- 15 ก.ย. 2563
ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้เคลื่อนไหวโพสต์คลิปในไอจีส่วนตัว ซื้อรองเท้าและหนังสือนิทานให้ลูกสาว น้องวีจิ
หลังจากมีข่าวออกมาว่า “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” และภรรยาสาว “ติ๊ก กนิษฐรินทร์ เทพพิทักษ์” หรือ "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" นั้นมีการหย่าร้าง แถมเปลี่ยนนามสกุลกันแล้วจริงๆ ซึ่งหลังจากมีข่าวเมาท์มอยดังกล่าวออกมา ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีการชี้แจงอะไรกับข่าว ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ มีการออกมาไลฟ์สดร่วมกันบ้าง เหมือนจะเป็นการสยบข่าวลือกลายๆ
จนกระทั่งทำเอาหลายคนถึงกับช็อกไปตามๆกัน เมื่อ หนุ่ม ศรราม ได้โชว์ใบหย่า ออกมาโพสต์ร่ายยาว ด้วยข้อความระบุว่า "เนื่องจากในระยะ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีบุคคลมาตามหาคุณติ้กที่บ้านและโทรศัพท์มาหาผมหลายครั้ง ซึ่งผมเองก้อทำงานเกือบทุกวัน จึงขอความกรุณาผู้ใดก้อตามที่ได้ทำสัญญาหรือทำธุรกรรมทางด้านการเงินหรือด้านต่างๆกับคุณติ้ก กนิษฐ์รินทร์ พัชรภักดีโชติช่วยติดต่อกับคุณติ้กโดยตรงและไม่ต้องมาที่บ้านผมกับลูก เพราะผมกับลูกไม่ทราบเรื่องใดๆทั้งสิ้น เพราะสถานภาพของเราทั้งสองได้หย่าขาดกันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยตามวัน เวลา ดังกล่าวและคุณติ้กก้อไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของผมแล้ว เราสองคนต่างทำแค่หน้าที่พ่อกับแม่ของวีจิตามข้อตกลงที่ระบุตามเอกสารที่ระบุไว้เท่านั้น ขอบพระคุณครับผม @mama.veeji @veeji_theappitak @sornramfanclub #STVeeji"
จากนั้นก็มีประเด็นดราม่าผุดมาไม่เว้นแต่ละวัน จน ติ๊ก กนิษฐ์รินทร์ หรือติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้ออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 โดย หนุ่ม กรรชัย พิธีกรถามเรื่องไปเป็นหนี้สินจนศรรามประกาศว่าหย่าขาดกันแล้ว ไม่ขอรับผิดชอบอีกแล้ว
โดยติ๊กยอมรับกลางรายการว่าเป็นหนี้จริง ไปยืมเงินคนรู้จัก 2 แสนบาท แล้วโดนทวงถามมาตลอด และยังขู่จะไปบอกนักข่าวด้วย ทำให้ต้องแอบกดเงินของศรรามไปกว่า 4 แสนบาท และยังเล่นพนันออนไลน์ เล่นบัคคาร่าเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่กลับยิ่งเป็นหนี้ และสุดท้ายเรื่องก็แดงจนศรรามประกาศหย่าขาด
จากนั้น หนุ่ม ศรราม ยอมเปิดใจสัมภาษณ์ผ่าน รายการแฉ โดยเผยว่าตอนที่อีทีเอ็มหาย ตนต้องไปแจ้งความ และต้องอายัดบัตรที่ธนาคาร ทำให้ธนาคารชี้แจงว่าเป็นคนใกล้ชิด เขาก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อน ว่าเขาไม่เกี่ยว ตนก็เข้าไปที่เจ้าหน้าที่ตร. คุยกับพนักงานสืบสวน ดูกล้องวงจรปิดเห็นว่าเป็นติ๊ก ว่า ณ เวลาไหนกดตู้ไหน แต่เส้นทางการเงิน พนักงานสืบสวนก็ให้ดูว่าเขาไปในทางพนันออนไลน์ ตนก็เลยถอนฟ้อง และขอให้ติ๊กแก้ไขและปรับปรุงตัว ถ้ามีหนี้สินเท่าไหร่ขอให้บอก ครั้งนั้นเคลียร์ให้ 7.5 แสน
เขามีปัญหาอะไรตนก็ช่วยได้ตามกำลังตลอดเวลา ช่วยตั้งแต่ก่อนแต่ง ไม่ทราบว่าเขาติดก่อนแต่งหรือเปล่า แต่ตนบอกให้เขาหยุด ปรับปรุงแก้ไข จำนวนเงินไม่เป็นไร แต่เจตนามันสำคัญ ก็เลยคิดว่าหย่า แต่ไม่อยากให้วีจิขาดใครคนใดคนหนึ่งในชีวิต เพราะลูกยังเล็ก ตนขอให้ปรับปรุงและแก้ไขมัน เขาก็บอกเรื่องหนี้ให้ทราบ ตนช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ทุกครั้งที่มีปัญหาเรื่องเงิน ตนได้แต่ฟังปัญหา แต่ไม่รู้ว่าปัญหาจริงๆ คืออะไร
หลังรู้ตอนปลายเหตุ พอมาถึงวันนี้ก็พอจะเดาได้ว่ามันไม่ได้ถูกแก้ไขและปรับปรุง ก็มีมาเรื่อยๆ จนมาถึงเรื่องหน้ากาก ตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แค่ว่ามีคนมาฟ้องติ๊ก และตนต้องช่วยเขา อีกวันเอาเช็คเงินส่วนตัวนำมาชำระคืนให้ 9 แสน เอาเงินส่วนตัวไปปิดซะเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต หลังจากนั้นก็มีปัญหาเรื่อยๆ
ปัญหามันไม่ถูกแก้ไข ระยะที่ไปรับงานเล่นคอนเสิร์ตเปิดร้านๆ นึง ตนก็เพิ่งทราบว่าเงินมัดจำติ๊กรับมาครึ่งนึง แต่ทราบจากติ๊กว่าเขาเลื่อนเงินมัดจำ พอตนโทรไปตามอีกครึ่งนึงถึงได้รู้ว่าเงินมัดจำโอนไปแล้ว
ขณะที่ตนไปถ่ายละคร มีคนมาที่บ้านทุกวัน มันไม่ปลอดภัย มีการโทรศัพท์มาทวงหนี้เยอะขึ้น ผมถึงต้องุยติความสัมพันธ์กับติ๊ก การใช้ชีวิตร่วมกันแบบนั้นไม่ได้ และเคยพูดว่าถ้าใช้หนี้ไม่พอ เอาทองไปขาย ถ้าต้องเอาเงินอนาคตวีจิไปใช้ ผมถามว่าถ้าเอาทองไปขายล่ะ เขาบอกทองขายไปหมดแล้ว ถึงแม้เขาบอกบางส่วนก็ตาม
จริงๆ ตนให้เงินเดือนติ๊กเดือนละ 3 หมื่น ไม่รวมค่ากินค่าอยู่ค่าซื้อของเครื่องใช้ในบ้าน เรื่องลูกผมรับผิดชอบ มันไม่ใช่ 300-500 บาทและผมเห็นว่าการปรับปรุงในการแก้ปัญหาจนถึงปัจจุบัน เราคงใช้ชีวิตรวมกันไม่ได้ ต่อให้ขายไปส่วนนึง แต่ทองเป็นของคนที่เขาให้เป็นน้ำใจ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพรักเท่าไหร่ คิดว่ากี่บาท พูดตรงๆ สลึงนึงก็ไม่ควรขาย ตนบอกว่าลองไปขายมั้ยแต่เขาบอกว่าไม่มีแล้ว
สิ่งที่จะบอกคือตนไม่ได้อยากออกมาพูดเรื่องส่วนตัว มันเจ็บทั้งคู เมื่อครอบครัวแตกมันพังอยู่แล้ว ตนก็แย่ ติ๊กก็แย่ แต่คนแย่ที่สุดคือลูก ณ วันนี้ติ๊กออกมาขอโทษตน สังคม วีจิ ทุกอย่างเรียบร้อย ตนขอดูการกระทำของเขาสักระยะว่ามีความปลอดภัยจริงมั้ย
หลังจาก สาวติ๊ก ให้สัมภาษณ์ไปได้ไม่นาน ก็ดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องหนี้สินของติ๊กยังไม่จบ เพราะล่าสุดมีเจ้าหนี้รายใหม่โผล่มาอีกแล้ว โดยอ้างว่าเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ที่พาติ๊กไปกู้หนี้นอกระบบ เพราะอีกฝ่ายร้องขอ เป็นจำนวนเงิน 5 หมื่น มีแชตไลน์ที่คุยกับติ๊กเพื่อยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ขณะที่ติ๊กได้ขอให้เจ้าตัวเปิดบัญชีให้ และให้ค่าตอบแทน 2 พันบาท โดยเจ้าหนี้รายนี้โพสต์หาหนุ่มถึงเฟซบุ๊กส่วนตัว วอนขอให้ช่วย ครวญที่ผ่านมาติ๊กไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ จนเจ้าหนี้บุกตามทวงหนี้ตนถึงบ้าน ทำให้ทำมาหากินไม่ได้
“วอนคุณหนุ่มช่วยพี่ด้วยค่ะ พี่กำลังแย่มากตอนนี้ พี่ขับรถวินมอเตอร์ไซค์ค่ะ รู้จักกับคุณติ๊กมานาน และคุณติ๊กมาขอร้องยืมเงินให้พี่หาคนให้กู้เงิน พี่ก็หาให้ เอาตรงๆ พี่ก็ไม่ได้มีเงินพี่คนหาเช้ากินค่ำ คุณติ๊กบอกเดี๋ยวคืนยืมไม่นานเพราะคุณติ๊กบอกเดี๋ยวได้กลับเข้าบ้านคุณหนุ่ม ถ้าได้เงินจำนวนนี้ไป ตอนนี้สิบกว่าวันแล้ว คุณติ๊กไม่จ่ายดอกเลย พี่เป็นคนกลางก็โดนเจ้าหนี้มาตามถึงบ้าน มาเฝ้าพี่ที่วินมอเตอร์ไซค์ พี่ก็ไม่กล้าไปขับวิน พี่เห็นคุณติ๊กออกรายการ 2 รายการ และวันก่อนคุณติ๊กก็บอกได้เงินจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ได้เงินมาน่าจะจ่ายตัดดอกให้พี่บ้าง เห็นใจพี่เถอะค่ะคุณหนุ่ม ถ้าไม่หมดหนทางจริงๆ พี่คงไม่ขอให้คุณหนุ่มช่วยแทนคุณติ๊ก ตอนนี้พี่มีเงินติดตัว 200 จะออกไปวิ่งวินมอเตอร์ไซค์ก็กลัวเจ้าหนี้มาดัก อยู่บ้านก็ผวาว่าเขาจะมาตาม ขอความกรุณาคุณหนุ่มช่วยพี่ด้วยนะคะ และเมื่อคืนคุณติ๊กบอกใช้บัญชีตัวเองไม่ได้ พี่เองก็ไม่เข้าใจ หรือคุณติ๊กยังเล่นอยู่ แบบนี้พี่ก็เท่ากับช่วยส่งเสริมเขา #ต้องกราบขอโทษ ถ้าทำให้คุณหนุ่มรำคาญใจ แต่พี่หาเช้ากินค่ำ ถ้าออกไปทำงานวิ่งรถไม่ได้ลูกพี่จะอยู่กินยังไง วอนเห็นใจด้วย #เห็นใจคนหาเช้ากินค่ำด้วยค่ะ”
ขณะที่หนุ่ม ศรรามได้เมนต์ตอบกลับไปว่า “ขออนุญาตเรียนตามตรงนะครับว่าผมกับคุณติ๊กได้หย่าขาดกันโดยสิ้นเชิงเป็นระยะเวลาที่นานแล้วนะครับ และตอนนี้คุณติ๊กไม่ได้พักอาศัยอยู่กับผม ผมเห็นใจที่พี่เดือดร้อนนะครับผม แต่ต้องขอความกรุณาให้ติดต่อคุณติ๊กโดยตรงนะครับผม ด้วยความเคารพ ขอยพระคุณครับผม”
โดยล่าสุด สาวติ๊ก ได้ออกมาชี้แจ้งกับประเด็นดังกล่าวว่า “จริงๆ แล้วติ๊กได้ออกมาพูดในรายการหมดทุกอย่างแล้วนะคะ แล้วก็อยากจะบอกกับพี่ๆ ว่าวันแรกที่พี่สื่อมวลชนโทรหาติ๊กเนี่ยมากกว่า 200 มิสคอล แต่ว่าติ๊กต้องขอโทษจริงๆ
ที่ให้สัมภาษณ์อะไรไม่ได้มาก หนึ่งเพราะติ๊กไม่อยากพาดพิงถึงคนอื่นซึ่งเป็นคนที่ติ๊กรักอยู่ 2 คนนะคะ เพราะฉะนั้นวันนี้ติ๊กแก้ไขเริ่มต้นใหม่ แล้วก็พร้อมที่จะปรับปรุงนิสัยของตัวเอง ไม่ว่าเจ้าหนี้คนไหนใดๆ ก็ตามที่มันเป็นเรื่องเก่าแล้ว หรือว่าเป็นช่วงเวลาที่ติ๊กออกมาขอโทษให้สัมภาษณ์หมดแล้ว”
“ในกรณีนี้ติ๊กไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเขามีแรงจูงใจอะไร ที่รู้ว่าติ๊กลงอยู่แล้วเราก็คุยกันทุกอย่าง ติ๊กช่วยเหลือเขาเรื่องเงินด้วยก้อนหนึ่ง ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่มีเงินจะใช้
อันนี้ถือว่าเจตนาคนเราคิดจะทำสิ่งใดก็แล้วแต่ เจตนามันคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
ไม่ว่าพี่เขาคนนั้นจะบอกว่าเป็นเงินของเขาเอง ซึ่งมันก็ไม่จริง เขาบอกว่าเขาเป็นคนที่ค้ำประกันติ๊ก ซึ่งมันก็ไม่จริง เพราะว่าไปดูตามบัตรประชาชนได้ว่า ติ๊กเป็นคนกู้คนเดียวเซ็นคนเดียว ถ้ามีผู้ค้ำประกัน ติ๊กเคยกู้มาแล้ว 2 รอบนะคะ ถ้ามีผู้ค้ำประกันเขาจะต้องเขียนชื่อผู้กู้ในกระดาษบัตรประชาชนอันนั้นด้วย แต่อันนี้มันไม่มีอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าเจตนาจงใจของเขาต้องการอะไร”
หมายถึงวินมอเตอร์ไซค์คนนั้นใช่ไหม?
“เมื่อกี้พี่ถามถึงใครล่ะคะ”
ทางเขาบอกว่าตอนนี้ออกไปทำงานไม่ได้เพราะว่ามีเจ้าหนี้มาทวงหนี้?
“อันนี้พูดไปแล้วนะคะก็ขอพูดแค่นี้ ถ้าจะขยายอีกอย่างก็คือวันนั้นที่ติ๊กกู้มา เขาก็กู้เหมือนกัน ถ้าเขาจะตามคงไม่ได้ต้องตามส่วนของติ๊กค่ะ เพราะว่าติ๊กกับคนที่ติ๊กกู้มาก็ยังติดต่อติ๊กได้ตลอด เพราะฉะนั้นถ้าเขาจะตาม ไปดูได้เลยว่าติ๊กโอนเงินให้ก่อนที่เขาจะโพสต์หมื่นนึง แล้ววันที่เขาโพสต์อีก 4 พัน แล้วอีกตอนนึงติ๊กโอนให้คนที่เป็นเจ้าหนี้ติ๊กอีก 4 พัน ก่อนหน้านี้ติ๊กก็โอนให้ตลอดเวลาทั้งที่ติ๊กออกข่าว ออกรายการว่าติ๊กกำลังแย่ ความรับผิดชอบติ๊กมี เพราะว่าต้องการที่จะแก้ไข เพราะฉะนั้นใครที่มีเจตนาจงใจไม่ดีกับติ๊ก ติ๊กอโหสิให้ค่ะ”
ยอดที่กู้มาคือ 50,000
“จริงค่ะ ยอด 50,000 คือรวมดอกด้วยนะคะ เพราะติ๊กกู้ 40,000 ดอกเบี้ยอีก 10,000 รวมเป็น 50,000”
ที่ผ่านมาคือจ่ายตรงทุกงวด?
“อันนี้ตอบไปแล้วนะคะ ติ๊กก็ตอบได้แค่นี้ ต้องขอโทษจริงๆ”
“ถามว่าท้อไหม วันที่กล้าออกมายอมรับ ติ๊กเชื่อว่าน้อยคนมากๆ ที่จะกล้าออกมายอมรับแบบนี้ แต่ติ๊กก็เชื่อว่าอีกมุมหนึ่งของสังคมไทยก็ยังมีใครที่ผิดพลาด เพราะไดเร็กแมสเสจของไอจีติ๊กที่เปิดช่องทางเดียวเพื่อหากำลังใจ คนส่งข้อความมาเกือบแสนคน ตอนนี้ 60,000 คน มากกว่าคนคอมเมนต์ในไอจีนะคะ หลายคนกล้าที่จะบอกเรื่องที่ตัวเองผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพนัน หลายคนได้เล่นการพนัน แต่หลายคนยกย่องในตัวติ๊กที่วันนี้กล้าหาญออกมา เขาก็กำลังหาแรงบันดาลใจเหมือนกันว่าเขาจะหลุดพ้นตรงนี้ได้ยังไง”
“เอาง่ายๆ ว่าถามว่าท้อไหม
ไม่เคยท้อค่ะ ถ้าถามลำบากไหม มันก็ลำบากเนอะ แต่ถ้าเรากลัวความลำบากเราก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้ สิ่งๆ นี้มันเกิดขึ้นในชีวิตติ๊ก ตั้งแต่เล็กจนโตติ๊กสู้มาตลอด ถามว่าลำบากไหม ท้อไหม เคยเป็นค่ะในช่วง 10 วันแรก แต่วันนี้ 16 วันแล้วที่ออกจากบ้านมา
ขอบอกเลยว่าไม่เคยท้อ ทุกวันนี้เดินออกจากบ้านมาทำงาน 1 กิโล เพราะมันไม่มีแท็กซี่เข้าไปถึงหมู่บ้านที่อยู่ ก็เดินได้ค่ะ"
รู้จักกับวินมอเตอร์ไซค์คนนั้นมานานแค่ไหน
"ติ๊กได้ตอบไปแล้วนะคะ ก็จะไม่ขอพูดอีกนะคะ"
กลัวจะลามปามมากไปกว่านี้มั้ยเรื่องของมอเตอร์ไซค์คันนี้
"ทำไมติ๊กต้องกลัวคะ เพราะในเมื่อติ๊กกู้ ติ๊กใช้ ให้ดอก 100 ละ 20 บาท ทำไมต้องกลัว ไม่กลัวค่ะ"
ทราบเหตุผลมั้ยว่าทำไมเขาถึงออกมาแฉเรา
"ติ๊กพูดได้แค่นี้นะคะ ขอโทษด้วย ไม่ขอพูดเรื่องเก่าแล้วนะคะ"
มีการติดต่อเขาไปบ้างมั้ย
"ถ้ายังถามเรื่องเก่าอยู่ต้องขออนุญาตจริงๆ เพราะว่าตอบได้แค่นี้จริงๆ ค่ะ"
คิดว่าหนี้สินทั้งหมดของเราจะเคลียร์จบยังไง
"ถ้าจะให้ตอบเป็นวันและเวลากับตอนนี้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมาอยู่ไม่อยากจะขอพูดเรื่องเดิมๆ
ถ้าทุกคนอยากจะเป็นกำลังใจให้ติ๊กก้าวต่อไปได้ แก้ไขในสิ่งผิดพลาดได้ หนูขอความกรุณาและความเห็นใจ (เสียงสั่น) เพราะว่าหนูเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง (ร้องไห้) เพราะฉะนั้นติ๊กอยากได้กำลังใจ ไม่อยากได้คำถามที่เจ็บปวด เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าจะมูฟออนไปยังไงน่าจะดีกว่า”
“เอาจริงๆ จากใจนะคะ ติ๊กก็เป็นผู้หญิงกล้าคนนึงที่สามารถกล้าพูดทุกอย่างได้ แต่ติ๊กก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่มีความรู้สึกนึกคิดตรงกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะฉะนั้นติ๊กเคารพความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก ถ้าวันนึงติ๊กแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว พี่ๆ นักข่าวอยากถามอะไรถามได้หมดเลยนะคะ ไม่ปิดบังอยู่แล้ว เพราะวันนี้ที่ออกมาก็ไม่คิดจะโกหก ติ๊กอยากจะพูดความจริงหมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ที่จะก้าวไปข้างหน้าคือลูกค่ะ อะไรที่พูดได้ อะไรที่พูดไม่ได้ อะไรที่ออกรายการได้ อะไรที่ออกรายการไม่ได้ อะไรที่หารายได้ได้ อะไรที่หารายได้ไม่ได้ ทุกอย่างมันถูกตีกรอบไว้ในภาพที่ถูกต้อง ในภาพที่ไม่เอาตัวเองไปคลุมเครือในสิ่งที่ไม่ดี”
“เพราะฉะนั้นสิ่งที่พี่หนุ่มและลูกกำลังรอดูอยู่คือการแก้ปัญหาในสิ่งที่ถูกต้อง กลับตัวเองเป็นคนใหม่ เดินทางที่ถูก เพราะฉะนั้นหนี้ทุกอย่างจะใช้เคลียร์เมื่อไหร่ หนี้ทุกอย่างถูกแบ่งเงินก้อนนึงที่ออกรายการหรือว่างานจากอันอื่นที่แบ่งก้อนนึงให้กับคนหลายๆคนทีละเล็กๆ ทุกครั้ง แม้แต่ตัวเองจะลำบากก็ไม่เป็นไร"
ต่อมาทางด้าน ศรราม ก็ได้ออกมาโพสต์คลิปกับลูกสาว หลังอดีตภรรยา ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้ออกมาสัมภาษณ์ล่าสุด พร้อมข้อความระบุว่า "ผมกับลูกกราบขอบพระคุณทุกๆกำลังใจครับผม ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้รับโทรศัพท์เลย ถ้าใครที่อยากจะติดต่องาน สามารถฝากข้อความทาง SMS หรือ DM มาใน IG ได้นะครับ เด๋วผมติดต่อกลับนะครับผม จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับผม ด้วยความเคารพ ขอบพระคุณครับผม #ซามูไรพ่อลูกอ่อน#การกระทำสำคัญกว่าคำพูด#ติดดินแต่บินได้#STVeeji#saveveeji @veeji_theappitak @sornramfanclub"
อย่างไรก็ตามล่าสุด ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้เคลื่อนไหวโพสต์คลิปในไอจีส่วนตัว ซื้อรองเท้าและหนังสือนิทานให้ลูกสาว น้องวีจิ ด้วยข้อความระบุว่า
"@veeji_theappitak @sornram_theappitak
วีจิจ๋า... แม่ขออนุญาตซื้อรองเท้า.. กับหนังสือนิทานให้หนูนะคะ
แม่แบ่งเงินคืนพี่ๆเจ้าหนี้เรียบร้อยตามกำหนดบางคน
เหลือตังค์ไว้กินข้าวนิดหน่อยกับค่ารถ
แต่แม่จะลดค่ากินลงซื้อของให้หนูในช่วงวัยนี้ เพราะมีพี่ๆแนะนำมาว่า
ตอนนี้พัฒนาการวัย1ขวบ5เดือนวีจิควรมีรองเท้าที่ดีเพื่อนสรีระเท้าในการเดินจะได้สวยและมั่นคง
ลูกของแม่จะได้เดินตรงๆมั่นคงและสง่างาม และก็ควรใกล้ชิดกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยการอ่านหนังสือนิทานหรือสมุดภาพ.... เพื่อสร้างการจดจำทางสายตาและการอ่านออกเสียง
วีจิของแม่จะอ่านและพูดตามสิ่งที่ดู
แม่เชื่อว่าคุณพ่อของหนูจะทำหน้าที่นี้ใช้แทนได้ดี... แม่จะฝากไปแทนหัวใจของแม่นะคะ
#วีจิอย่าลืมแม่นะ#รักวีจิเสมอ
#พี่หนุ่มเป็นพ่อที่ดีห่วงเรื่องความปลอดภัยให้ลูกให้แม่บทเรียนนี้ลงโทษแม่สมควรแล้วค่ะ"
ซึ่งงานนี้มีชาวเน็ตให้กำลังใจและแห่คอมเม้นต์วิจารณ์เช่นเคย
ภาพ mama.veeji