเขาจะล้มเราก็ดันหลังเอาไว้เท่านั้นเอง หรือว่าถ้าเขาล้มจริงๆ ก็อย่างที่บอกว่านั่งร้องไห้ไม่ได้ต้องรีบลุกและรีบเดินต่อ”