กอล์ฟ เบญจพล สุดจะทน ระเบิดออกสื่อ หลังโดนโซเซียลลามปามบูลลี่หนัก หน้าเก่าดีกว่า

ซุ่มทำศัลยกรรมยกชุดแบบจัดหนัก สำหรับนักแสดงอารมณ์ดีอย่าง กอล์ฟ เบญจพล เชยอรุณ ก็ได้ออกมาเผยโฉมหน้าอันหล่อเหลาให้ได้เห็นกันไปแล้ว แต่ก็ไม่วายถูกโลกโซเชี่ยลบูลลี่หนักกว่าเดิมว่าหน้าเก่าดีกว่า ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บshow พร้อมเผยที่มาที่ไปทำไมถึงต้องทำหน้าใหม่ แล้วเพราะอะไรถึงอยากจะมาหล่อในวัย 50 ปี

ทำมาทั้งหมดกี่เดือน?
“2 เดือนเอง หลักๆ เลยที่เริ่มทำคืออยากมีจมูกเหมือนแม่ พี่ชาย แล้วก็พ่อ เพราะที่บ้านพี่จมูกเล็กหมด เราก็เลยรู้สึกว่าอยากจมูกเหมือนที่บ้าน กับสองด้วยความที่เราออกทีวีเยอะมันก็โดนแซว โดนอำกันเป็นมุข จมูกใหญ่จังเลยโน่นนี่นั่น”

“เมื่อ 2 ปีที่แล้วแม่ก็ส่งไลน์มาหาบอกว่าไปทำมั้ยลูกคนเขาจะได้ไม่มาล้อเรา เราเลยรู้สึกว่าอินเนอร์ข้างในแม่เราไม่ค่อยแฮปปี้ แต่เราไม่รู้สึกหรอก มีนิดเดียวเวลามีแซวเล่นๆ บางทีก็มีแว้บบ้าง แต่ด้วยความที่ไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกโดนล้อหรอก ซึ่งเรามองข้ามตรงนี้มาตลอด คิดว่าแม่คงโอเค แต่ไม่ใช่ วันดีคืนดีแม่ส่งไลน์มาเอง เราเลยรู้สึกว่าไม่โอเคกับตรงนี้แล้ว”

จมูกใหญ่ผิดปกติกว่าของที่บ้านทุกคน คือมันใหญ่ขึ้นเหรอ?
“ใช่ มันใหญ่ขึ้น คืออันนี้เราไม่รู้เลยจนพี่โน่มาทักเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เราก็ไปดูรูปเก่าๆ มันใหญ่ขึ้นจริงๆ”

แล้วตอนไปปรึกษาคุณหมอเค้าบอกไหมว่าจมูกคนเรามันสามารถใหญ่ขึ้นได้?
“มีชื่อโรคอยู่โรคนึง แต่จำชื่อไม่ได้ มีเหมือนกันที่จะขยายใหญ่มากมายไปเลย เรายังไม่ได้ถึงขั้นนั้น”

ในมุมของตัวเองหลังจากทำมาแล้วแฮปปี้กว่า หรือชอบอันเดิมมากกว่า?
“โอเคขึ้นเพราะมันเล็กสมใจเรา แต่ยังไม่ได้สมใจจน 100% ถึงบอกว่าต้องรอ 6 เดือน ถามว่าทำไมไม่รอ 6 เดือนให้เข้าที่ก่อนค่อยออกสื่อ รอยังไงล่ะ สื่อตีเยอะมาก สื่อรู้ว่าเราไปทำก็ลงเยอะมาก จนพี่เล่นแอพฯ นึงที่เป็นหน้าผู้หญิง ตีความไปว่ากอล์ฟแปลงเพศ ไปกันใหญ่แล้วไง ถ้าเป็นอย่างนี้ออกมาเลยดีกว่า เดือนเดียวยังไม่เข้าที่หรอก แต่ออกมาบอกเลยว่าทำ แต่ที่ตีความว่ากอล์ฟเปลี่ยนเพศมันไม่ใช่ คนละเรื่องกัน”

สื่อรู้ได้ยังไงว่าเราไปทำ?
“ไม่รู้เหมือนกัน เราก็อยู่ของเราปกติ ต้องเข้าใจก่อนว่าสื่อสมัยนี้เวลาหาข่าวเขาใช้วิธีไถโซเชี่ยลเหมือนกัน เขาอาจจะเห็นรูปนั่นนี่ของเราว่าเราเป็นคนลงรูปตลอดเวลา คงเห็นว่ากอล์ฟทำไมเริ่มหลบหน้า ถ้าให้เราตัดไปเลย 6 เดือนอย่างที่บอกเดี๋ยวค่อยออกมา คำถามคือเราไปโกงกินใครเหรอ ไปเป็นโจรไปปล้นอะไรรึเปล่า ไม่ใช่ เราใช้ชีวิตปกติไม่มีอะไรให้ปิด”

มีคอมเมนต์เยอะแยะไปหมดหลังจากเห็นหน้าพี่ อ่านแล้วรู้สึกยังไง?
“คนที่ไปคอมมเมนต์ในส่วนอื่นเช่นในข่าวอื่นๆ เราไม่สนใจ เพราะเราไม่ได้ให้ค่าอะไรเขาอยู่แล้ว คนเราทุกคนมีคนที่ไม่ชอบเราอยู่ เราจะให้ทุกคนชอบเรามันเป็นไปไม่ได้ เอาเวลาไปทำให้คนที่เขาชอบเรารักเรามากขึ้นและแฮปปี้มากขึ้นดีกว่า เราเลยไม่สนใจคนพวกนั้น แต่ทำไมมันเหมือนมีเหตุการณ์ที่โดนบูลลี่เข้ามา นั่นเป็นเพราะว่ามันเริ่มลามปาม”

ลามปามยังไง?
“มันเกินเลย เช่นเข้ามาบอกว่าพอดีเราขายผลิตภัณฑ์ออนไลน์อยู่ เห็นมั้ยทำศัลยกรรมหน้าแสดงว่าไปศัลยกรรมปลูกผมมา เราก็แบบไม่ใช่ละ ลามปามแล้ว ดิสเครดิตสินค้าเรา เราก็พิพม์กลับไปว่าถ้าคุณหาหลักฐานได้ผมให้ล้านนึง แต่ถ้าคุณไม่มีหลักฐานผมแจ้งความจับนะ เพราะมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อยู่  เข้าคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท กลายเป็นเงียบ เงียบเสร็จก็ขอโทษ”

“เลยรู้สึกว่าสังคมบ้านเรามันแปลก เริ่มมีการลามปามในบางสิ่งแล้วก็เริ่มลามปามมาในพื้นที่เรา ก่อนทำศัลยกรรมไม่เห็นเข้ามายุ่งเลย มันจะมีแต่คนที่รักเราเข้ามา เรามีความรู้สึกว่าจะต้องอยู่กับสังคมแบบนี้จริงๆ เหรอ เราจะต้องให้การที่คนโดนบูลลี่เป็นสิ่งที่ต้องคุ้นชิน เหมือนเราจะข้ามทางม้าลายแต่เราข้ามไม่ได้ เพราะคนไม่ยอมจอดรถให้เราข้าม ฉะนั้นมันต้องหยุดอิจฉา หยุดเห็นแก่ตัว แล้วคุณจะมีความสุขขึ้น”

ณ วันนี้ชอบจมูกที่ทำมาใหม่หรือชอบจมูกเดิม?
ยังไม่ถึง 6 เดือน ยังตอบไม่ได้ ถ้า 6 เดือนหรือปีนึง เรายังไม่ชอบ ละครปิดปีหน้าเราก็ทำได้ใหม่ หน้าเราเงินเราเราไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร ทำไปเถอะมันความสุขเรา”

จุดหนึ่งที่ไม่แฮปปี้มากๆ คือการที่โดนบูลลี่แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ที่เป็นบุคคลในวงการบันเทิงด้วย?
“อันนั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น ดูสิ ทำมาเสร็จหน้าเหมือนอาจารย์เป็นหนึ่งเลย สมมุติถ้าพิมพ์มาแค่นี้แล้วไม่มีหัวเราะตามมา ไม่มีอีโมจิหรือ 555 ตามมาพี่ไม่ได้ว่าอะไรก็คงเป็นแฟนคลับของอาจารย์เป็นหนึ่ง แล้วอาจารย์เป็นหนึ่งก็เป็นคนดีเป็นเพื่อนฝูงกัน พี่โอเค”

“แต่ถ้าบอกว่าเหมือนอาจารย์เป็นหนึ่งเลยดูซิ 555 อ้าว! คุณบูลลี่บุคคลที่สามด้วยไง ลำพังตัวเราเราก็ไม่เข้าใจอยู่แล้วว่าเราไปทำอะไรให้เขาไม่ชอบ สองคุณพาลไปถึงเพื่อนในวงการผม พวกนี้คือเกินไป คุณเคยรู้ประวัติคนเหล่านี้มั้ย เช่น อาจารย์ทำบุญเยอะมาก ช่วยเหลือคนเยอะแยะมากมาย คุณทำให้ได้อย่างเขาก่อน การลดค่าคนอื่นมันง่ายกว่าการที่จะไปเพิ่มค่าให้ตัวเขา”

การที่ทำศัลยกรรมแบบนี้มีผลต่องานไหม?
“เราก็จะถามกลับว่า กอล์ฟ เบญจพล ไปทำหน้ามา เล่นตลกน้อยลงเหรอ เอางี้ดีกว่าสมมุติเราทำแล้วหล่อมีใครจะจ้างเราเป็นพระเอกมั้ยล่ะ ถ้ามี เป็นบทที่ดี เดี๋ยวปีหน้าทำเพิ่มให้เลย เราเลยจุดที่จะไปเป็นพระเอก ต่อให้เล่นเป็นพระเอกก็ไม่รู้จะกล้าเล่นหรือเปล่า กอล์ฟ เบญจพล ก็ต้องเล่นเฮฮา เป็นผู้ช่วยพระเอก นางเอก จะให้ไปทำเก๊กหล่อมันทำไม่ได้”

ทำออกมาดูดีดูหล่อ แต่ด้วยคาแร็กเตอร์เป็นคนสนุกสนานมันจะขัดแย้งกันไหม?
“ไม่ขัดหรอก ทำไมโจวชิงฉือยังเล่นตลกได้เลย เขาก็หล่อ คนหล่อๆ เล่นตลกได้เยอะแยะมากมาย ณเดชน์หล่อมั้ย ณเดชน์ขำมากนะ คนหล่อที่ขำๆ มีเยอะแยะไป  มันอยู่ที่ว่าเราไปขีดกรอบให้เขาต่างหาก ถ้าหลังจากวันนี้ผู้จัดฯ ขีดกรอบว่าไม่ได้ กอล์ฟหล่อ กอล์ฟอย่าเล่นตลกนะ เราคงเครียดแล้วล่ะ”

 

ภรรยาว่ายังไง?
“ภรรยาแฮปปี้ เขาบอกเหมือนมีผัวใหม่ เหมือนโอปป้า เห่อด้วย นั่งมองทั้งวัน มองจนเราเขิน”

ทั้งหมดที่ทำ ทำอะไรไปบ้าง?
“หลักๆ เลยเราอยากจะแก้ปีกจมูกให้จมูกมันเล็กเหมือนแม่ แต่พอทำเสร็จหมอบอกว่าจำเป็นต้องเสริมซิลิโคนขึ้นไป เพื่อให้เนื้อที่บานออกมันเก็บเข้าไป ส่วนปากเมื่อก่อนมีติ่งปากออกมาก็เฉือนตัดออก เป็นอีกหนึ่งอันที่อยากทำมาก เวลาถ่ายรูปพี่จะมีอยู่ 2 ท่าคือปากจู๋กับอ้าปาก เพื่อไม่ให้ติ่งมันออก ไหนๆ ทำแล้วก็เฉือนออกเลย แล้วหมอก็ทำเป็นปากกระจับ แล้วก็เติมคางเข้าไปเพื่อให้บาลานซ์หน้ามันดี”

อยากทำอะไรเพิ่มอีกไหม?
“มีแค่จมูก คือสุดท้ายแล้วถ้าไม่ได้อย่างใจอยากจริงๆ อาจจะนะ เพราะ 2 อาทิตย์แรกทรมานมาก การอ้าปาก การใช้หน้า มันทรมานมาก ต้องคอยระวังมันลำบากมาก”