- 16 ส.ค. 2563
อดีตผู้จัดการ แฉหมดเปลือก นิสัยที่แท้จริง เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หลังสร้างวีรกรรมฉาวไปทั้งวงการ
เรียกได้ว่าเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ร้อนระอุในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก สำหรับสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ที่ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงถึง น้องเก้า เกริกพล นักร้องอีกคนที่ร่วมร้องเพลงกับ ลิลลี่ ในเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอ จนมียอดวิวทะลุ 348 ล้านวิว ว่า ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ไม่เคยโกงค่าตัวใครนะคะ อีกอย่างค่ายก็เคยชวนน้องมาเป็นศิลปินในค่าย แต่ตอนนั้นน้องได้ปฏิเสธไป ทางเราก็ไม่ว่าอะไรเพราะมันเป็นสิทธิของน้องแต่ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่คุณพ่อของน้อง โทรมาขอแบ่งยอดวิว 30% จากรายได้ด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตกใจมากที่คุณพ่อของน้องพูดจาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งทางค่ายตอบไปว่าให้ไม่ได้เพราะไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรกแต่ถึงแม้ว่าทางค่ายไม่แบ่งค่ายอดวิวให้น้องก็จริง ตอนเพลงดังใหม่ๆก็เคยโอนเงินไปให้เพิ่ม 20,000 บาทแต่ทางน้องไม่สบายใจที่จะรับและโอนคืนมาโดยที่น้องไปหาเลขบัญชีมาจากไหนก็ไม่รู้ เราไม่เคยนิ่งเฉยกับน้องเพราะน้องเป็นเด็กน่ารัก
ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ไม่เคยโกงค่าตัวใครนะคะ อีกอย่างค่ายก็เคยชวนน้องมาเป็นศิลปินในค่าย แต่ตอนนั้นน้องได้ปฏิเสธไป ทางเราก็ไม่ว่าอะไรเพราะมันเป็นสิทธิของน้องแต่ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่คุณพ่อของน้อง โทรมาขอแบ่งยอดวิว 30% จากรายได้ด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตกใจมากที่คุณพ่อของน้องพูดจาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งทางค่ายตอบไปว่าให้ไม่ได้เพราะไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรกแต่ถึงแม้ว่าทางค่ายไม่แบ่งค่ายอดวิวให้น้องก็จริง ตอนเพลงดังใหม่ๆก็เคยโอนเงินไปให้เพิ่ม 20,000 บาทแต่ทางน้องไม่สบายใจที่จะรับและโอนคืนมาโดยที่น้องไปหาเลขบัญชีมาจากไหนก็ไม่รู้ เราไม่เคยนิ่งเฉยกับน้องเพราะน้องเป็นเด็กน่ารัก
ทุกวันนี้ยังเสียดายที่น้องไม่ได้อยู่ในค่าย มีงานรีวิวเข้ามาเราเคยขายงานน้องให้โดยไม่หักค่านายหน้าเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท มีงานคอนเสิร์ตเข้าก็ขายงานให้น้องตลอด แต่เนื่องจากน้องอยู่กทม. เจ้าภาพจึงสู้ราคาไม่ได้ เพราะต้องมีค่าเดินทางเพิ่ม เราจึงไม่ได้ออกงานคู่กันเลยทั้งนี้ทั้งนั้น ที่มีผู้ใหญ่ฝั่งน้องโทรไปให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับเพจตลาดล่าง แทนที่จะมาพูดกับทางเราตรงๆ เพราะตอนเกิดปัญหาใหม่ๆทางเราเคยโทรไปเพื่อจะเจรจาแล้วแต่ทางฝั่งน้องไม่รับสาย และไม่โทรกลับอีกเลย ติดต่องานไปช่วงหลังๆน้องก็ไม่ค่อยตอบ จนกระทั่งน้องลบเพื่อนในเฟสบุ๊คไป เราก็ไม่ติดต่อกันอีกเลยจนถึงวันนี้วันที่ค่ายเราประสบปัญหามากมาย ทางผู้ใหญ่ของน้องเลือกที่จะใช้เพจตลาดล่าง เพจที่โจมตีเรามาตลอด ในการเป็นสื่อเพื่อออกมาให้การเท็จ เพราะผู้ใหญ่ฝั่งน้องรู้ดีถ้าเล่นทางเพจนั้นจะมีคนเข้าข้างอย่างแน่นอน ทำไมพวกท่านไม่มาคุยกันตรงๆ
ล่าสุด เก้า เกริกพล นั้นก็ได้ออกมาขอท้าสาบาน เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ปมโดนโกงเงินค่าตัว อย่างเจ็บเเสบ โดย เก้า เกริกพล ได้ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวตอบโต้ เจนนี่ ว่า เริ่มแรกเขามาขอให้ตนไปฟีเจอริ่งด้วย 2 ครั้ง แต่ตนไม่ไป ต่อมาได้ไปออกรายการหนึ่ง ทำให้รู้จักและสนิทกันพอสมควร จึงไปร่วมฟีเจอริ่งด้วย สิ่งที่ตนออกมาพูดวันนี้เป็นความจริงทุกอย่าง จะพาไปสาบานที่ไหนก็ได้ ตนไม่ได้ออกมาเรียกร้องหรือต้องการเงิน เพราะเรื่องของเรามันจบไปแล้ว สำหรับเงิน 10,000 บาท ที่เขาบอก คือมีการโอนมาให้จริง แต่เขาบอกว่า โอนให้ไว้กินขนมและค่าเดินทางในการไปอัดเสียงร้องวันแรก ตนก็เข้าใจแบบนั้น ไม่ได้เข้าใจว่าเป็นค่าตัว
ล่าสุด อดีตผู้จัดการของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ออกมาเผยว่า จากการที่ตนเคยได้ทำงานอยู่กับ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจนนี่ เป็นคนใจดีมาก ชอบให้โอกาสคน เจอกันครั้งล่าสุดก่อนที่จะเกิดเรื่องดราม่ากับ เก้า เกริกพล แต่ตนไม่ทราบเรื่อง
เนื่องจากอยู่ในค่ายประมาณเดือนกันยายน 2562 ตนได้ไปทำงานในฐานะผู้จัดการ เนื่องจากช่วงนั้นยังไม่มีใครเจ้ามาดูแลเรื่องคิวงานคอนเสิร์ตให้ และได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือด ประมาณเดือนละ 15,000-20,000 และลาออกจากค่ายเมือ่เดือนมีนาคม 2563 ยืนยันว่าไม่ได้มีดราม่าอะไร เพียงช่วงนั้นเป็นช่วงได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้ไม่มีงานคอนเสิร์ตเข้ามา
ส่วนเรื่องเรทค่าตัวสำหรับงานรีวิวต่างๆ เจนนี่เป็นคนตัดสินใจทั้งหมด ตนแค่ประมานงานต่อให้ เรทก็เป็นไปตามข่าวที่แชร์กันคือหลักแสน และแชร์โพสต์ประมาณ 10,000 บาทต่อโพสต์
ส่วนประเด็นค่าตัวแดนเซอรที่บอกว่าได้เดือนละ 30,000 บาท นั้นช่วงที่มีคอนเสิร์ตแน่นมาก แดนเซอร์จะได้ค่าตัว 1,000-2,000 ต่องาน คือถ้าทัสร์ที่ภาคใต้ก็จะได้งานละ 1,000 บาท ถ้าเป็นภาคกลาง ภาคเหนือ ค่าตัสก็จะเพิ่มขึ้นเป็นงานละ 2,000 บาท และยืนยันว่าจ่ายเงินตรงเวลาทุกครั้ง