- 01 ส.ค. 2563
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มากความสามารถ สำหรับนักร้องดังแดนสะตอ อย่าง เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ที่มีผลงานเพลงฮิตติดหู จนคนร้องไห้ทั้งบ้านทั้งเมือง อาทิเช่น ได้หมดถ้าสดชื่น คิดถึงคนไกล เเละต่อมาถึงกับเป็นจุดพลิกชีวิต เมื่อ สาวเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ทำเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ขึ้นมาให้ น้องสาว ลิลลี่ น้องสาวได้ถ่ายทอด ซึ่งเพลงดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างสูงจนมียอดวิว 349 ล้านวิว
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มากความสามารถ สำหรับนักร้องดังแดนสะตอ อย่าง เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ที่มีผลงานเพลงฮิตติดหู จนคนร้องไห้ทั้งบ้านทั้งเมือง อาทิเช่น ได้หมดถ้าสดชื่น คิดถึงคนไกล เเละต่อมาถึงกับเป็นจุดพลิกชีวิต เมื่อ สาวเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ทำเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ขึ้นมาให้ น้องสาว ลิลลี่ น้องสาวได้ถ่ายทอด ซึ่งเพลงดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างสูงจนมียอดวิว 349 ล้านวิว
และมีประเด็นดราม่าให้พูดถึงไม่รู้จบ สำหรับ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หลังจากเพิ่งจะออกมาชี้แจงเรื่องดราม่าคอนเสิร์ตที่ จ.กระบี่ และ จ.นครศรีธรรมราช ที่เกิดประเด็นร้อนไม่มีการเว้นระยะห่างและใส่หน้ากากอนามัย แถมยังมีการเช็ดเหงื่อให้นักร้อง และโยนแจกให้แฟนๆ จนหลายคนมองว่าไม่มีมาตรการป้องกันโควิด-19
จากนั้นไม่นานก็มีงานเข้า จนกลายเป็นเรื่องราวบานปลาย หลังมีเพจ ตลาดล่างอัพเกรด โพสต์ข้อความถึงค่ายเพลงดังกับเพลงที่เคยเป็น Viral บนโลกอินเทอร์เน็ต ว่ามีการเบี้ยวค่าตัว โดยเจ้าของเพลงตกลงกับนักร้องร่วมซิงเกิลว่าจะอัปคลิปลงยูทูบและแบ่งผลประโยชน์ 70% / 30% แต่พอเพลงดังเป็นพลุแตก กลับไม่แบ่งผลประโยชน์ตามที่ตกลงกันไว้
งานนี้ร้อนถึง เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ต้องออกโรงชี้แจงผ่านทางเพจส่วนตัว พร้อมทั้งโพสต์หลักฐานแชตสนทนาที่คาดว่าจะเป็น เก้า เกริกพล นักร้องหนุ่มรุ่นน้องที่เคยร่วมงานกันในเพลง "เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว" ผ่านทาง Messenger ซึ่งมีหลักฐานการโอนเงินเพิ่มให้และบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการชวนมาออกงานด้วยกัน และเขียนข้อความว่า
"ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ไม่เคยโกงค่าตัวใครนะคะ อีกอย่างค่ายก็เคยชวนน้องมาเป็นศิลปินในค่าย แต่ตอนนั้นน้องได้ปฏิเสธไป ทางเราก็ไม่ว่าอะไรเพราะมันเป็นสิทธิของน้อง แต่ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่คุณพ่อของน้อง โทรมาขอแบ่งยอดวิว 30% จากรายได้ด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตกใจมากที่คุณพ่อของน้องพูดจาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งทางค่ายตอบไปว่าให้ไม่ได้เพราะไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรกแต่ถึงแม้ว่าทางค่ายไม่แบ่งค่ายอดวิวให้น้องก็จริง ตอนเพลงดังใหม่ๆก็เคยโอนเงินไปให้เพิ่ม 20,000 บาท แต่ทางน้องไม่สบายใจที่จะรับและโอนคืนมาโดยที่น้องไปหาเลขบัญชีมาจากไหนก็ไม่รู้ เราไม่เคยนิ่งเฉยกับน้องเพราะน้องเป็นเด็กน่ารัก ทุกวันนี้ยังเสียดายที่น้องไม่ได้อยู่ในค่าย มีงานรีวิวเข้ามาเราเคยขายงานน้องให้โดยไม่หักค่านายหน้าเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท มีงานคอนเสิร์ตเข้าก็ขายงานให้น้องตลอด
แต่เนื่องจากน้องอยู่กทม. เจ้าภาพจึงสู้ราคาไม่ได้ เพราะต้องมีค่าเดินทางเพิ่ม เราจึงไม่ได้ออกงานคู่กันเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่มีผู้ใหญ่ฝั่งน้องโทรไปให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับเพจตลาดล่าง แทนที่จะมาพูดกับทางเราตรงๆ เพราะตอนเกิดปัญหาใหม่ๆทางเราเคยโทรไปเพื่อจะเจรจาแล้วแต่ทางฝั่งน้องไม่รับสาย และไม่โทรกลับอีกเลย ติดต่องานไปช่วงหลังๆน้องก็ไม่ค่อยตอบ จนกระทั่งน้องลบเพื่อนในเฟสบุ๊คไป เราก็ไม่ติดต่อกันอีกเลย จนถึงวันนี้วันที่ค่ายเราประสบปัญหามากมาย ทางผู้ใหญ่ของน้องเลือกที่จะใช้เพจตลาดล่าง เพจที่โจมตีเรามาตลอด ในการเป็นสื่อเพื่อออกมาให้การเท็จ เพราะผู้ใหญ่ฝั่งน้องรู้ดีถ้าเล่นทางเพจนั้นจะมีคนเข้าข้างอย่างแน่นอน ทำไมพวกท่านไม่มาคุยกันตรงๆ ทำไมใช้วิธีแบบนี้ เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมาเราให้เกียติน้องทุกครั้งที่เจอน้องมาโดยตลอด ทำไมพวกท่านเลือกใช้ช่วงเวลาที่เรากำลังอ่อนแอ เลือกเพจที่จ้องแต่จะทำร้ายเราในการเป็นสื่อกลาง ตอนแรกอยากนิ่งเฉยเพราะเราเหนื่อยมากพอแล้วกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้พวกคุณกำลังใส่ร้ายเรา เราจึงขออนุญาตออกมาปกป้องตัวเอง
ส่วนดราม่าอื่นๆปล่อยให้เป็นไปตามกระแส คำตัดสินจะออกมายังไงค่อยว่ากัน เราทำดีที่สุดแล้ว ผิดก็ว่าไปตามผิด เราพร้อมแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดอย่างแน่นอน"
ต่อมาทางด้านนักรองหนุ่ม เก้า เกริกพล วัย 17 ปี ถึงกับไม่ขออยู่นิ่ง ไลฟ์สดแจงเรื่องราวปมดราม่าค่าตัวหลังไปร่วมฟีเจอร์ริ่งกับ นักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น งัดหลักฐานโต้กลับ หลังถูกแฉเบี้ยวค่าตัวนักร้องหนุ่ม โดยเก้าได้บอกว่าหลังจากมีประเด็นเรื่องนี้สิ่งที่ไม่ชอบมากที่สุดก็คือเรื่องของพ่อที่โดนโจมตีอยู่ในตอนนี้ จากการที่เจนนี่พูดถึงพ่อ ซึ่งตนอยากจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตอนนี้พ่อโดนคนด่าหยาบคายและก็ลามไปถึงตระกูลกันเลยทีเดียวทั้งที่ไม่รู้เรื่องจริง
ก่อนจะย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นในการร่วมงานกันว่า พี่เจนนี่ได้มาขอฟีเจอร์ริ่งด้วยกัน เขาขอมา 2 รอบแต่ผมไม่ได้ไป ทีนี้ได้ไปออกรายการนึงจนได้รู้จักและสนิทกันพอควรก็เลยตัดสินใจไปร่วมงานกันในครั้งนั้น และเงิน 10,000 บาทก็โอนมาให้จริง โดยพี่เขาบอกว่าให้ไว้กินขนมและค่าเดินทางไปอัดเสียง และไม่ใช่ค่าตัวของผม ยังทำงานไม่เสร็จพี่เขาโอนมาให้แล้ว ผมดีใจมากตอนนั้น ความที่ผมเชื่อพี่เขาและเห็นว่าเป็นพี่น้องกัน ผมไม่ได้เข้าใจว่าเขาจ่ายค่าตัวจ้างขาดแบบนั้น
"และที่ออกมาวันนี้เพราะผมเจ็บใจที่เอาเรื่องพ่อมาโพสต์และทำให้พ่อถูกด่า ซึ่งเรื่องผมกับพี่เจนนี่จบไปนานแล้ว ผมเงียบมานานแล้ว 1 ปี ทุกคนบอกว่าทำไมผมมาเรียกร้องตอนนี้ ผมไม่ได้เรียกร้องเงินเลย ผมจะเล่าความจริงให้ฟัง"
อย่างไรก็ตาม สาวเจนนี่ ได้ออกมาโพสต์เลื่อนวันแถลงข่าวให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 2 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00น. ซึ่งได้เชิญสื่อมวลชนทุกคนมาเพื่อชี้แจ้งทุกประเด็นที่เกิดขึ้นนั่นเอง
จากนั้นทางด้าน สาวเจนนี่ ก็ได้โพสต์ประกาศว่า เปา กิ่งกาญจน์ ได้ออกจากค่ายได้หมดถ้าสดชื่น พร้อมข้อความว่า "แถลงการณ์จากน้องเปานะคะ ขอยอมรับว่าเสียใจกับการตัดสินใจของน้องเปาในครั้งนี้ แต่สำหรับพี่ พี่เคารพการตัดสินใจของน้อง น้องคงมีเหตุผลของตัวเอง พี่ขออวยพรให้น้องประสบความสำเร็จในชีวิตตามที่น้องต้องการ และขอบคุณที่ครั้งนึงเคยมาเป็นครอบครัว DM ขอให้น้องโชคดีค่ะ"
ส่วนทางด้าน เปา กิ่งกาญจน์ ก็ได้ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊ค เปา กิ่งกาญจน์ ว่า ".........ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่เจนเเม่ใหญ่ (ครอบครัวได้หมดถ้าสดชื่น)ที่ให้โอกาสเด็กคนนี้
ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเเล้วทำให้คนรู้จักเปามากขึ้น ขอบคุณมิตรภาพจากพี่ๆน้องๆเเละเพื่อนๆ
ที่มีให้กันมาโดยตลอด เปามาโพสต์ๆนี้เพื่อมาชี้เเจงว่า เปาไม่ได้อยู่ในค่ายเเล้วนะคะเพราะเปาไม่ได้เซ็นสัญญา ไม่ได้มีดราม่าอะไรทั้งนั้นเเละไม่ได้เกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้นตอนนี้ที่เปาไม่เซ็นเพราะเปาคิดว่า สัญญา4ปีมันนานสำหรับเปา เเละเป็นการผูกมัดเปาเพราะเปายังมีอีกหลายอย่างที่อยากทำ อยากหาประสบการณ์ในด้านนี้เเละอย่างอื่นอีกหลายอย่าง(เรื่องเรียนด้วย)เปาเลยตัดสินใจที่จะไม่เซ็นซึ่งเปาได้คิดทบทวนดีเเล้วทุกคนจะมองว่าเปาเป็นคนยังไงก็ช่างเเต่เปามีเหตุผลของเปา เปาอยากใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป มีเงิน มีงานพอดูเเลตัวเองเเละครอบครัวไม่ได้ต้องการอะไรมากมายสำหรับจุดๆนี้เพราะอายุยังน้อย เเละยังอยากหาประสบการณ์ตามเวทีอีกเยอะ ความฝันที่คิดไว้ เพราะถ้าเซ็นทำอะไรต้องผ่านค่าย ต้องให้เกียรติซึ่งต้อนนี้คิดทบทวนดีเเล้วค่ะขอโทษเเละขอบคุณมากจริงๆรักเเละเคารพเสมอ #เเฟนคลับfcทุกคนถ้าใครไม่โอเครก็เลิกติดตามเปาได้ค่ะทุกคนมีเหตุผลของตัวเองเปาเข้าใจเหมือนที่เปามีเหตุผลของเปาตอนนี้ #ขอบคุณที่รักที่เปาเป็นเปา"
ทว่าแฮชแท็ก #เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น ติดเทรนด์อันดับหนึ่งบนทวิตเตอร์ มีชาวเน็ตมาออกแฉเรื่องค่ายเพลงของเจนนี่ เริ่มจากการที่คุณแม่ และเจนนี่ ยึดมือถือของเด็กในค่ายเพลง โดยอ้างว่าไม่ให้เด็กเล่นมือเพราะจะได้มีสติในการคิดเรื่องเรียน เรื่องเพลง อีกทั้งค่ายเพลงของสาวเจนนี่ยังห้ามไม่ให้เด็กมีแฟน ผู้หญิงต้องตัดผมสั้น ซึ่งบางคนลิดรอนสิทธิกันเกินไป
จากนั้นก็มีคนนำคลิปที่สาวเจนนี่ตอบคำถามแฟนๆ ว่า น้องๆ ในค่ายได้เงินเดือนกันเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ไม่มี เพราะช่วงนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี เพราะว่าคอนเสิร์ตไม่มีถ้าพี่เจนนี่ให้เงินเดือนทุกคนก็ตายกันพอดี เพราะตอนนี้อยู่ฟรี กินฟรีทุกอย่าง ถามว่าได้รายได้จากไหน ก็คือช่วยตนถ่ายรีวิวสินค้า ช่วยตนไลฟ์สด ถ่ายคลิปต่างๆ รวมถึงทางค่ายรับงานรีวิวสินค้าก็จะได้เงินไปเป็นของเขา และอีกช่องทางหนึ่งถ้าคอนเสิร์ตกลับมาเมื่อไหร่น้องๆ จะได้ค่าตัวคืนหนึ่งเฉลี่ย 3-4 พันบาท แล้วได้รายได้จากการแบ่งยอดวิวจากยูทูบแล้วแต่ว่าเพลงใครได้เท่าไหร่
อย่างไรก็ตามล่าสุด สาวเจนนี่ ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ในเฟซบุ๊ค น้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น พร้อมข้อความระบุว่า "2 ทุ่ม วันนี้ ไลฟสดชี้แจง เพจนี้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ" และแน่นอนต่างมีชาวเน็ตจำนวนมากแห่คอมเม้นต์ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ พร้อมทั้งรอการไลฟ์สดคืนนี้ ว่าจะเป็นอย่างไร กับเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น