- 19 ก.ย. 2563
ล่าสุด ศรราม เทพพิทักษ์ ได้ควงลูกสาว น้องวีจิ มาร่วมงานงานอีเว้นท์เปิดสาขาใหม่ เบบี้ ฮิลล์ เมกา บางนา ที่ศูนย์การค้าเมกา บางนา ในสภาพปาดเหงื่อ ที่ด้วยความน่ารักของลูกสาว ทำเอาคนเป็นพ่อหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว
หลังจากมีข่าวออกมาว่า “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” และภรรยาสาว “ติ๊ก กนิษฐรินทร์ เทพพิทักษ์” หรือ "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" นั้นมีการหย่าร้าง แถมเปลี่ยนนามสกุลกันแล้วจริงๆ ซึ่งหลังจากมีข่าวเมาท์มอยดังกล่าวออกมา ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีการชี้แจงอะไรกับข่าว ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ มีการออกมาไลฟ์สดร่วมกันบ้าง เหมือนจะเป็นการสยบข่าวลือกลายๆ
จนกระทั่งทำเอาหลายคนถึงกับช็อกไปตามๆกัน เมื่อ หนุ่ม ศรราม ได้โชว์ใบหย่า ออกมาโพสต์ร่ายยาว ด้วยข้อความระบุว่า "เนื่องจากในระยะ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีบุคคลมาตามหาคุณติ้กที่บ้านและโทรศัพท์มาหาผมหลายครั้ง ซึ่งผมเองก้อทำงานเกือบทุกวัน จึงขอความกรุณาผู้ใดก้อตามที่ได้ทำสัญญาหรือทำธุรกรรมทางด้านการเงินหรือด้านต่างๆกับคุณติ้ก กนิษฐ์รินทร์ พัชรภักดีโชติช่วยติดต่อกับคุณติ้กโดยตรงและไม่ต้องมาที่บ้านผมกับลูก เพราะผมกับลูกไม่ทราบเรื่องใดๆทั้งสิ้น เพราะสถานภาพของเราทั้งสองได้หย่าขาดกันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยตามวัน เวลา ดังกล่าวและคุณติ้กก้อไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของผมแล้ว เราสองคนต่างทำแค่หน้าที่พ่อกับแม่ของวีจิตามข้อตกลงที่ระบุตามเอกสารที่ระบุไว้เท่านั้น ขอบพระคุณครับผม @mama.veeji @veeji_theappitak @sornramfanclub #STVeeji"
จากนั้นก็มีประเด็นดราม่าผุดมาไม่เว้นแต่ละวัน จน ติ๊ก กนิษฐ์รินทร์ หรือติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้ออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 โดย หนุ่ม กรรชัย พิธีกรถามเรื่องไปเป็นหนี้สินจนศรรามประกาศว่าหย่าขาดกันแล้ว ไม่ขอรับผิดชอบอีกแล้ว
โดยติ๊กยอมรับกลางรายการว่าเป็นหนี้จริง ไปยืมเงินคนรู้จัก 2 แสนบาท แล้วโดนทวงถามมาตลอด และยังขู่จะไปบอกนักข่าวด้วย ทำให้ต้องแอบกดเงินของศรรามไปกว่า 4 แสนบาท และยังเล่นพนันออนไลน์ เล่นบัคคาร่าเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่กลับยิ่งเป็นหนี้ และสุดท้ายเรื่องก็แดงจนศรรามประกาศหย่าขาด
จากนั้น หนุ่ม ศรราม ยอมเปิดใจสัมภาษณ์ผ่าน รายการแฉ โดยเผยว่าตอนที่อีทีเอ็มหาย ตนต้องไปแจ้งความ และต้องอายัดบัตรที่ธนาคาร ทำให้ธนาคารชี้แจงว่าเป็นคนใกล้ชิด เขาก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อน ว่าเขาไม่เกี่ยว ตนก็เข้าไปที่เจ้าหน้าที่ตร. คุยกับพนักงานสืบสวน ดูกล้องวงจรปิดเห็นว่าเป็นติ๊ก ว่า ณ เวลาไหนกดตู้ไหน แต่เส้นทางการเงิน พนักงานสืบสวนก็ให้ดูว่าเขาไปในทางพนันออนไลน์ ตนก็เลยถอนฟ้อง และขอให้ติ๊กแก้ไขและปรับปรุงตัว ถ้ามีหนี้สินเท่าไหร่ขอให้บอก ครั้งนั้นเคลียร์ให้ 7.5 แสน
หลังจาก สาวติ๊ก ให้สัมภาษณ์ไปได้ไม่นาน ก็ดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องหนี้สินของติ๊กยังไม่จบ เพราะล่าสุดมีเจ้าหนี้รายใหม่โผล่มาอีกแล้ว โดยอ้างว่าเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ที่พาติ๊กไปกู้หนี้นอกระบบ เพราะอีกฝ่ายร้องขอ เป็นจำนวนเงิน 5 หมื่น มีแชตไลน์ที่คุยกับติ๊กเพื่อยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ขณะที่ติ๊กได้ขอให้เจ้าตัวเปิดบัญชีให้ และให้ค่าตอบแทน 2 พันบาท โดยเจ้าหนี้รายนี้โพสต์หาหนุ่มถึงเฟซบุ๊กส่วนตัว วอนขอให้ช่วย ครวญที่ผ่านมาติ๊กไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ จนเจ้าหนี้บุกตามทวงหนี้ตนถึงบ้าน ทำให้ทำมาหากินไม่ได้
ขณะที่หนุ่ม ศรรามได้เมนต์ตอบกลับไปว่า “ขออนุญาตเรียนตามตรงนะครับว่าผมกับคุณติ๊กได้หย่าขาดกันโดยสิ้นเชิงเป็นระยะเวลาที่นานแล้วนะครับ และตอนนี้คุณติ๊กไม่ได้พักอาศัยอยู่กับผม ผมเห็นใจที่พี่เดือดร้อนนะครับผม แต่ต้องขอความกรุณาให้ติดต่อคุณติ๊กโดยตรงนะครับผม ด้วยความเคารพ ขอยพระคุณครับผม”
โดย สาวติ๊ก ได้ออกมาชี้แจ้งกับประเด็นดังกล่าวว่า “จริงๆ แล้วติ๊กได้ออกมาพูดในรายการหมดทุกอย่างแล้วนะคะ แล้วก็อยากจะบอกกับพี่ๆ ว่าวันแรกที่พี่สื่อมวลชนโทรหาติ๊กเนี่ยมากกว่า 200 มิสคอล แต่ว่าติ๊กต้องขอโทษจริงๆ
ที่ให้สัมภาษณ์อะไรไม่ได้มาก หนึ่งเพราะติ๊กไม่อยากพาดพิงถึงคนอื่นซึ่งเป็นคนที่ติ๊กรักอยู่ 2 คนนะคะ เพราะฉะนั้นวันนี้ติ๊กแก้ไขเริ่มต้นใหม่ แล้วก็พร้อมที่จะปรับปรุงนิสัยของตัวเอง ไม่ว่าเจ้าหนี้คนไหนใดๆ ก็ตามที่มันเป็นเรื่องเก่าแล้ว หรือว่าเป็นช่วงเวลาที่ติ๊กออกมาขอโทษให้สัมภาษณ์หมดแล้ว”
“ในกรณีนี้ติ๊กไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเขามีแรงจูงใจอะไร ที่รู้ว่าติ๊กลงอยู่แล้วเราก็คุยกันทุกอย่าง ติ๊กช่วยเหลือเขาเรื่องเงินด้วยก้อนหนึ่ง ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่มีเงินจะใช้
อันนี้ถือว่าเจตนาคนเราคิดจะทำสิ่งใดก็แล้วแต่ เจตนามันคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
ไม่ว่าพี่เขาคนนั้นจะบอกว่าเป็นเงินของเขาเอง ซึ่งมันก็ไม่จริง เขาบอกว่าเขาเป็นคนที่ค้ำประกันติ๊ก ซึ่งมันก็ไม่จริง เพราะว่าไปดูตามบัตรประชาชนได้ว่า ติ๊กเป็นคนกู้คนเดียวเซ็นคนเดียว ถ้ามีผู้ค้ำประกัน ติ๊กเคยกู้มาแล้ว 2 รอบนะคะ ถ้ามีผู้ค้ำประกันเขาจะต้องเขียนชื่อผู้กู้ในกระดาษบัตรประชาชนอันนั้นด้วย แต่อันนี้มันไม่มีอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าเจตนาจงใจของเขาต้องการอะไร”
จากนั้น สาวติ๊ก ได้ออกมาไลฟ์สดร่ำไห้ในช่วงเช้านานหลายชั่วโมง ซึ่งได้ออกมาขอบคุณทุกกำลังใจ จากหลังบ้านที่ได้เรกเข้ามาให้กำลังใจนานกว่า7หมื่นข้อความ พร้อมทั้งเร็วๆนี้ จะทำยูทูปขึ้น เพื่อหวังให้ในอนาคต ลูกสาวน้องวีจิได้เห็นถึงความพยายามของคนเป็นแม่ ที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกอย่างสุดความสามารถ พร้อมในช่วงสุดท้ายก็ได้ตัดพ้อถึงสามี ศรราม ว่ายังรักอยู่ หวังอยากให้หลับมาเหมือนเดิม แต่คงเป็นไปไม่ได้ และพูดซ้ำๆอยากเจอลูกสาว น้องวีจิ ที่เธอออกมาพูดทางไลฟ์ก้เพราะเป็นทางเดียวที่สามารถติดต่อกับ อดีตสามี หนุ่ม ศรราม ได้เท่านั้น ถามในส่วนของงานตอนนี้เธอก็รับงานรีวิว พรีเซ็นเตอร์ ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ หลังจากเจอมรสุมลูกใหญ่ที่กลายเป็ยบทเรียนไปตลอดชีวิต
ซึ่งล่าสุด ศรราม เทพพิทักษ์ ได้ควงลูกสาว น้องวีจิ มาร่วมงานงานอีเว้นท์เปิดสาขาใหม่ เบบี้ ฮิลล์ เมกา บางนา ที่ศูนย์การค้าเมกา บางนา ในสภาพปาดเหงื่อ ที่ด้วยความน่ารักของลูกสาว ทำเอาคนเป็นพ่อหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ศรราม ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์“คือมันเป็นสถานที่ที่สามารถมีพื้นที่ให้เดินเล่นได้ผมมีแค่ 2 ฉาก ถ่ายเสร็จก็พาไปทานข้าวต่อก็ได้ใช้เวลาอยู่กับลูก (เปลี่ยนเป็นชีวิตคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว?) เป็นชีวิตปกติครับตั้งแต่มีลูกก็เป็นแบบนี้ไปแล้วทำงานเสร็จก็กลับไปดูลูกแต่ก็ไม่ได้เอาลูกไปไหนมาไหนด้วยตลอดเราก็ต้องมีเวลาของเราบ้าง”
“อย่างเช่นผมไปทำงานไปคุยงานหรือเวลาพักของผมก็มีบ้างอาจจะให้พี่เลี้ยงคอยดูถ้าผมมีเวลาก็จะอยู่กับเขาที่บ้านตอนเช้าก็เจอกันก่อนผมออกมาทำงานส่วนใหญ่ก็ต้องทำงานเกือบทุกวันพัฒนาการของน้องตอนนี้ก็เป็นไปตามวัยเริ่มพูดแล้วเริ่มเรียกปาป๊าหม่ำหม่ำตอบว่าวีจิจ๋าก็เริ่มตอบว่าว่าจ๊ะได้แล้วเริ่มเล้นแฟลชการ์ด”
“กับปัญหาที่เกิดทุกๆ เรื่องมันเป็นปัญหาที่หนักและเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตผมกับลูกแต่ละเรื่องมันเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้มีความปรารถนาให้เกิดขึ้นในชีวิตผมผมพยายามแก้ไขประคับประคองทุกๆ เรื่องอย่างที่สุด จนสุดท้ายปัญหามันไม่จบผลลัพธ์ก็เลยต้องออกมาแบบนี้ซึ่งปัญหามันเกิดจากอะไรทุกๆ เรื่องมันเกิดเพราะอะไร ผมเชื่อว่ามันมีคำตอบในตัวของอยู่แล้วผมเองก็ทุกข์ไม่ได้มีความในทุกๆ วัน”
“เพราะฉะนั้นสิ่งที่กำลังจะบอกความรู้สึกบอกกับทุกคนคือว่าเราต้องเอาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาเป็นเหตุผลเพื่อรองรับการตัดสินใจเราไม่สามารถเอาแม้กระทั่งความสุขของตัวเรามาตัดสินใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้เพราะฉะนั้นต้องขอนุญาตกับความคิดเห็นหรือว่ากระแสสังคมอื่นๆ ต้องขออนุญาตขอไว้เพราะเรื่องนี้เราต้องใช้ข้อเท็จจริงเป็นหลักมีวีจิเป็นตัวตั้งวีจิต้องสำคัญที่สุดเพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมปฏิบัติวันนี้มันจะต้องเป็นผลดีของลูกมากที่สุดหรือกระทบต่อความรู้สึกของลูกน้อยที่สุดในวันนี้ในวันข้างหน้าและอนาคตของลูก”
ไม่กีดกัน ติ๊ก เจอลูกสาว?
“ในส่วนของแม่เขาเรื่องที่ติ๊กจะมาพบลูกผมไม่ได้กีดกันแต่ผมไม่ว่างจริงๆ ชีวิตต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เริ่มต้นใหม่ ผมต้องทำงานใช้หนี้ ต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บให้ลูกดูแลคุณแม่ที่แก่แล้ว ผมก็เลยมีความจำเป็นต้องให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายประสานกับเขาว่าเราจะมีแนวทางที่จะมาพบลูกอย่างไร”
“ก็ต้องมาคุยกันครับเขาก็ประสานมาแล้วเดี๋ยวดูวันว่างที่ผมไม่ทำงานก็คงมีโอกาสมาเจอและคุยกันว่าแนวทางไหนที่เราจะสามารถทำหน้าที่เป็นพ่อและแม่เพื่อวีจิดีที่สุดครับผมสามารถเจอกับติ๊กได้ไม่ได้ติดใจอะไร (พอบอกได้ไหมว่าหนี้อะไร?)ตรงนี้ขอขออนุญาติไม่ตอบนะครับขอบคุณครับ (ไหว้)กับกำลังใจที่ให้ผมติ๊กวีจิและครอบครัวเราทุกๆคนนะครับ (ไหว้)”
ตัดสินใจเด็ดขาดไม่ขอกลับมาเป็นสามีภรรยากับ ติ๊ก
“คงไม่ได้ครับ (ตัดสินใจเด็ดขาดว่าไม่ได้?)ครับเพราะผมก็ได้แสดงเรื่องเอกสารที่ชัดเจนระบุไว้อยู่แล้วตั้งแต่ 20 มกราคม 2563 (ให้อภัยเขาในสิ่งที่ผิดพลาดได้ไหม?) ผมไม่พูดถึงอยู่ครับเรื่องครอบครัวก็ให้ทนายเป็นคนประสานครับเพราะอย่างที่ผมบอกว่าผมเองก็ไม่ว่างถ่ายละครและทำงานเกือบทุกวันที่ประสานคือเป็นการตกลงกันเฉยๆไม่ได้เป็นเรื่องคดีความประสานลักษณะเรื่องของการเจอลูกผมว่างวันไหนยังไง”
รอคุยกับ “ติ๊ก” เพื่อแบ่งเวลาช่วยกันเลี้ยงลูก?
“ตรงนี้ยังหาข้อสรุปกันไม่ได้ติ๊กประสานมาเราก็ระบุวันแวลาที่เราจะมาเจอกันได้แล้วเดี๋ยวเราก็ค่อยมาคุยกันว่าลักษณะที่จะมาดูลูกเป็นยังไงตอนนี้ติ๊กกับผมผมก็โพสต์ลงไอจีสตอรี่ไปแล้ว่าได้มีการคุยกับผมก็บอกให้เจอลูกได้แต่ก็ให้ติดต่อทางพี่ที่ให้ประสานมาแต่ยังไม่ได้เจอครับผมยังไม่มีเวลาเจอครับ”
ไม่ขอเรียกตัวเองว่าพ่อเลี้ยงเดี่ยวแต่ขอเป็นซามึไรพ่อลูกอ่อนดีกว่า?
“(หัวเราะ) ใช้คำว่าซามูไรพ่อลูกอ่อนดีกว่าครับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวน่าจะใช้กันเยอะแล้วถามว่าเหนื่อยไหมทุกสิ่งทุกอย่างมันจะต้องไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดของเรามันจะต้องเป็นสิ่งที่เอาเขาเป็นที่ตั้งที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นเราต้องปรับตามเขาเราต้องทำเพื่อเขาผมต้องเลี้ยงวีจิจนโตครับตั้งแต่เริ่มมีเขาเราก็มีสัญชาตญาณของความเป็นพ่อครับ”