เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ยิงสายตรงโฟนอินกลางรายการ หลังกล้ำกลืนฝืนทน โดน ป้ากุ้ง แฉไม่จ่ายหนี้

จากกรณีที่ทำเอาเดือดระอุไปทั้งโซเชียลอีกรอบ เมื่อทางด้าน เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น นั้นโดนออกมาขุดวีรกรรมในอดีตหลังเจ้าตัวโด่งดังจนซื้อบ้านซื้อรถป้ายแดงแต่กลับไม่ยอมจ่ายหนี้ที่เคยหยิบยืมมาเมื่อตอนลำบาก อีกทั้งทางด้านเพจ ธราวุฒิ ขุดประเด็น นั้นเตรียมขุดรอบ2หลังแหล่งข่าววงในเผยมาว่าทางด้าน แม่เกตุ นั้นยังคงติดหนี้อีกราย จนเจ้าหนี้รายดังกล่าวทนไม่ไหวเตรียมออกมาแฉ  โดยล่าสุดมีเจ้าหนี้ชื่อ “ป้ากุ้ง” โผล่มาอีกราย เรียกว่าเจอมรสุมกระหน่ำชุดใหญ่

และก่อนหน้านี้ต่อมา เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ออกมาเคลื่อนไหวว่า "หนูขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงเรื่องของหนี้สินเก่าของคุณแม่หนูนะคะ หนูขอยืนยันคำเดิมว่าหนูพร้อมเคลียร์ให้แม่..แต่ต้องเอาหลักฐานมาคุยกันก่อน หนูยอมรับว่าตัวหนูเองไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด เพราะเป็นเรื่องในอดีตของคุณแม่ ที่ผ่านมาพอหนูทราบเรื่องหนูก็พยายามที่จะเคลียร์และจ่ายหนี้ให้คุณแม่มาตลอด และตอนนี้ มีเพจนึงที่ออกมาโพสต์กรณีของป้ากุ้ง หนูก็มีการคุยกับคุณแม่แล้ว ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เก่าของแม่จริงแต่มีการเคลียร์กันกับแม่ไปนานแล้ว หนูจึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนกลับมาพูดถึงอีก

"หนูได้ติดต่อไปทางป้ากุ้ง และมีการไปหาป้ากุ้งที่บ้านแล้วแต่ติดต่อไม่ได้เลย ยังไงถ้าป้ากุ้งเห็นโพสต์นี้ รบกวนติดต่อกลับหาเจนนี่ด้วยนะคะ รวมไปถึงคนอื่นๆ ถ้าหากหนูหรือแม่เคยเป็นหนี้ใครอีก สามารถติดต่อมาได้เลยนะคะ และหนูต้องขอกราบขอบคุณทุกคนที่เคยช่วยเหลือครอบครัวของเรามาด้วยคะ ตัวหนูเองกว่าที่จะมาถึงทุกวันนี้ผ่านเรื่องราวชีวิตมามากมาย ดิ้นรนเพื่อพาแม่กับน้องให้รอด เรา3 คนแม่ลูกกอดคอกันร้องไห้นับไม่ถ้วน เรื่องราวที่หนูกำลังเผชิญอยู่มันหนัก หนักมากกว่าเด็ก25 คนนี้จะรับไหว แต่หนูจะอดทนพิสูจน์ตัวเอง อะไรที่ไม่ดี หนูจะปรับตัวใหม่และเดินในเส้นทางที่ดี ทุกคอมเมนท์หนูอ่านหมดนะคะ และขอบคุณที่ทุกท่านแนะนำตักเตือนหนู หนูจะทำให้ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ทำให้หนูเป็นหนูได้ทุกวันนี้ค่ะ" 

 

งานนี้ทำเอาสาวเจนนี่นั่งไม่ติด ซึ่งเจ้าตัวได้โฟนอินเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บShow ชี้แจงถึงปัญหาที่มะรุมมะตุ้ม พร้อมขอโทษทุกคนในสิ่งที่ตนได้ทำผิดไป

เมื่อสักครู่ตัดสินใจโพสต์ข้อความ ก่อนหน้านี้เจนนี่อยู่แบบนิ่งๆ ไม่โพสต์อะไรมาสักพักแล้ว เมื่อกี้โพสต์ข้อความอะไร?
“เป็นเรื่องของหนี้สิน คือจริงๆ เรื่องอื่นๆ ที่หนูเงียบไม่ใช่ว่าหนูจะไม่แก้ไขนะ เราก็แก้ไขแบบไม่ได้ออกสื่อ แต่ว่าเรื่องหนี้สิน ถ้าไม่ออกสื่อก็ไม่มั่นใจว่าต่อไปหนูจะจ่ายครบหมดหรือยัง เพราะว่าอย่างที่พี่ๆ ทราบเลยว่า หนูไม่ทราบว่าแม่เป็นหนี้ของใครบ้าง คือต้องยอมรับว่ามันเยอะมากๆ แล้วก็เคยหนีกันมาตลอด จนมามีชื่อเสียงก็เลยมีโอกาสได้จ่ายหนี้สิน”

ล่าสุดที่เจนนี่โพสต์มีเรื่องของป้ากุ้ง?
“เรื่องของป้ากุ้ง หนูเห็นในเพจหนึ่งที่คนกำลังแชร์อยู่ว่าคุณแม่เป็นหนี้ป้า หนูก็เลยมีการสอบถามคุณแม่ แม่บอกว่าป้ากุ้งเนี่ยคือเจ้าหนี้เก่าของแม่จริง แต่ว่าเคลียร์กันไปแล้ว ทีนี้พอเคลียร์ไปแล้ว หนูก็เลยอยากรู้ว่าทำไมถึงมีคนมาพูดถึงประเด็นนี้อีก หนูก็เลยอยากติดต่อป้ากุ้งเลยว่าหนี้สินเท่าไหร่ ที่เคลียร์ไปเท่าไหร่ แล้วป้าโอเคไหม หรือว่าป้าต้องการอะไร หนูจะได้เคลียร์ตรงนี้”

หมายความว่าเจนนี่ตามหาป้ากุ้งมาตลอด?
“ไม่ค่ะ หนูเพิ่งทราบข่าวป้ากุ้งตอนมีเพจโพสต์นี่แหละ เพราะว่าก่อนหน้านี้เรื่องของป้ากุ้งคือคุณแม่เคลียร์ไปแล้ว แต่ว่าถ้ามีคนมาพูดถึงแสดงว่าเคลียร์แบบไม่ลงตัวแน่ๆ หนูก็อยากจะคุย”

ถ้าป้ากุ้งฟังอยู่อยากบอกอะไรป้ากุ้ง?
“ส่วนตัวหนู หนูเคยอยู่บ้านใกล้ป้ากุ้ง ก็ยังเคารพป้ากุ้งเหมือนเดิม แล้วก็ขอบคุณป้ากุ้งเคยช่วยเหลือแม่ เรื่องหนี้สินตรงนี้หนูไม่ทราบรายละเอียด ถ้าป้ากุ้งดูอยู่ ถ้าคุณแม่ยังเป็นหนี้ป้าอยู่ หรือที่เคลียร์ไปไม่ลงตัว ป้าสามารถติดต่อกลับมาได้เลย หนูพร้อมจะเคลียร์ และพร้อมรับผิดชอบ”

ได้มีโอกาสคุยกับคุณแม่ไหม ว่าหนี้สินของป้ากุ้งเองมันยังมีหลงเหลืออยู่ไหม?
“ก็คือแม่บอกว่าแม่เคลียร์กับป้าแล้ว ป้าก็โอเคกับยอดเงินที่เราเคลียร์ไปแล้ว ปกติถ้าหนี้สินของคุณแม่ ถ้าหนูจ่ายก็จะเคลียร์ผ่านหนูโดยตรง หนูก็จะมีเอกสารรับเงินเรียบร้อย ในกรณีของป้ากุ้ง เป็นเพื่อนกับแม่ด้วย หนูก็ไม่ได้เป็นคนคุยเอง แล้วหนูก็อยากคุย หนูอยากรู้”

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเจ้าหนี้ที่ออกมาทีละคน เจนนี่เคลียดมากน้อยแค่ไหน?
“ตอนนี้ไม่เครียดแล้ว ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนที่ไม่มีเงินจ่ายเขา ตอนนี้อยากเคลียร์ อยากจ่ายทุกเจ้าเลย ต่อให้วันนี้หนูมีทุกอย่างแล้วก็จริง แต่ว่าหนูต้องขอเรียนตรงๆ ว่าหนูไม่รู้ว่ายังมีอีกไหม เพราะว่ายอมรับเลยมันเยอะมาก”

กรณีของป้ากุ้งเอง ป้าพยายามติดต่อ หรือเราติดต่อไปหาป้าเอง?
“หนูไม่เคยติดต่อป้ากุ้งเลยค่ะ แล้วป้ากุ้งก็ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับหนู จริงๆ บ้านเราอยู่ไม่ไกลกัน แล้วที่หนูต้องออกมาโพสต์ตรงนี้ พอเห็นในเพจหนูก็ส่งคนไปที่บ้านป้ากุ้งแล้ว อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หนูพยายามโทร.หาป้ากุ้ง คือกลัวว่าพอเป็นข่าวแล้วหนูก็เสียอีก แต่ว่าติดต่อไม่ได้ แล้วไปที่บ้านก็เจอแค่ลูกของป้า”

แล้วได้คุยอะไรกับลูกของป้ากุ้งไหม?
“คุยแค่ว่าอยากติดต่อป้ากุ้ง หนูไม่รู้ว่าลูกชายป้ากุ้งเขารู้เรื่องนี้ไหมก็เลยไม่ได้คุยรายละเอียด แต่ฝากบอกไปว่าแม่เกตุกับเจนนี่มาหา อยากคุยด้วย อยากเคลียร์”

คุณแม่ว่าอย่างไรบ้างกับเรื่องตรงนี้?
“จริงๆ เรื่องของการเป็นหนี้สิน แม่เขาขอโทษหนูมาตั้งแต่หนูยังเด็กๆ หนูไม่ได้ติดใจตรงนี้ คือหนูบอกแม่แล้วว่าวันนี้เรามีแล้ว เราก็พร้อมที่จะเคลียร์ให้กับทุกคน ไม่อยากมีปัญหากับใคร”

จากเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?
“ยอมรับเลยว่าอาทิตย์แรกที่เป็นข่าวหนูดาวน์ลงมาก ร้องไห้หนักมาก ทีนี้ได้แต่บอกตัวเองว่าถ้าเรามูฟออนเร็ว หรือเราฟื้นเร็ว เราก็จะแก้ไขได้เร็ว ถ้าหนูมัวแต่ร้องไห้ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น หนูก็เลยตัดสินใจทำผลงานต่อ แล้วก็เคลียร์ทุกอย่างที่เคยผิดพลาด เรื่องของการเซ็นสัญญา เรื่องของการคุยผลประโยชน์รายละเอียดต่างๆ ก็จะมีเอกสาร แล้วก็ศิลปินอยู่ก็เซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่ไม่สบายใจตอนนี้ก็มีแค่เรื่องหนี้สิน เพราะพยายามคุยกับแม่ว่ายังมีอีกไหม บางเจ้าหนูไม่รู้จริงๆ เพราะตอนนั้นหนูก็ยังเด็ก แต่อยากจ่ายทุกคน”

ปัญหาที่รุมเร้ามาแบบนี้เคยคิดสั้นไหม?
“ไม่เคยค่ะ ถ้าสมมติเราเป็นหนี้แล้วเราอยากฆ่าตัวตาย เราปล่อยให้เจ้าหนี้มาฆ่าดีกว่า”

อย่างเรื่องการเซ็นสัญญากับเด็กในค่ายลงตัวแล้วใช่ไหม?
“ก็วันที่หนูเป็นข่าว แน่นอนผู้ปกครองของเด็กและตัวเด็กเองก็จะมีทั้งคนที่ไม่สบายใจ แล้วคนที่พร้อมจะอยู่ก็เลยตัดสินใจว่าหนูเพิ่งเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา แล้วบอกว่าถ้าใครไม่สะดวกเซ็นไม่ต้องเซ็นได้เลย หนูไม่ว่า หนูไม่โกรธใคร เพราะว่าหนูเข้าใจเหตุผล คนเสพข่าวหลายๆ คนเขาคิดไม่เหมือนกัน ก็เลยเอาแค่คนที่พร้อมจะอยู่ ทีนี้พอถึงวันเซ็นก็นัดผู้ปกครองของทุกท่าน เพราะว่าเด็กบางคนอายุยังไม่เกิน 20 ปี ต้องมีการยินยอมจากผู้ปกครอง สรุปก็มาเซ็นทั้งหมด 20 กว่าคน ออกไป 6 คน”

ก่อนหน้านี้เจนนี่ได้ไปออกรายการหนึ่งมา ที่มีการถอดหน้ากาก แต่พอถอดเจนนี่ร้องไห้ ขอโทษในรายการ ตอนนั้นคิดอะไร?
“เป็นรายการแรกที่เป็นรายการสด และเป็นรายการแรกที่หลังเป็นข่าว คืนนั้นก่อนแข่งขัน หนูเครียดมาก เพราะว่าหนูกลัวกดดันตัวเองจนเกินไป หนูกลัวว่าคนจะมองทำไมยังออกทีวีได้ หนูคิดมากเกินไป จนวันที่หนูประกวดแล้วถอดหน้ากากมา หนูแค่รู้สึกว่าหนูดีใจที่หนูทำมันสำเร็จแล้ว แล้วบวกกับหนูอยากจะขอโทษทุกๆ คนที่ติดตาม แล้วก็ความรู้สึกที่มันเหนื่อยๆ มันก็เลยทำให้น้ำตาไหลออกมา จริงๆ ไม่อยากร้องไห้เลย อยากเข้มแข็งให้มากขึ้น แต่ว่ามันอดไม่ได้จริงๆ”

อยากบอกอะไรกับคนที่เป็นแฟนคลับหรือติดตามเราอยู่?
“หนูขอโทษสำหรับข่าวที่เกิดขึ้นทุกๆ อย่างเลย หนูยืนยันตรงนี้เลยว่าหนูจะแก้ไข แล้วทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่หนูจะทำได้ แล้วหนูขอขอบคุณพี่ๆ ผู้สื่อข่าวทุกท่าน ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ยังยืนข้างกัน ยังให้กำลังใจกัน มันทำให้หนูรู้สึกว่าหนูสู้ต่อเพื่อทุกคน ขอบคุณมากๆ”