- 02 ส.ค. 2563
เรียกได้ว่าเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ร้อนระอุในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก สำหรับสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ที่ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงถึง น้องเก้า เกริกพล นักร้องอีกคนที่ร่วมร้องเพลงกับ ลิลลี่ ในเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอ ปมโกงเงินค่าตัว จนมียอดวิวทะลุ 348 ล้านวิว
เรียกได้ว่าเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ร้อนระอุในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก สำหรับสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ที่ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงถึง น้องเก้า เกริกพล นักร้องอีกคนที่ร่วมร้องเพลงกับ ลิลลี่ ในเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอ ปมโกงเงินค่าตัว จนมียอดวิวทะลุ 348 ล้านวิว
ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ไม่เคยโกงค่าตัวใครนะคะ อีกอย่างค่ายก็เคยชวนน้องมาเป็นศิลปินในค่าย แต่ตอนนั้นน้องได้ปฏิเสธไป ทางเราก็ไม่ว่าอะไรเพราะมันเป็นสิทธิของน้องแต่ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่คุณพ่อของน้อง โทรมาขอแบ่งยอดวิว 30% จากรายได้ด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตกใจมากที่คุณพ่อของน้องพูดจาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งทางค่ายตอบไปว่าให้ไม่ได้เพราะไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรกแต่ถึงแม้ว่าทางค่ายไม่แบ่งค่ายอดวิวให้น้องก็จริง ตอนเพลงดังใหม่ๆก็เคยโอนเงินไปให้เพิ่ม 20,000 บาทแต่ทางน้องไม่สบายใจที่จะรับและโอนคืนมาโดยที่น้องไปหาเลขบัญชีมาจากไหนก็ไม่รู้ เราไม่เคยนิ่งเฉยกับน้องเพราะน้องเป็นเด็กน่ารัก
ทุกวันนี้ยังเสียดายที่น้องไม่ได้อยู่ในค่าย มีงานรีวิวเข้ามาเราเคยขายงานน้องให้โดยไม่หักค่านายหน้าเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท มีงานคอนเสิร์ตเข้าก็ขายงานให้น้องตลอด แต่เนื่องจากน้องอยู่กทม. เจ้าภาพจึงสู้ราคาไม่ได้ เพราะต้องมีค่าเดินทางเพิ่ม เราจึงไม่ได้ออกงานคู่กันเลยทั้งนี้ทั้งนั้น ที่มีผู้ใหญ่ฝั่งน้องโทรไปให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับเพจตลาดล่าง แทนที่จะมาพูดกับทางเราตรงๆ เพราะตอนเกิดปัญหาใหม่ๆทางเราเคยโทรไปเพื่อจะเจรจาแล้วแต่ทางฝั่งน้องไม่รับสาย และไม่โทรกลับอีกเลย ติดต่องานไปช่วงหลังๆน้องก็ไม่ค่อยตอบ จนกระทั่งน้องลบเพื่อนในเฟสบุ๊คไป เราก็ไม่ติดต่อกันอีกเลยจนถึงวันนี้วันที่ค่ายเราประสบปัญหามากมาย ทางผู้ใหญ่ของน้องเลือกที่จะใช้เพจตลาดล่าง เพจที่โจมตีเรามาตลอด ในการเป็นสื่อเพื่อออกมาให้การเท็จ เพราะผู้ใหญ่ฝั่งน้องรู้ดีถ้าเล่นทางเพจนั้นจะมีคนเข้าข้างอย่างแน่นอน ทำไมพวกท่านไม่มาคุยกันตรงๆ
ล่าสุด เก้า เกริกพล นั้นก็ได้ออกมาขอท้าสาบาน เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ปมโดนโกงเงินค่าตัว อย่างเจ็บเเสบ
โดย เก้า เกริกพล ได้ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวตอบโต้ เจนนี่ ว่า
เริ่มแรกเขามาขอให้ตนไปฟีเจอริ่งด้วย 2 ครั้ง แต่ตนไม่ไป ต่อมาได้ไปออกรายการหนึ่ง ทำให้รู้จักและสนิทกันพอสมควร จึงไปร่วมฟีเจอริ่งด้วย สิ่งที่ตนออกมาพูดวันนี้เป็นความจริงทุกอย่าง จะพาไปสาบานที่ไหนก็ได้ ตนไม่ได้ออกมาเรียกร้องหรือต้องการเงิน เพราะเรื่องของเรามันจบไปแล้ว สำหรับเงิน 10,000 บาท ที่เขาบอก คือมีการโอนมาให้จริง แต่เขาบอกว่า โอนให้ไว้กินขนมและค่าเดินทางในการไปอัดเสียงร้องวันแรก ตนก็เข้าใจแบบนั้น ไม่ได้เข้าใจว่าเป็นค่าตัว
หลังจากนั้นได้มาเจอกันที่พัทลุง ตอนนั้นมีตน แม่ และเขา รู้ดีที่สุดว่าพูดและตกลงอะไรกันเขาคุยกับแม่ว่า พี่จะไม่เอาเปรียบน้อง เพราะเคยโดนเอาเปรียบมาก่อน พี่จะดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตอนนั้นแม่พูดว่า โอนมา 10,000 มากเกินไปไหม เพราะเราไปอัดเสียงเฉยๆ ยังทำงานให้เขาไม่เสร็จ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไรให้น้องกินขนม วันไปถ่ายเอ็มวีค่อยว่ากันอีกที กระทั่งถึงวันถ่ายเอ็มวี เขาสั่งเสื้อผ้าที่ใช้ถ่ายทั้งหมด 6,000 บาท เป็นของแบรนด์เนม ตนจึงเอาเงิน 10,000 บาท ที่เขาให้ มาซื้อเสื้อผ้า จ่ายค่ากิน ค่าที่พัก แต่ยังต้องออกเงินส่วนตัวอีก 2,000 บาท ตอนนั้นคิดว่าช่วยๆ กันไปก่อน
หลังจากเพลงลงยูทูบ ติดชาร์จอันดับ 1 มียอดวิวหลายล้าน จนถึงยอดวิวเกิน 10 ล้าน ผมโทรไปหาเขา และบอกว่าเพลงน่าจะถึง 100 ล้านวิวแน่นอน พร้อมแสดงความดีใจกับเขา แต่คำที่ได้ยินจากเขา คือ เพลงนี้ไม่ใช่เพลงของผม เป็นเพลงของลิลลี่ แต่คำสัญญาที่เขาให้มาก่อนหน้านั้น ทำไมกลับคำ ผมขอเพลงไปทำเป็นเวอร์ชั่นชาย เพื่อเอาไปอัพลงช่องยูทูบของตัวเอง เขาบอกว่าไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นสิทธิของเขา ก่อนหน้าที่คุยเรื่องส่วนแบ่ง เขายังไม่มีค่าย จึงเป็นสัญญาแบบใช้ใจแลกใจ ส่วนเรื่องที่บอกว่าทำไมมาพูดตอนนี้ ผมทำหนังสือยื่นไปให้พี่เขาแล้วที่บ้าน
ส่วนกรณีส่วนแบ่ง 70/30 พี่เขาพูดจริง ไปคุยกับแม่ตนว่าจะแบ่งค่ายูทูบให้น้อง คุยกันหลังจากอัดเสียงร้องเสร็จ และรอจะไปถ่ายเอ็มวี ตอนนั้นตนไปกับพี่ติ๊ก ชีโร่ ด้วย ซึ่งตนนับถือเป็นพ่อ และมีสัญญาใจกัน อยู่กันแบบพ่อลูก แต่ไม่ได้เซ็นสัญญา คนที่บอกว่าตนติดสัญญากับติ๊ก ชีโร่ และมีการปิดกั้นตน ก็ไม่เป็นความจริง ส่วนแบ่ง 70/30 ที่คุยกัน ตนให้ใจเขาไป โดยไม่เขียนลายลักษณ์อักษร
“สำหรับประเด็นที่เขาบอกว่าพ่อผมโทรไปขอส่วนแบ่ง 30% ด้วยคำพูดไม่เหมาะสม จนทำให้พ่อผมโดนด่าและด่ายันตระกูล วันนั้นที่พ่อโทรไป ครอบครัวได้ยินกันหมด พ่อบอกว่าเพลงมีคนดู 100 ล้านวิวแล้วนะ มีอะไรจะให้น้องบ้าง แม้แต่คำขอบคุณยังไม่มีให้น้องเลย แต่เขาพูดว่า พ่อต้องการเท่าไหร่ เป็นคำพูดที่ไม่น่าพูดกับคนอายุสูงกว่า สมควรพูดแบบนี้ไหม หลังจากคุยกันเสร็จ เขาขอบคุณผมมา และโอนเงินมาให้ 20,000 บาท หลังจากที่พ่อผมโทรไป แต่ผมโอนเงินกลับ เพราะรู้ว่าเขาไม่ได้ให้ด้วยใจ ขอถามว่าถ้าพ่อผมไม่โทรไป เขาจะคิดถึงผมไหม” ส่วนที่บอกว่าใช้เพจหนึ่งเป็นสื่อกลางในการด่าเขา และให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ขอบอกว่าเราไม่ได้รู้จักกับเพจนี้มาก่อน แต่เพจนี้เป็นคนโทรหาแม่ตน และถามทุกเรื่อง แล้วที่เขาบอกให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ อันไหนที่เป็นเท็จ บอกมาเลย เพราะไม่ใช่เรื่องเท็จ แต่แม่ของตนพูดความจริงทุกอย่าง สิ่งที่ตนพูดวันนี้ไม่ได้แต่งเติมแม้แต่นิดเดียว ส่วนสัญญาและหลักฐานที่คนอื่นขอ อยู่ที่เขาแล้ว แต่เขาเอามาลงไม่หมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัญญาใจ เพราะคิดว่าเป็นพี่น้อง คนเราพูดอะไรรู้ดีอยู่แก่ใจ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 สาวเจนนี่ ก็ได้ไลฟ์ชี้แจงดังนี้ ในกรณีสัญญาใจ 70/30 ไม่เคยมี ยืนยันว่าไม่เคยโกงค่าตัวใคร สัญญาใจ 70/30 ที่น้องเก้าพูดถึงนั้นไม่มีจริง แต่เป็นข้อเสนอที่ตนเสนอให้น้องเก้าว่า ถ้าน้องมาอยู่ค่ายเพลงของตน ตนจะมีส่วนแบ่งในการทำเพลงและยอดวิวจากเพลงให้ รวมทั้งเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ ก็จะแบ่งให้น้องเก้า 30% ลิลลี่ 30% และตนซึ่งเป็นเจ้าของค่าย 40% เป็นค่าลงทุนต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม น้องเก้าปฏิเสธที่จะมาเป็นศิลปินในค่าย ข้อเสนอนี้จึงตกไป ตนจึงให้น้อง 30% ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ครอบครัวของน้องเก้าก็เข้าใจดีตั้งแต่แรก การขอแบ่งยอดวิว 30% นั้นไม่มีใครทำกัน เวลาตนไปแจมกับคนอื่นก็ไม่เคยไปเรียกร้องขอส่วนแบ่ง 30% จากใคร แจงไทม์ไลน์ปัญหา เรื่องเริ่มจากพ่อน้องเก้าโทรมาบอกว่า "เพลงได้ร้อยล้านวิวแล้ว ไม่คิดถึงน้องบ้างเหรอ" ตนจึงบอกพ่อไปว่าคิดถึงตลอด ขอบคุณพ่อและน้องเก้ามากที่มาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงนี้ จากนั้นพ่อถามเรื่องส่วนแบ่ง 30% ตนก็บอกว่าให้ไม่ได้ เพราะน้องไม่ได้มาอยู่กับค่ายตามข้อเสนอ พ่อไม่พอใจและบอกว่าเงิน 10,000 บาทที่ให้ไปนั้นไม่พอ เพราะน้องต้องซื้อชุด และจ่ายค่าที่พัก-ค่ากินด้วย
เจนนี่ชี้แจงว่า ตอนไปถ่ายเอ็มวีที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พ่อบอกว่ามีญาติอยู่สิชล จะไปพักและไปกินข้าวบ้านญาติ ตนจึงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ยอมรับว่าตนคิดน้อยไป และไม่ทราบมาก่อนว่าเงินไม่พอ เพราะเคยถามน้องแล้วน้องบอกว่าพอ
จากนั้นตนไปปรึกษาผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่บอกว่าให้จ่ายเงินเพิ่มให้น้อง ตนจึงโทรไปหาพ่อน้องเก้าแต่พ่อไม่รับสาย ตนจึงทักแชตน้องเก้าไปว่ารู้สึกไม่สบายใจ พร้อมกับโอนเงินให้น้องไป 20,000 บาท และขอโทษน้องที่คิดน้อยไปเรื่องค่าชุด-ค่าที่พัก
ส่วนที่โอนให้เพียง 20,000 บาท เพราะตอนนั้นเพิ่งได้ยอดวิวจากยูทูบแค่เดือนเดียว และไม่ได้เป็นจำนวนเงินมากมายอะไร คนที่ทำช่องยูทูบจะเข้าใจตรงนี้ดี ส่วนที่มีคนอ้างว่า 1 ล้านวิว ได้ 30,000 บาท ก็ไม่เป็นความจริง รายได้แต่ละช่องไม่เหมือนกัน
ในการสนทนาผ่านแชตของตนกับน้องเก้า น้องบอกว่าตอนนี้สบายใจแล้ว และจะไปเคลียร์กับพ่อเอง ทำให้ตนเข้าใจว่าพ่ออาจเข้าใจผิด เดี๋ยวน้องคงไปอธิบายให้พ่อฟังเอง จากนั้นน้องขอโอนเงิน 20,000 บาทคืนให้ บอกว่าไม่สบายใจที่จะรับไว้ แล้วน้องก็ไปหาหมายเลขบัญชีโอนกลับมา
ส่วนที่พ่อบอกว่าตนไม่เคยขอบคุณน้องเก้านั้นไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาตนขอบคุณน้องตลอด ตั้งแต่ตอนอัดเสียง ตอนไปกินน้ำชาด้วยกัน หรือเวลาไปออกรายการต่าง ๆ ไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน แต่ผู้ใหญ่ฝั่งน้องเก้า (คาดว่าเป็นแม่) โทรคุยกับเพจเพจหนึ่ง แล้วขอให้เพจนี้ช่วยเป็นสื่อกลาง ซึ่งเพจนี้เขียนโจมตีตนมานานแล้ว เมื่อเพจเอาเรื่องนี้มาโพสต์ก็มีคนแชร์ไป 6,000 กว่าครั้ง ทำให้ตน ครอบครัว และเด็กในค่ายเพลงโดนรุมด่าเช่นกัน
ที่น้องเก้าบอกว่าพ่อโดนรุมด่าเสียหายนั้น ตนขอโทษพ่อด้วยที่มีคนเข้าไปด่าว่าหรือก้าวก่ายพ่อ ตนไม่เคยบอกให้ใครทำอย่างนั้น เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่ต้องการให้เกิดขึ้นเลย ที่ผ่านมาพยายามติดต่อพ่อมาตลอด แต่พ่อไม่รับสายและไม่โทรกลับ
ส่วนเรื่องเอกสารที่น้องเก้าบอกว่าส่งมาให้แล้วตนทำเมินนั้น ตนไม่เคยได้รับเอกสารที่น้องส่งมา อยากให้น้องแจ้งว่าใครเป็นคนรับเอกสาร และเป็นเอกสารเกี่ยวกับอะไร
ค่าตัว 3,000 บาท ไม่มีจริง เรื่องที่น้องเก้าบอกว่าตนจ้างน้องมาเล่นคอนเสิร์ตด้วยค่าตัว 3,000 บาทนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นเพียงข้อเสนอตอนที่ชวนน้องมาร่วมค่าย ว่าถ้าน้องมาเป็นศิลปินในค่ายจะจ่ายค่าเล่นคอนเสิร์ตให้ครั้งละ 3,000 บาท หากเจ้าภาพไม่ได้จ้างน้อง ตนจะแบ่งเงินค่าตัวให้น้องเอง
ส่วนที่เสนอไปแค่ 3,000 บาท ก็เพราะตอนนั้นยังไม่ได้ปล่อยเพลง ยังไม่รู้ว่าเพลงจะดังหรือไม่ ยังไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร
และที่บอกว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ก็เพราะน้องไม่ได้มาอยู่ค่ายเพลงของตน แล้วหลังจากนั้นน้องกับครอบครัวก็ย้ายจากพัทลุงไปอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งตนเข้าใจดีว่าจากกรุงเทพฯ จะให้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่อื่น มันต้องมีค่าเดินทาง ได้แค่ 3,000 เป็นตนก็ไม่เอา
ซึ่งงานนี้น้องสาวอย่าง ลิลลี่ เลิกคุยทั้งอำเภอ ทนไม่ไหว โพสต์ถึงพี่สาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หลังยกมือเอ่ยคำสาบานให้มีอันเป็นไป! โดยงานนี้ ลิลลี่ ก็ได้ให้กำลังใจพี่สาว โดยการให้อิโมจิสู้ๆเเละรูปหัวใจอีกด้วย