- 02 ส.ค. 2563
เมียติ๊กชีโร่ ประกาศแท็กทีม เก้า เกริกพล
เรียกว่าเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเขียลในเวลานี้สำหรับกรณีของ "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" โกงเงินค่าตัว และส่วนแบ่งของนักร้องหนุ่ม ที่มาร่วมฟิเจอริ่งอย่าง "เก้า เกริกพล" ในเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว
ของ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่มียอดวิวในยูทูบสูงถึง 350 ล้านวิวแล้วในขณะนี้ ซึ่งเบื้องต้นมีสัญญาใจต่อกันว่าจะให้ส่วนแบ่ง 70-30 โดยงานนี้คู่กรณีก็คือเจนนี่ กับนักร้องหนุ่ม “เก้า-เกริกพล เพชรรัตน์” ต่างก็ผลัดกันออกมาโต้ตอบแบบมองต่างมุมชนิดที่เหมือนกับหนังคนละม้วนเลยทีเดียว
ทางฝั่งเจนนี่ ยืนยันว่าไม่เคยโกงค่าตัวพร้อมทั้งได้งัดหลักฐานการโอนเงินมาโพสต์บนเฟซบุ๊กเพื่อยืนยันว่า "ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่คุณพ่อของน้อง โทรมาขอแบ่งยอดวิว 30% จากรายได้ด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสมซึ่งทางค่ายตอบไปว่าให้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรก แต่ถึงแม้ว่าทางค่ายไม่แบ่งค่ายอดวิวให้น้องก็จริง ตอนเพลงดังใหม่ๆ ก็เคยโอนเงินไปให้เพิ่ม 20,000 บาท แต่ทางน้องไม่สบายใจที่จะรับและโอนคืนมา โดยที่น้องไปหาเลขบัญชีมาจากไหนก็ไม่รู้ เราไม่เคยนิ่งเฉยกับน้อง เพราะน้องเป็นเด็กน่ารัก
ทุกวันนี้ยังเสียดายที่น้องไม่ได้อยู่ในค่าย มีงานรีวิวเข้ามาเราเคยขายงานน้องให้โดยไม่หักค่านายหน้าเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท มีงานคอนเสิร์ตเข้าก็ขายงานให้น้องตลอด แต่เนื่องจากน้องอยู่ กทม. เจ้าภาพจึงสู้ราคาไม่ได้ เพราะต้องมีค่าเดินทางเพิ่ม เราจึงไม่ได้ออกงานคู่กันเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่มีผู้ใหญ่ฝั่งน้องโทรไปให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับเพจตลาดล่าง แทนที่จะมาพูดกับทางเราตรงๆ” ถัดจากนั้น ฝั่งตรงข้ามก็สวนหมัดกลับทันควัน ด้วยการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้ทีละประเด็น โดยเฉพาะประเด็นค่าส่วนแบ่งยอดวิวยูทูบ 70-30 ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าตกลงกันไว้แบบนั้นจริง เพียงแต่ไม่มีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
"หลังจากเพลงลงยูทูบ ติดชาร์จอันดับ 1 มียอดวิวหลายล้าน จนถึงยอดวิวเกิน 10 ล้าน ผมโทรไปหาเขา และบอกว่าเพลงน่าจะถึง 100 ล้านวิวแน่นอน พร้อมแสดงความดีใจกับเขา แต่คำที่ได้ยินจากเขา คือ เพลงนี้ไม่ใช่เพลงของผม เป็นเพลงของลิลลี่ แต่คำสัญญาที่เขาให้มาก่อนหน้านั้น ทำไมกลับคำ
สำหรับประเด็นที่เขาบอกว่าพ่อผมโทรไปขอส่วนแบ่ง 30% ด้วยคำพูดไม่เหมาะสม จนทำให้พ่อผมโดนด่าและด่ายันตระกูล วันนั้นที่พ่อโทรไป ครอบครัวได้ยินกันหมด พ่อบอกว่าเพลงมีคนดู 100 ล้านวิวแล้วนะ มีอะไรจะให้น้องบ้าง แม้แต่คำขอบคุณยังไม่มีให้น้องเลย แต่เขาพูดว่า พ่อต้องการเท่าไหร่ เป็นคำพูดที่ไม่น่าพูดกับคนอายุสูงกว่า สมควรพูดแบบนี้ไหม หลังจากคุยกันเสร็จ เขาขอบคุณผมมา และโอนเงินมาให้ 20,000 บาท หลังจากที่พ่อผมโทรไป แต่ผมโอนเงินกลับ เพราะรู้ว่าเขาไม่ได้ให้ด้วยใจ ขอถามว่าถ้าพ่อผมไม่โทรไป เขาจะคิดถึงผมไหม"
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น ทางด้านของ อ้อ พรรทิรา นันทเสน ภรรยาของนักร้องชื่อดัง ติ๊ก ชีโร่ ซึ่งรู้จักและสนิทสนมกับ น้องเก้า มาตั้งแต่สมัยที่เคยร่วมงานในรายการ The Voice Kids Thailand ซีซั่น 5 รวมทั้งเป็นคนที่ น้องเก้า ให้ความเคาพนับถือมาจนถึงปัจจุบัน ได้ออกมากระหน่ำโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Romeolove Juliet พร้อมประกาศจุดยืนชัดเจน “อยู่ทีมน้องเก้าเสมอ”
โดยระบุว่า “พี่ทีมน้องเก้า(เสมอๆ)...สำหรับพี่น้องได้ใจ ไปตั้งนานแล้ว...น้องเป็นลูกกตัญญู ดูแลครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก...ทำตามความฝันตัวเอง...อย่าท้อนะครับคนเก่ง”
นอกจากนี้ ภรรยานักร้องดัง ยังได้โพสต์ข้อความตามมาอีกรัวๆ ไม่ว่าจะเป็น “น้อง๙ ก็มีชื่อมาก่อนน๊า...ก่อนที่ทางเทอจะมาขอร้องให้ไป ช่วย Feat.(ดันน้องสาว)ด้วยซ้ำ...เถียงหรือจะแถดี?!? ฝากดูคลิปนี้ให้จบนะแจ๊ะ”
“เก็บปากไว้กินข้าว(ต่อดี)มั้ย?!? หรือจะเปลี่ยนจากข้าวเป็นอาหารเม็ด(แทน)??? #อย่าบีบน้ำตานะเพราะกรูไม่อิน”
“มรึงหยุดเหอะ...แถจนถลอก...หมอไม่รับเย็บแล้วน๊า... ***ให้โอกาสสำนึกผิด(ดีมั้ย?!?) มุม art ดีเนาะ”
“#ตอแ-ลได้โล่ #วัวลืมตีน #ผีเจาะปากมาพูด (ไร้สาระว่ะ) คนจริงเขาไม่อวดอ้างอะไรมากมาย...มรึงพูดอ่ะ...หายใจบ้างนะ... มรึงอ่ะ มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยนะ!!! ตอนนี้กรูมีความรู้สึกว่า...มรึงไม่เหมาะสมที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม(ต่อไป)ได้!!! จบข่าว อย่าลืมหนีบตัวผู้ไปด้วยนะ อิอิ” และ “#ตกงานกันถ้วนหน้าเพราะอีเปรตนี้คนเดียว”