- 10 ต.ค. 2563
ล่าสุด ทนายประมาณ ได้ไลฟ์สดอีกครั้ง พร้อมเผยว่าตอนนี้ทัวร์ลงหนักมาก ยันไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน เพราะไม่ได้มีส่วนได้เสีย แต่ที่มารับทำคดีให้ซาร่าเพราะเห็นใจที่อีกฝ่ายไม่มีที่ยืนในสังคม
ยังเป็นประเด็นที่ทุกหลายคนจับตามอง หลังจากที่ ซาร่า คาซิงกินี ได้ไปเปิดใจในรายการ โหนกระแส พูดถึงสาเหตุที่ไม่ยอมให้ ไมค์ พิรัชต์ ได้มีสิทธิ์ปกครองลูกร่วมกัน เนื่องจากอีกฝ่ายจะขอลดคุณภาพชีวิตของลูกลง ในสถาณการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา จนเกิดความไม่ตรงกันของทั้ง2ฝ่าย แถมเคยถูกไล่ออกจากคอนโด สุดท้ายกับหอบลูกกลับไปอยู่ภูเก็ตบ้านเกิด ต่อมาทางด้าน ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ซึ่งหลังจากที่ไมค์ตัดสินใจยื่นฟ้องอดีตคนรัก ซาร่า คาซิงกินี เพื่อขอสิทธิ์ดูแล น้องแม็กซ์เวลล์ ลูกชาย ในฐานะผู้ปกครองร่วมกัน ด้วยน้ำตาซึม
และแล้วจากข่าวลือตั้งท้อง “ซาร่า คาซิงกินี” ได้เปิดใจแล้วว่า เป็นเรื่องจริง พร้อมเผยโฉมลูกสาววัย 2 เดือน น้องเอมมิลี่ ลั่นข่าวเมาท์เลิกกับแฟนหนุ่ม วาดิม นายแบบชาวรัสเซียไม่จริง งัดแชทหลักฐานถูกแฟนหนุ่มขอแต่ง แต่เลื่อนเพราะโควิด โดยล่าสุด "ซาร่า" เผยเรื่องครอบครัวใหม่ว่า "เรายังคบกันปกติค่ะ ไม่ได้เลิกราตามข่าวลือที่ออกไป เราเป็นครอบครัวกันค่ะ เราแพลนแต่งงาน ก.พ. ที่ผ่านมาแต่เพราะสถานการณ์โควิดทำให้ทุกอย่างเลื่อนออกไป เขาติดทำงานอยู่ต่างประเทศด้วยสัญญาและอื่นๆ น่าจะปีหน้าที่แฟนกลับมาไทย"
ถ้าแต่งงานแล้วจะย้ายตามไปต่างประเทศไหม?
"ด้วยความที่เขาทำงานต้องย้ายหลายประเทศ สัญญาจ้างงาน 3 เดือน แล้วก็ย้ายที่ไปเรื่อยๆ จึงคิดว่า ซาร่าอยู่ไทยดีกว่า ตัวแฟนเขาก็อยากจะได้อยู่กับลูกตลอดเวลา แต่คงไม่สะดวก เราก็อธิบายให้เขาฟังว่า พ่อไปทำงาน ลูกจะเข้าใจเหมือนที่แม็กซ์เวลล์เข้าใจ ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร
ถามว่าเหนื่อยไหม มีลูกอีกคน "จริงๆ ซาร่าอยากมีน้องให้แม็กซ์เวลล์มาตลอด ถ้าไม่มีข่าวฟ้องร้องนี้ เราก็ใช้ชีวิตปกติ"
จากนั้นไม่นาน ไมค์ พิรัชต์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวว่า “วันนี้ผมตัดสินใจที่จะถอนคำร้องสิทธิ์ในการปกครองบุตรร่วมแล้วครับ เจตนาที่ขอไปตอนแรกเพียงเพราะไม่อยากจะเป็นแค่พ่อที่จ่ายเงินอย่างเดียว แต่อยากมีสิทธิ์ร่วมในการตัดสินใจเรื่องต่างๆในชีวิตลูก และที่สำคัญก็แค่อยากจะมีโอกาสพบปะลูกได้ตามปกติเหมือนคนทั่วๆไป แต่เหมือนเรื่องราวก็ยืดเยื้อและส่งผลกระทบหลายฝ่ายโดยเฉพาะลูกของผม
ผมสงสารลูกครับที่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ทั้งที่มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ในเมื่อทางฝ่ายคุณแม่ของน้องเลือกที่เรียนเอง และตัดสินใจกับครอบครัวของเขาเอง โดยไม่ปรึกษาผม ผมก็ไม่ขอก้าวก่ายและเคารพการตัดสินใจของพวกเขา
วันนี้ผมขอเก็บเงินเข้าบัญชีของลูกผมเองนะครับ และจะมอบให้ลูกใน วันที่ลูกบรรลุนิติภาวะ ผมอยากให้ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหามาไปถึงลูกชายเพียงคนเดียวของผมครับ ตอนนี้ขอให้ทุกเรื่องจบเถอะนะครับ ลูกคงเจ็บปวดถ้าโตมาแล้วต้องเห็นข่าวอะไรพวกนี้ สิ่งที่daddyตัดสินใจทำในวันนี้ ได้แต่หวังว่าMaxจะเข้าใจเมื่อโตขึ้น daddyไม่ได้ปล่อยมือและจะไม่มีวันปล่อยมือของMax แค่วันนี้ที่เราอาจไม่ได้เจอกันแต่daddyยังย้ำคำเดิม ที่ตรงนี้เป็นของพี่Maxเสมอและตลอดไป”
ขณะที่ทางด้านของ ทนายประมาณ ทนายฟากฝั่ง ของสาว ซาร่า ได้โพสต์ข้อความเคลื่อนไหวเรื่องของคดีดังกล่าว พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า ผมให้เสมียนทนายไปตรวจสำนวนคดีร้องขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายพิรัชต์-นางสาวซาร่า ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางยังไม่ปรากฎว่าฝ่ายชายได้ไปยื่นคำร้อง ขอถอนคำร้องขอเป็นบิดา โดยชอบด้วยกฎหมายและขอใช้อำนาจปกครองร่วม ตามที่เจ้าตัวโพสและมีข่าว
ต่อมาทางด้าน นายประมาณ ยังได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเพจของตนเองอีกครั้งโดยพูดถึงกรณีที่ ไมค์ พิรัชต์ จะเก็บเงินให้ลูกเข้าบัญชีเอง และจะมอบให้ลูกตอนบรรลุนิติภาวะ ฟังดูดี แต่ถ้าน้องโตมาเห็นเหตุการณ์นี้จะรู้สึกอย่างไร
"วันนี้ผมขอเก็บเงินเข้าบัญชีของลูกผมเองนะครับ และจะมอบให้ลูกในวันที่ลูกบรรลุนิติภาวะ" ฟังแล้วดูดีครับ แต่มีใครคิดบ้างหรือไม่ วันหนึ่งน้องโตขึ้นมา อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บรรลุนิติภาวะแล้ว น้องมาเห็นเหตุการณ์นี้ น้องจะคิดอย่างไร พ่อ .... มาร้องขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายและขอใช้อำนาจปกครองบุตรร่วม จนทำให้เกิดประเด็นต่างๆมากมายในสังคม
แม่ .... คัดค้านพร้อมข้อเรียกร้องให้ลูก 6 ข้อ ต่อมาแจ้งยินดีให้รับรองบุตรเป็นบิดา แต่ขออำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ด้วยเหตุผลที่ว่าแม่อยู่กับลูกมาตลอด 6 ปี รู้จักลูกเป็นอย่างดี และพ่อไม่ค่อยมีเวลา >>> ต่อมา พ่อ ถอนคำร้องไม่รับรองบุตรและปกครองร่วม
เมื่อลูกอายุครบ 20 ปี ลูกจะคิดหรือไม่ครับ ว่าที่ผ่านมา 14 ปี ทำไมพ่อไม่เลี้ยงดูอุปการะผมในวันที่ผมต้องได้รับการศึกษา ทำไมถึงนำเงินมาให้ผมในวันที่ผมอายุ 20 ปี โตพอที่จะทำมาหากินเองได้แล้ว
นี่พ่อไม่ให้การศึกษาผม เพียงเพราะพ่อโกรธแม่ที่มีน้องอีกคนที่ผมรักยิ่งหรือป่าว... ที่พ่อถอนคำร้องไม่รับผมเป็นบุตรนี่พ่อทำเพื่อผมจริงๆ หรือเพื่อเอาชนะแม่กันแน่ฝากไว้ให้คิดนะครับ อย่าเพิ่งเอามันส์เข้าว่า สมน้ำหน้าฝ่ายหญิง ขอให้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสมใจ เพราะเรื่องนี้กระทบกับเด็กน้อยโดยตรง อย่าเอาความสะใจของเราไปทำร้ายเด็กเลยครับ อยากให้มองข้ามความโกรธและคิดเพื่อประโยชน์ของเด็กจริงๆ#ดีที่สุดสำหรับเด็กคือพ่อต้องรับรองบุตร #ดีที่สุดสำหรับเด็กคือพ่อต้องไม่ถอนคำร้อง #เพราะยื่นเข้ามาแล้ว #มีอีกหลายวิธีที่สามารถอุปการะลูกได้โดยไม่ผ่านแม่ #หรือไม่อยากอุปการะตอนนี้เพราะเศรษฐกิจก็พูดกันตรงๆ #รออีก14ปีค่อยอุปการะตอนที่ลูกโตแล้ว #นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ลูกควรอยู่กับแม่เพราะแม่จะไม่มีวันทอดทิ้งลูกแบบนี้ #อย่าทอดทิ้งลูกเพียงเพราะโกรธแม่ #ซาร่าคาซิงกินี #ไมค์พิรัชต์"
ล่าสุด ทนายประมาณ ได้ไลฟ์สดอีกครั้ง พร้อมเผยว่าตอนนี้ทัวร์ลงหนักมาก ยันไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน เพราะไม่ได้มีส่วนได้เสีย แต่ที่มารับทำคดีให้ซาร่าเพราะเห็นใจที่อีกฝ่ายไม่มีที่ยืนในสังคม
"ทัวร์ลงมาก คนคอมเมนต์แรงๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ขอให้ใจเป็นกลาง รับผิดชอบทุกความเห็น วันนี้สังคมโหมกระหน่ำจนผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างซาร่าแทบไม่มีที่ยืน ใครก็มองเป็นคนไม่ดี ทุกท่านเสพข่าวจากสื่อ เรื่องซาร่าที่มาหารือ ผมเสพข่าวทั้งหมดจากพยานหลักฐาน และจากปากน้องซาร่า เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงจำเป็นต้องซักไซร้โดยละเอียด เจาะหาที่มาที่ไป วันนี้ซาร่าน่าสงสารจริงๆ โดนกระหน่ำจนไม่มีที่ยืน ผมเห็นพยานหลักฐานต่างๆ ถ้าไม่ยื่นมือมาให้ซาร่าได้มีโอกาสชี้แจง ผมก็หมดราคาของการเป็นนักกฎหมาย
ทำไมต้องแก้ไขคำคัดค้านทั้งหมด ตรวจสอบแล้ว เขาต้องเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย การที่น้องไมค์ ขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ยกนิ้วให้เลย แต่พอน้องซาร่าแถลงข่าววันที่ 6 น้องไมค์ก็ถอนคำร้อง กลายเป็นบิดานอกกฎหมายเหมือนเดิม ถามว่าเกิดประโยชน์กับลูกไหม ผมเป็นทนายไม่ได้มีส่วนได้เสีย เป็นนักกฎหมาย เรียนกฎหมายเพื่อระงับข้อพิพาท ให้มันแฮปปี้เอนดิ้ง จบด้วยดี
ทัวร์ลงผมว่าผมต่างๆ นานา โปรดระมัดระวังหน่อย อย่าคิดว่ามีคีย์บอร์ดในมือแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ อยากให้คนเห็นคลิปนี้ ค่อยๆ พิจารณาข้อเสนอทีละขั้นทีละตอน เราจะร่วมมือกันให้ครอบครัวเขากลับมาสู่ภาวะปกติ จริงๆ คดีครอบครัวไม่ใช่เรื่องใหญ่ คุยกันได้ คุยในศาลได้ แม้แต่การใช้อำนาจปกครองก็สามารถคุยได้ ตกลงได้หมด ทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของลูกทั้งหมด กระแสสังคมเพลาๆ ลงหน่อย ขอร้องเถอะ ผมไม่มีเจตนาเข้าข้างใคร เพราะไม่มีส่วนได้เสีย
ฝากถึงสื่อมวลชน สื่อบางรายเอาซาร่าเป็นเครื่องมือในการสร้างกระแส ขอให้เพลาๆ หน่อย และตั้งสติหน่อย เราแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อย่าเอาแต่มันส์เข้าว่า อย่าด่าอย่างเดียว หวังว่าทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี"
นอกจากนี้ยังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า...
ก่อนอื่นผมต้องขอโทษที่การโพสต์ก่อนหน้านี้อาจจะดูรุนแรงเกินสมควร
ผมขอชี้แจงว่าที่ผมรับทำเคสของน้องซาร่าเพราะเห็นใจที่แม่ที่รักลูกมากๆดั่งดวงใจคนหนึ่งต้องมาเผชิญกับสถานการณ์เช่นในปัจจุบันผมอยากให้ทุกคนเปิดใจและมองอย่างเป็นกลางว่าทั้งน้องไมค์และน้องซาร่ามีส่วนในการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน ให้การศึกษาเล่าเรียนแก่น้องแม็กซ์เวลล์ทั้งคู่ โดยเขาแบ่งหน้าที่กันทำ พ่อทำมาหากิน หาเงินส่งเสียให้ลูกมาแล้วเกือบ 8 ล้าน ส่วนแม่ก็ผูกพันตั้งครรภ์ เลี้ยงลูก ให้น้ำนม อบรมบ่มนิสัย ให้ความรักมาโดยตลอด ทั้งคู่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดมาโดยตลอดครับ มันเทียบไม่ได้หรอกครับว่าใครทำหน้าที่ได้ดีกว่าใคร เพราะทั้งคู่ไม่ได้ทำหน้าที่เดียวกัน
ส่วนเรื่องอะไรที่ทั้งคู่เคยทำหรือพูดในอดีต ขอให้มองเป็นอดีตไป เพราะมันไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ การที่เราซ้ำเติมใครจากเรื่องที่ผ่านมาแล้วมันไม่ได้มีประโยชน์ใดๆ เกิดขึ้นเลยครับ
วันนี้เมื่อมีเรื่องขึ้นมาสู่ศาล และทางฝ่ายน้องไมค์ขอถอนคำร้องไม่รับเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ขอใช้อำนาจปกครองร่วม ที่ผมพูดว่าไม่ควรถอน ผมขอชี้แจงในประเด็นข้อกฎหมายนะครับ
- การขอรับรองบุตรเพื่อให้เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดา เป็นสิ่งที่ดีและสมควรทำครับ เพราะจะทำให้เด็กมีทั้งพ่อและแม่ที่ชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากทั้งพ่อและแม่ เมื่อเด็กโตขึ้นก็จะมีหน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงพ่อ-แม่ เมื่อชราเช่นเดียวกัน
- ส่วนอำนาจปกครองบุตร โดยหลักแล้วมาพร้อมกับการเป็นบิดาและมารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยอำนาจปกครองบุตรนี้จะทำให้บิดามารดา สามารถกำหนดถิ่นที่อยู่ของเด็กได้ ให้ทำงานตามสมควร ว่ากล่าวตักเตือน เรียกเด็กคืนจากผู้ที่ไม่ได้มีอำนาจปกครอง และยังจัดการทรัพย์สินและการต่างๆ ของเด็กได้ อย่างไรก็ดี หากมีเหตุการณ์ใดที่อาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยาก หรือขัดต่อประโยชน์และความผาสุกของเด็ก อาจสามารถกำหนดให้พ่อหรือแม่หรือบุคคลอื่นมีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงฝ่ายเดียวได้ โดยไม่กระทบต่อความเป็นบิดาและมารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในประเด็นของน้องไมค์และน้องซาร่า เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้อยู่กินกันฉันท์สามีภริยา ถ้าให้ทั้งคู่ใช้อำนาจปกครองร่วมกัน ทั้งคู่ก็จะสามารถกำหนดถิ่นที่อยู่ของลูกและอื่นๆ ได้ และหากเห็นไม่ตรงกันก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา ในกรณีนี้จึงควรมีผู้ใช้อำนาจปกครองเพียงคนเดียว และซึ่งน้องซาร่าเป็นแม่ของลูก คลุกคลีอยู่กับลูกมาทั้งชีวิตของลูก ให้ลูกกินนมจากเต้ามากว่า 4 ปี ทำหน้าที่ของแม่ได้ไม่บกพร่อง จึงควรจะให้อำนาจปกครองยังคงอยู่กับน้องซาร่า (เหมือนกรณีทั่วไปที่บิดามารดาหย่าร้างกัน ก็ต้องมาตกลงกันว่าจะให้ลูกอยู่กับใคร ให้คนนั้นมีอำนาจปกครองบุตร และให้อีกฝ่ายมีสิทธิเยี่ยมเยียนตามสมควร)
ดังนั้น คำคัดค้านฉบับใหม่ที่ผมเขียนให้ น้องซาร่าจึงยินยอมให้น้องไมค์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ขอให้อำนาจปกครองบุตรยังอยู่ที่แม่
จากเหตุการณ์นี้เข้าใจว่าน้องไมค์มาร้องต่อศาลเพราะต้องการรับรองบุตร รู้สึกถูกกีดกันและอยากมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับลูก วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องคือการที่จะต้องมาคุยมาไกล่เกลี่ยกับฝ่ายน้องซาร่าว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกถูกกีดกัน และน้องซาร่าก็ควรจะพยายามให้โอกาสพ่อได้เจอกับลูกและมีส่วนในการตัดสินใจมากขึ้น แต่ทั้งคู่ต้องคุยกันครับ
เมื่อถึงวันนัดไกล่เกลี่ย พ่อกับแม่ก็ควรจะมาไกล่เกลี่ย โดยสามารถตกลงกันได้ในชั้นไกล่เกลี่ยของศาลว่าให้อำนาจปกครองบุตรส่วนไหนอยู่กับพ่อและให้ส่วนไหนอยู่กับแม่
การถอนคำร้องไม่รับรองบุตรเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ขอใช้อำนาจปกครองร่วม นอกจากจะไม่ทำให้น้องไมค์บรรลุวัตถุประสงค์ของการยื่นคำร้องเข้ามาในครั้งนี้แล้ว ยังกระทบต่อสิทธิของน้องแม็กซ์เวลล์ด้วย ผมจึงเห็นว่าไม่ควรถอนการรับรองบุตร ควรจะถอนเฉพาะส่วนของการใช้อำนาจปกครองร่วมเพียงเท่านั้น เพราะการที่น้องไมค์ยื่นคำร้องเข้ามาแล้ว เป็นการแสดงเจตนาที่จะรับรองบุตรแล้ว เมื่อถอนไปศาลจะต้องถามฝั่งมารดาว่าคัดค้านการถอนหรือไม่ ทางน้องซาร่าอาจจำเป็นจะต้องคัดค้านไม่ให้ถอนในส่วนของการรับรองบุตรเพราะเป็นสิทธิของน้องแม็กเวลล์โดยตรง
เพราะหากน้องซาร่าไม่คัดค้าน ก็จะทำให้น้องแม็กเวลล์ไม่มีพ่อที่ชอบด้วยกฎหมาย และหากอนาคตน้องแม็กซ์เวลล์ต้องการให้พ่อรับรองบุตร หากฝ่ายบิดาไม่แสดงเจตนาไปจดทะเบียนรับรองบุตร น้องแม็กซ์เวลล์ก็อาจจะต้องกลับมาฟ้องต่อศาลอีกครั้ง
ในส่วนของหน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงดูบุตร ที่เป็นผลมาจากการเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ผมเห็นว่าน้องไมค์ยังคงสามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกบรรลุนิติภาวะก่อน เพราะจริงๆ แล้วบุตรผู้เยาว์จำเป็นต้องได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อและแม่ในระหว่างที่เขายังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องการได้รับการศึกษาเล่าเรียน โดยหากมีความกังวลว่าเงินจะไม่ถึงมือลูก ก็สามารถโอนตรงให้กับทางโรงเรียน หรือหากอยากให้ประกันสุขภาพลูก ก็สามารถจ่ายตรงให้กับบริษัทประกันได้ ดั่งเช่นที่ทำมาตลอด ไม่จำเป็นต้องโอนให้น้องซาร่าครับ
หวังว่าโพสต์นี้จะให้ประโยชน์แก่หลายๆท่าน และช่วยให้ปัญหาที่เกิดขึ้นของครอบครัวนี้ดีขึ้นในเร็ววันนะครับ
ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช
10/10/20”