เปิดชีวิตตลก ศรีหลอด เชิญยิ้ม แทบพูดไม่ออกหลังภรรยาคลอดลูกมาเป็นเด็กพิเศษ

นับว่าเป็นตลกที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอีกคนที่โลดแล่นในวงการบันเทิงมานาน สำหรับ ศรีหลอด เชิญยิ้ม ตลกชื่อดังอีกคนที่สนิทกับโรเบิร์ต สายควัน ที่ทางบริษัทฮาฯเพิ่งออกมาแจ้งข่าวร้ายว่าป่วยมะเร็ง และคราวนี้เจ้าตัวขอถือโอกาสฤกษ์งามยามดีควงภรรยา และลูกสาว น้องเหมย น้องหมิง มาเปิดเส้นทางชีวิตจากพนักงานบริษัทสู่วงการตลก  ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และ ใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกร

เมื่อวันก่อนพี่หลอด เพิ่งไปเยี่ยมพี่โรเบิร์ตมา ?
ศรีหลอด : ใช่ครับ ไปเยี่ยมที่บ้านมา ดีขึ้น ไม่ได้แย่ลง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเต็มร้อย

พี่หลอดกับพี่เบิร์ตผูกพันกันมานานแล้วเหมือนกัน ?
ศรีหลอด : ย้อนไปสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนที่พี่เบิร์ตยังอยู่คณะดี๋ ดอกมะดัน เรามีโอกาสได้กินนอนกัน คือตอนนั้นเราเล่นตลกคณะเล็ก แล้วพี่เบิร์ตอยู่คณะใหญ่ ซึ่งสมัยก่อนเขาเล่นดาราวิลล่า แล้วเราได้มีโอกาสเดินตาม เพราะเราชอบพี่หนู คลองเตย เพราะเขาเป็นเพื่อนกัน

ตอนที่ไปเยี่ยม ณ ปัจจุบัน คุยเรื่องอะไรกัน ?
ศรีหลอด : คุยหลายเรื่องนะ ส่วนมากจะให้กำลังใจแกมากกว่า แล้วก็อย่างที่รู้กัน มีเวลาเยี่ยม อันนี้เห็นด้วย เพราะคนรักแกเยอะ เดี๋ยวคนนี้ไป คนนั้นไป เขาไม่ได้นัดกันไป

แกรู้ไหมว่าคนส่งกำลังใจให้แกเยอะ แกได้ดูสื่อบ้างไหม ?
ศรีหลอด : รู้ครับ แกก็ดูทุกคอมเมนต์ที่ส่งกำลังใจให้แก แกก็ฝากขอบคุณทุกคนด้วย แล้วเขาก็บอกว่าจะรีบกลับมาสร้างเสียงฮาให้กับทุกคนไว ๆ ครับ

ประทับใจในตัวพี่เบิร์ตตรงไหน ?
ศรีหลอด : แกเป็นคนรักพี่ รักน้อง รักเพื่อน รักฝูง ตัวเองอดไม่เป็นไร แต่เพื่อน พี่ น้อง ต้องอิ่ม
 

พอรู้ว่าพี่โรเบิร์ตป่วย ความรู้สึกเราใจหายไหม ?
ศรีหลอด : ใจหาย ตกใจ เราไม่คิดว่าแกจะป่วยไวขนาดนี้ เราก็งงว่าทำไมพี่เขาเป็น ผมรู้ตอนที่เป็นข่าวเลย ทีนี้เราก็โทร. หา แฟนพี่เบิร์ตรับสาย ผมก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร ด้วยความที่เราเป็นห่วงจะโทร. มาให้กำลังใจ เขาก็บอกว่าพี่เบิร์ตอยู่โรงพยาบาล ผมก็อ้าว...เหรอ ฝากบอกหายไว ๆ นะพี่

ถ้าสมมติเขาดูอยู่อยากจะฝากบอกอะไรพี่เบิร์ต ?
ศรีหลอด : หายไว ๆ นะพี่ ทุกคนรอพี่อยู่ ขอบคุณที่พี่ช่วยเหลือผมตั้งแต่อดีต หายไว ๆ ครับ ผมไม่รู้จะพูดอะไร ผมรักพี่ครับ สู้ ๆ

พี่อยู่วงการตลกมา 25 ปี พี่เข้ามาได้ยังไง ?
ศรีหลอด : เมื่อก่อนเป็นพนักงานบริษัท เราทำงานจันทร์-ศุกร์ พอเสาร์-อาทิตย์ว่างไง ไม่มีเงิน ทีนี้เพื่อนก็เลยบอกว่าไปเป็นเอ็กซ์ตร้าไหม ได้เงิน 200-300 ก็ยังดี ก็ไป แล้วไปเจอคนที่รู้จักพี่ที่เล่นตลก แล้วด้วยบุคลิกเราเป็นคนสนุกสนาน ชอบพูดให้คนยิ้ม เขาบอกอยากเล่นตลกไหม เราก็บอกว่าเอา เพราะตอนนั้นพี่หนู เชิญยิ้ม กำลังดัง

แล้วไปเล่นตลกครั้งแรกเขาให้เท่าไหร่ ?
ศรีหลอด : 60 บาท ถามว่าเยอะไหม ตอนนั้นเราไม่เดือดร้อนไง

คุณพ่อ คุณแม่ รู้ตอนไหนว่าลูกเป็นเด็กพิเศษ ?
ศรีหลอด : รู้ตอนคลอดเลย

ได้ไปตรวจตอนที่ไปฝากครรภ์ไหม ?
พลอย : ไม่ค่ะ เพราะอายุยังไม่ถึง แล้วตอนตั้งครรภ์ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลย ตอนคลอดพยาบาลเดินมาบอกเราว่าน้องไม่ปกตินะคะ เราคิดในใจไม่ปกติยังไง น้องเป็นเหมือนสายัณห์อะค่ะ เราก็ไม่รู้จักสายัณห์คือใคร เราก็นอนนึกแล้วก็ไม่พูดกับใครเลย

วินาทีที่เห็นลูกเป็นยังไงบ้าง ?
ศรีหลอด : หมอโทร. มาบอกว่าน้องคลอดแล้วนะ เราก็ขึ้นไป เด็กแรกเกิดเขามีรถเข็นเล็ก ๆ 5-6 คนที่วางไว้ เราก็มองว่าลูกเราคนไหน เราอึ้งเลย ใช่เหรอ เขาก็บอกว่านี่ลูกคุณ ต้องรับเขาให้ได้ ต้องเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด แต่เราจะบอกแฟน บอกพ่อแม่ยังไง 2-3 วัน ตรงนั้นมันใช้ความคิดตลอด เราจะทำยังไง จะเลี้ยงลูกยังไง เราไม่เคยเลี้ยงเด็กแบบนี้ แล้วเราเข็นลูกมาหาแฟน เพราะวันที่ 3 เขาต้องกินนมแม่ ก็กอดร้องไห้กัน เราเห็นเขาให้นมลูกน้ำตาเขาหยด ผมตั้งใจว่าเราต้องเลี้ยงเขาให้ได้ เขาเลือกที่จะเกิดมาเป็นลูกเรา เราต้องเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด เราไม่รู้ว่าเราหรือเขาจะไปก่อน แต่ตอนที่เรากับเขายังอยู่ ขอเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดแค่นั้น

ตอนที่น้ำตาหยด ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ ?
พลอย : พ่อ แม่ ทุกคนที่ตั้งท้อง ทุกคนหวังอยู่แล้วว่าลูกเกิดมาต้องสมบูรณ์ ต้องออกมาแบบน่ารัก ครบ 32 แต่พอเราฟื้นมาได้ยินพยาบาลบอกเราอย่างนี้ เราก็รับไม่ได้ เราก็เสียใจ พูดอะไรไม่ออก เราไม่รู้จะบอกแม่ตัวเองยังไง ทุกวันนี้เราไม่ได้บอกแม่ แต่แม่ก็รู้ว่าหลานไม่ปกติ

แล้วคุณพ่อ คุณแม่ ของพี่หลอด ได้บอกเขาไหม ?
ศรีหลอด : บอกครับ พอวันที่เขากินนม ผมต้องไปรับแม่ ระหว่างทางขับรถไปจะพูดกับแม่ยังไง รับเสร็จแล้วกลับมาโรงพยาบาล ผมก็เลยบอกแม่ว่าหลานไม่ปกตินะ หลานเป็นเด็กพิเศษนะ แม่ผมนิ่งไปพักหนึ่งแล้วบอกว่า ไม่เป็นไรลูก ยังไงเขาก็เป็นลูกเรา ยังไงเขาก็เป็นหลานเรา เราเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด อย่าไปทิ้งเขานะลูก ผมเหมือนยกภูเขาออกจากอก 2 ด่านที่ผมกลัวว่าเขารับไม่ได้ แต่เขารับได้ โล่งเลย ขับรถกลับมานี่ยิ้มแย้มเลย แล้วเหมือนพอกลับไปอยู่บ้านตัวเหลืองก็ต้องกลับมาโรงพยาบาล ต้องเข้าตู้อบ ต้องขอบคุณคำพูดหนึ่งที่ทำให้ผมมีมานะในการเลี้ยงลูก คือถ้าเป็นเขา เขาไม่ให้เด็กแบบนี้เกิดมาหรอก ถ้าเด็กแบบนี้เกิดมาแล้วเป็นภาระสังคม เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนแรกโกรธนะ แต่ว่าพอมาคิดผมคิดว่าเขาหวังดีกับเรา

เขาเป็นใคร ?
ศรีหลอด : เขาเป็นคนปกตินี่แหละ ความหมายของเขาคือถ้าเกิดคุณไม่อยู่ล่ะ แฟนคุณไม่อยู่ล่ะ แล้วลูกคุณจะอยู่ยังไง เขาโตมายังไง แล้วเป็นผู้หญิงด้วย ผมเข้าใจความหมายที่เขาพูด ตอนแรกโกรธ แต่พอมาคิดไม่โกรธดีกว่า เขาก็หวังดีกับเรา

พี่หลอดและภรรยาคบกันมา 16 ปี พี่หลอดเคยมีนอกใจไหม ?
พลอย : มีค่ะ คบปีแรก
ศรีหลอด : ธรรมดา ตอนที่แยกกันอยู่ไง
พลอย : ตลกอะพี่ เจ้าชู้ทุกคนหนูว่า

แล้วกลับมาดีกันได้ยังไง ?
พลอย : พ่อกับแม่เขาบอกให้เราใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุยกัน หนูจะเก็บเสื้อผ้าไปแล้ว คือเรารับไม่ได้ เยอะเกิน ตี 1-2 โทร. มา มันไม่ใช่แล้ว
ศรีหลอด : เราไปซื้อของไง แล้วเขาอยู่ในรถ โทรศัพท์มี 2 เครื่อง เครื่องงานเครื่องหนึ่ง แล้วก็เครื่องส่วนตัวเครื่องหนึ่ง เครื่องส่วนตัวเวลาเราไม่อยู่กับเขาเราจะเปิดเสียง แต่พอเราอยู่กับเขาเราเปิดสั่น แล้วเขาโทร. เข้ามาเป็นเรื่องเลย
 ศรีหลอด เชิญยิ้ม 

สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะแพ้เสน่ห์การทำอาหาร ?
ศรีหลอด : เรื่องจริงครับ นอนตื่นมาแล้วกลิ่นทำกับข้าวของเขาทำให้เราตื่น มันฉุน เขาก็มาปลุกเราอาบน้ำ กินข้าว เราก็เลยคิดว่าผู้หญิงคนนี้แหละ

แสดงว่าผ่านไป 1 ปี ไม่มีอีกเลย ?
 ศรีหลอด : หมายถึงผู้หญิงอะนะ ไม่มีเลย เฮ้ย...แต่ก็ยังพอมีอยู่ ตอนที่กินข้าวแยกกันอยู่ ยังไม่ได้ตัดสินใจอยู่บ้านเดียวกัน

มีอะไรอยากบอกภรรยาไหม ?
ศรีหลอด : รักมากที่สุด ขอบคุณที่อยู่ดูแล คอยเตือนกัน ถ้าเกิดว่าเป็นคนอื่น เราก็ไม่ได้ดัง ตังค์ก็ไม่มี ถ้าเป็นคนอื่นเขาไปแล้ว แล้วยิ่งลูกเป็นแบบนี้ด้วยนะ ผมว่าถ้าเป็นคนอื่นเขาทิ้งเรา ทิ้งลูกแล้วล่ะ สิ่งที่เขาอยากได้ ผมพยายามจะทำให้นะ แต่รอหน่อย ขอให้เราใช้หนี้ให้หมด รอหน่อยนะ แม่เขาก็อยากให้ทำ ไม่ต้องแต่งหรอก แค่ผูกข้อไม้ข้อมือ เราอยู่ด้วยกันยังไม่ได้ผูกข้อไม้ข้อมือ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่พ่อแม่เขารับรู้ว่าเรารักลูกสาวเขา

คุณพลอยรอได้ไหม ?
พลอย : ได้ค่ะ แต่อย่านาน เพราะแม่แก่แล้ว

ขอบคุณรายการ คุยแซ่บShow